แบ่งปัน

ลูกครึ่งวัย 13 ปี แจ้งความพนักงานซีนวอร์คเกอร์ชาวเขมรทำอนาจาร

เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนพัทยาสอบเครียดแรงงานชาวเขมร5คน หลังลูกครึ่งไทยอเมริกาเข้าแจ้งความร้องทุกข์ถูกพนักงานซีนวอร์คเกอร์ชาวเขมรกระทำอนาจาร รายนี้เปิดเผยช่วงเย็นที่ผ่านมา ( 10 ก.ค.60 ) นาง แอนน่า (นามสมมุติ) อายุ 50 ปี พาลูกครึ่งไทย-อเมริกาวัย 13 ปี ด.ญ. ทิฟฟานี่(นามสมมุติ) อายุ 13 ปี เข้าแจ้งความร้อนทุกข์กับ พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร ผกก.สภ.เมืองพัทยา หลังถูกพนักงานซีนวอร์คเกอร์ชาวเขมรของอเรือก้องสมุทร 8 ทำอนาจารใต้ท้องทะเลขณะกำลังเดินชมปะการังและให้อาหารปลาใต้ท้องทะเล

ด้าน ด.ญ.ทิฟฟานี่ เล่าว่า ได้เดินทางมาท่องเที่ยวที่เมืองพัทยากับมารดาและญาติ ในขณะซื้อทัวร์ซีนวอร์คเกอร์โดยลงเรือก้องสมุทร 8 ในขณะเดินอยู่ใต้น้ำทะเลเพื่อชมปะการังและให้อาหาร พนักงานชาวเขมรของซีนวอร์คเกอร์ที่แต่งกายชุดดำน้ำที่คอยดูแลนักท่องเที่ยวขณะเดินอยู่ใต้ทะเล จำนวน 2 คน ได้พยายามเอามือลวงผ่านเสื้อผ้าเข้ามาจับหน้าอก จำนวน 3-4 ครั้ง ซึ่งตนเองพยายามปัดออก แต่พนักงานชาวเขมรยังพยายามลวงเข้าไปในกางเกงอีก ซึ่งตนพยายามขัดขืน จนขึ้นมาบนเรือ และนำเรื่องมาเล่าให้มารดาฟัง ก่อนมารดาปรึกษากับญาติคนไทย จึงเดินทางเข้ามาแจ้งความร้อนทุกข์

หลังจากรับเรื่องร้องทุกข์ทาง พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร ผกก.สภ.เมืองพัทยา จึงสั่งการให้ ร.ต.อ.อรรคพงศ์ จตุพรม รอง สว.สส. นำกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบทันที เพราะเป็นการสร้างความเสื่อมเสียให้กับภาพพจน์การท่องเที่ยวของเมืองพัทยา ซึ่งทางร.ต.อ.อรรคพงศ์ รอง สว.สส. นำกำลังเข้าตรวจสอบที่เรือดังกล่าวที่จอดอยู่บริเวณหาดทองหลาง บ้านเกาะล้านพบเพียงคนดูแลเรือเท่านั้น จึงขึ้นฝั่งเกาะล้านเพื่อติดตามตัวพนักงานซีนวอร์คเกอร์ชาวเขมร ซึ่งสามารถควบคุมตัวพนักงานซีนวอร์คเกอร์ชาวเขมรได้ 5 คน เพื่อควบคุมตัวมายังฝั่งพัทยาในการสอบสวน

ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนใช้เวลากว่า 5 ชม. พนักงานซีนวอร์คเกอร์ชาวเขมรทั้ง 5 คน ยังให้การปฏิเสธ แต่เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ชุดเดียวกันสืบทราบว่ามี 3 ใน 5 คน มีพฤติกรรมชอบล่วงเกินนักท่องเที่ยวต่างชาติในการลงไปคอยดูแลใต้น้ำ และมักจะฉวยโอกาสจับหน้าอกบาง จับส่วนอื่นบางในเวลาช่วยจัดท่าทางเวลาถ่ายรูปใต้น้ำ ซึ่งต้องรอภาพถ่ายใต้น้ำในขณะผู้เสียหายลงไปอยู่ที่ทางผู้เกี่ยวข้องจะนำมาให้ในวันพรุ่งนี้ เพื่อเป็นหลักฐานในการดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่ากรณีดังกล่าวจากการพูดคุยสอบถามพบว่ามีเหตุการณ์ทำนองดังกล่าวหลายครั้งแต่ไม่มีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวชาวจีนที่โดนอนาจาร   นอกจากนั้นฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าพนักงานซีนวอร์คเกอร์ควรจะเป็นคนไทยที่มีการผ่านการฝึกฝนมากกว่าการที่ผู้ประกอบการเรือซีนวอร์คเกอร์ใช้พนักงานชาวเขมร ซึ่งบริเวณเกาะล้านมีเรือแบบดังกล่าวจำนวนมาก เกรงอาจจะส่งผลเสียมากกว่าผลดีกับเมืองพัทยา