แบ่งปัน

16_04_08-11_02_11 16_04_08-11_02_19 16_04_08-11_02_29 16_04_08-11_02_39

หนุ่มโร่แจ้งตำรวจหลังถูกตำรวจเก๊หญิงหลองลวงสูญเงินร่วม2แสน อ้างเป็นตำรวจสังกัดสถานีตำรวจภูธรเสม็ด   เมืองชล   มาหาที่โรงพักถึงบางอ้อไม่ใช่ตำรวจ    ตามจับถึงหอพักพบอยู่กินกับแฟนหนุ่ม อ้างอยากเป็นตำรวจ

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่  7 เม.ย.  59   นายวาทิต   กล้าหาญ อายุ 32 ปี   เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่สถานีตำรวจภูธรเสม็ด    โดยมี พ.ต.อ.ชูธเรศ ยิ่งยงดำรงสกุล   ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเสม็ด เป็นผู้รับเรื่อง     หลังจากถูกนางสาวดวงใจ แสงโสม อายุ 26 ปี อ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรเสม็ด ยศร้อยตำรวจโทหญิง หลอกให้มีสัมพันธ์ลึกซึ้งแล้วเชิดทรัพย์สินหลบหนีหลายรายการ   ประกอบด้วย รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นฟีโน่ ทะเบียนป้ายแดง 1 คัน นาฬิกาแบรนด์เนม 1 เรือน เงินสด 25,000 บาท สร้อยคอทองคำน้ำหนัก 1 บาท และ 2 สลึง รวม 2 เส้น และ โทรศัพท์ยี่ห้อซัมซุง  เอส 6 1  เครื่อง รวมมูลค่ากว่า 2 แสน บาท

นายวาทิตเล่าว่า รู้จักกับกับผู้ก่อเหตุราว 3 เดือน ผ่านโปรแกรมแชทหาคู่ โดยผู้ต้องหาบอกตนว่าทำอาชีพนายตำรวจอยู่สถานีตำรวจภูธรเสม็ด     และเมื่อเวลาเจอกันก็แต่งชุดตำรวจ ทำให้ตนเชื่อสนิทใจว่าเป็นตำรวจจริง    จากนั้นพูดคุยสนิทสนมมีความสัมพันธ์กันลึกซึ้ง ต่อมาผู้ต้องหาหลอกให้ตนเองซื้อรถจักรยานยนต์ให้ พร้อมกับขอเงินสดและทองรูปพรรณรวมทั้งทรัพย์สินอื่น ๆ    อ้างว่าจะนำไปขายรวบรวมมาซื้ออาวุธปืนพกประจำกาย ตนจึงยินยอมให้ แต่หลังจากได้เงินและทรัพย์สินก็หายหน้าติดต่อไม่ได้    ตนจึงมาตามหาที่สถานีตำรวจภูธรเสม็ด ซึ่งผู้ต้องหาอ้างว่าเป็นที่ทำงาน แต่เมื่อสอบถามกลับไม่มีใครรู้จัก จึงรู้ทันทีว่าถูกหลอกแล้ว

หลังจากเจ้าหน้าที่ทราบข้อมูลจึงทำการบุกไปตรวจค้นยังบ้านพักของ นางสาว ดวงใจ แสงโสม ภายในหอพักคุณนาย   หมู่ 3 ตำบลเสม็ด  อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี พบนางสาวดวงใจอยู่กับแฟนหนุ่ม    จึงทำการตรวจค้นพบชุดเจ้าหน้าที่ตำรวจหญิง พร้อมเครื่องประดับติดยศร้อยตำรวจโท และป้ายชื่อ   จึงทำการรวบรวมเก็บหลักฐานทั้งหมดไว้ ก่อนพาตัวมาสอบสวนต่อยังสถานีตำรวจภูธรเสม็ด

โดย  นางสาวดวงใจ  บอกว่า ตนอยากเป็นตำรวจ มีใจรักในอาชีพนี้ แต่ไม่มีโอกาสได้เป็นจึงแอบไปตัดชุดตำรวจมาสวมใส่ จากนั้นเอาไปแอบอ้างหลอกเอาทรัพย์สินของผู้เสียหายมาจริง โดยในส่วนของเงินสดทองรูปพรรณได้ขายเอาเงินไปใช้ในชีวิตประจำวันแล้ว ส่วนรถจักรยานยนต์อ้างว่าอยู่ที่บ้านมารดาในพื้นที่อำเภอศรีราชา

เบื้องต้นผู้เสียหายขอให้นำรถจักรยานยนต์มาคืนแล้วจะไม่เอาความ แต่ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรเสม็ด ต้องทำการแจ้งข้อกล่าวหาตามกฎหมาย ในความผิดฐานแต่งเครื่องแบบโดยไม่มีสิทธิ์และชอบด้วยกฎหมาย มีโทษจำคุก 3-5 ปี และข้อหาไม่มีสิทธิ์หรือใช้ยศและเครื่องราชอิสริยาภรณ์หรือเครื่อง หมายเครื่องราชอิสริยาภรณ์ กระทำการเช่นนั้นเพื่อให้คนอื่นเชื่อว่าตนมีสิทธิ์ มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 2,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ   ควบคุมตัวดำเนินคดีทันที

อำนาจ   /  ศรีราชา