แบ่งปัน

ประชุมเพื่อวางแผนด้านการรักษาความปลอดภัย ในการจัดมหกรรมทางเรือนานาชาติ

ที่ห้องประชุมทัพพระยา ศาลาว่าการเมืองพัทยา นาวาเอกประภาส สุดขาว ผู้อำนวยการกองยุทธการและข่าว ฐานทัพเรือสัตหีบ พร้อมด้วยนาวาเอก ศิลป์สมุจจ์ ปัญจะ ผู้อำนวยการกองยุทธการ กองเรือยุทธการ เป็นประธานการประชุมเพื่อวางแผนด้านการรักษาความปลอดภัย ในการจัดมหกรรมทางเรือนานาชาติ เนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปี อาเซียน โดยมีนางอรวรา กรพินธุ์ ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมการท่องเที่ยว นายธีรศักดิ์ จตุพงษ์ ผู้อำนวยการส่วนรักษาความสงบเรียบร้อยและความมั่นคง รักษาการแทนหัวหน้าสำนักปลัดเมืองพัทยา นายเอกราช คันธโร ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาพัทยา พันเอกสมศักดิ์ ตั้งดำรงธรรม รองเสนาธิการ มณฑลทหารบกที่ 14 ผู้แทนจาก สภ.เมืองพัทยา ตร.ท่องเที่ยว หัวหน้าชุดเฉพาะกิจอำเภอบางละมุง คณะทำงานเตรียมการรักษาความปลอดภัย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม

โดยการจัดมหกรรมทางเรือนานาชาติ เนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปี อาเซียน จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 13 – 22 พฤศจิกายน 2560 ในพื้นที่เมืองพัทยา ซึ่งในวันที่ 18 พฤศจิกายน 2560 มีพิธีสวนสนามทางเรือนานาชาติ เนื่องในโอกาสการครบรอบ 50 ปี การก่อตั้งอาเซียน โดยมีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธี และนอกจากนี้ยังมีผู้บัญชาการทหารเรือของประเทศในอาเซียน และนอกอาเซียน จำนวน 40 กว่าประเทศ เดินทางมาเข้าร่วมมหกรรมทางเรือนานาชาติ ดังนั้นเพื่อให้การจัดกิจกรรมระหว่างวันที่ดังกล่าวเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เมืองพัทยาพร้อมด้วยฐานทัพเรือสัตหีบ จึงต้องมีการประชุมเตรียมความพร้อมร่วมกันเพื่อหารือแนวทางวางแผนการดำเนินรักษาความปลอดภัย ซึ่งในที่ประชุมได้มีการเสนอให้มีการปิดพื้นที่ บริเวณท่าเทียบเรือท่องเที่ยวเมืองพัทยา (แหลมบาลีฮาย) ตั้งเวลา 06.00 น.- 12.00 น. และปิดการจราจรบริเวณชายหาดพัทยา ตั้งแต่เวลา 15.00 เป็นต้นไป ทั้งนี้ในประชุมยังไม่ได้มีมติที่ประชุมสรุปเรื่องเวลา ปิดท่าเรือฯ และปิดถนน ที่แน่ชัด โดยทางกองเรือยุทธการ ฐานทัพเรือสัตหีบ พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะนัดหมายประชุมย่อยเพื่อกำหนดเวลาเปิด – ปิด ที่แน่นอนต่อไป อย่างไรก็ตามในระหว่างการจัดงานทางกองทัพเรือก็ต้องขอความร่วมมือจากประชาชนนักท่องเที่ยวและเรือของผู้ประกอบการงดเข้าพื้นที่สำคัญในระหว่างที่มีพิธีการแต่หลังจากที่ช่วงพิธีการเสร็จสิ้นก็จะเปิดให้ผู้ประกอบการเดินเรือในเส้นทางที่กำหนดไว้ตามปกติเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวหลักของเมืองพัทยา

ทั้งนี้ในเรื่องของแนวทางการปฏิบัติและรายละเอียดที่ที่มีการเสนอแนะจากหน่วยงานต่างๆคงต้องมีการประชุมติดตามกันอย่างต่อเนื่องเพื่อที่จะได้ข้อสรุปแนวทาง ปฏิบัติที่จะแน่นอนในการที่จะนำไปเป็นแผนในการดำเนินการต่อไป