แบ่งปัน

ล่าระทึกตำรวจพัทยาล่อซื้อยาและปืนคนร้ายไหวตัว ซิ่งเก๋งคู่ใจหนีชนรถชาวบ้านพังยับทิ้งรถหลบหนีเข้าป่าลอยนวล

ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองพัทยา นำกำลังล่อซื้อยาเสพติดและ อาวุธปืน นัดรับของริมถนนสุขุมวิท ผู้ต้องหาไหวตัวถอยรถหนีกว่า 500 เมตร ชาวบ้านจอดติดแดงกระโจนหนีอุตลุด ก่อนชนเข้ากับรถยนต์กระบะ เจ้าหน้าที่ตัดสินใจไล่ยิงสกัดยาง คนร้ายเห็นท่าไม่ดีจึงกระโดดลงรถเก๋งคู่ใจวิ่งหนีเข้าป่า เจ้าหน้าที่เร่งติดตามตัว

เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 30 มิ.ย. 60 ร.ต.ท.ประสิทธิบุญ บุญประสิทธิ์ รอง สว.สืบสวน สภ.เมืองพัทยา นำกำลังติดต่อล่อซื้อยาเสพติดและอาวุธปืน ที่บริเวณริมถนนสุขุมวิทพัทยา แต่ผู้ต้องหาขับรถหลบหนีพุ่งชนรถประชาชนเสียหาย บริเวณปากซอยเขาตาโล

โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองพัทยาทำการล่อซื้อยาเสพติดประเภทที่ 1 (ยาไอซ์) 2 ถุง และอาวุธปืนขนาดจุด .38 มม. ราคา 20,000 บาท ซึ่งนัดส่งของกันริมถนนบริเวณหน้าสถานีน้ำมันปตท.ตรงข้ามห้างสรรพสินค้าเทสโก้โลตัส สาขาพัทยาใต้ เมื่อเจ้าที่ขับรถยนต์เข้าปาดหน้าเพี่อสกัดจับแต่ผู้ต้องหาเกิดไหวตัว ใส่เกียร์ถอยหลังเร่งเครื่องหลบหนีจากหน้าสถานีน้ำมัน ฝ่ากลางวงรถยนต์และรถจักรยานยนต์ประชาชนที่จอดรอสัญญาณไฟแดงแยกเทพประสิทธ์ จนชาวบ้านต้องขยับรถหนีกระเจิดกระเจิง ก่อนที่รถของผู้ต้องหาจะเสียหลักพุ่งไปชนเข้ากับรถยนต์กระบะที่ข้ามเข้าซอยเขาตาโล จนรถยนต์เก๋งคู่ใจของผู้ต้องหาไม่สามารถขับขี่ต่อไปได้

เมื่อผู้ต้องหาเห็นท่าไม่ดีเพราะทางเจาหน้าที่ตำรวจไล่ติดตามมาอย่างกระชันชิด ผู้ต้องหาจึงวิ่งลงจากรถเก๋งถอดเสื้อเกาะทิ้งแล้ววิ่งหลบหนีทะลุตลาดนัดเข้าป่าหลังตลาดหลบหนีไป เจ้าหน้าที่จึงได้ขอกำลังเสริมเพื่อปิดล้อมจับกุมตัว แต่ด้วยความมืดและป่ารกชัดเป็นบริเวณกว้างทำให้ไม่สามารถติดตามตัวคนผู้ต้องหาได้

ด้าน ร.ต.อ. ประสิทธิ์ บุญประสิทธิ์ หัวหน้าชุดปราบปรามยาเสพติดเปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ได้ให้สายติดล่อซื้อยาเสพติดพร้อมอาวุธปืน จาก นาย ทิศ โดยขายผ่านทางเฟสบุ๊ค ซึ่งใช้รูปโปร์ไฟล์คนอื่น นัดเจอกันที่ หน้าโรงเรียนบางละมุง เวลา 23.00 น แต่ทางแก๊งยาเสพติด ได้เปลี่ยนสถานที่ ซื้อขายที่ ปั้มน้ำมัน ปตท.พัทยาไต้ ขาเข้าสัตหีบ หลังจากรถของแก๊งยาเสพติดมาถึง รถของชุดปราบปรามยาเสพติดจะเข้าไปปิดท้าย เพื่อที่จะเข้าจับกุม แต่ทางแก๊งยาเสพติดรู้ว่าถูกล่อซื้อแน่จึงขับรถถอยหลังยาวประมาณ 1 กิโลเมตร จนไปชนกับรถชาวบ้านได้รับความเสียหายดังกล่าว เบื้องต้นทราบชื่อผู้ครอบครองรถยนต์คันดังกล่าวแล้วจะได้ส่งหมายเรียกเพื่อมาสอบปากคำว่ามีส่วนรู้เห็นด้วยหรือไม่ เกิดไม่มาก็จะขอหมายจับต่อไป ส่วนเรื่องที่มีอุปกรณ์ของตำรวจ ไม่แน่ใจว่า เป็นตำรวจ หรือตำรวจอาสา หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับตำรวจ หรือจะนำอุปกรณ์ของตำรวจมาใส่ไว้ในรถเพื่อไว้เปิดทางระหว่างที่เห็นด่านตำรวจก็เป็นไปได้