แบ่งปัน

ผู้จัดการ มิตรไมตรีคลิกเวชกรรมแจงยกเลิกสัญญาจ้างแพทย์เจ้าปัญหาไปแล้วนานกว่า 2 เดือน ระบุมีชอบนำสุนัขมาเลี้ยงในคลินิกสร้างความเดือดร้อนรำคาญ และยังมีพฤติกรรมถูกร้องเรียนจากผู้ป่วยหลายครั้ง แต่ไม่พบว่ามีการทำทารุณกรรมสัตว์ ขณะที่พยานลับที่ผู้เสียหายระบุว่าทำทารุณสัตว์ในคลินิกยังไม่ทราบเรื่อง แต่พร้อมทำการสอบสวน

จากกรณีที่ตัวแทนกลุ่ม “Watchdog Thailand” พาผู้เสียหายเป็นเจ้าของฟาร์มสุนัขจำนวน 2 ราย เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยระบุว่าลูกสุนัขที่ขายให้กับ นายแพทย์รายหนึ่ง ซึ่งทำงานอยู่ที่คลินิกเวชกรรมในพื้นที่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ทำการทารุณกรรมสัตว์ทั้งทางร่างกายและจิตใจ และทำให้เสียทรัพย์ พร้อมรวบรวมพยานหลักฐานส่งมอบให้กับตำรวจดำเนินคดี หลังแพทย์รายนี้ส่งสุนัขคืนเพื่อขอตัวใหม่ โดยแจ้งว่าซ้อสุนัขมาไม่ตรงตามที่ตกลง แต่สุนัขที่ส่งกลับนั้นกับมีสภาพคล้ายถูกทารุณ เนื่องจากตาฝ้าฝาง ขนร่วง สีขนถูกย้อม และผิวหนังอักเสบนั้น

ล่าสุดเวลา 18.00 น.วันเดียวกันนี้ (17 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบที่ “มิตรไมตรีคลินิกเวชกรรม” ตั้งอยู่เลขที่ 99/29-30 ซอยเขาน้อย ม.5 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งถูกระบุว่าเป็นสถานที่ที่นายแพทย์คนดังกล่าวปฏิบัติงานอยู่ โดยพบว่าคลินิกแห่งนี้เป็นคลินิก 1 ใน 5 สาขาในพื้นที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ซึ่งรับรักษาโรคทั่วไป โดยพบว่ายังคงเปิดให้บริการตามปกติ แต่ไม่พบตัวนายแพทย์คนดังกล่าวเนื่องจากได้รับแจ้งจากทางคลินิกว่าถูกยกเลิกสัญญาจ้างไปก่อนหน้านี้หลายเดือนแล้ว

นาย ณัฐพัชร์ ทับทิม อายุ 32 ปี ผู้จัดการมิตรไมตรีคลินิกโซน จ.ชลบุรี ซึ่งรับผิดชอบดูแลคลินิกดังกล่าวเปิดเผยว่า นายแพทย์ที่มีปัญหานี้เคยทำงานเป็นแพทย์ประจำที่คลินิกแห่งนี้จริง โดยทำงานได้ประมาณ 1 ปีเศษแล้ว แต่มาระยะหลังนายแพทย์รายนี้มักชอบนำสุนัข พันธุ์เล็ก จำพวก ปอมเมอร์รีเนียน หรือ บลูด๊อก มาเลี้ยงในคลินิกครั้งละ 2-3 ตัว ซึ่งมองว่าไม่เหมาะสม อีกทั้งยังสร้างปัญหามลพิษทางกลิ่นและความเดือดร้อนรำคาญให้กับผู้มาใช้บริการจนมีการร้องเรียน โดยทางคลินิกมองว่าขัดกับนโยบายเนื่องจากเป็นคลินิกเอกชนจึงต้องให้ความสำคัญกับลูกค้าเป็นหลัก จึงเคยว่ากล่าวตักเตือนไปแล้วหลายครั้ง จนเริ่มมีปัญหาระหว่างกัน

ต่อมานายแพทย์รายนี้ได้ย้ายออกไปเช่าห้องพักอยู่ด้านนอก พร้อมนำสุนัขออกไปเลี้ยง แต่จากการรายงานของพนักงาน ยังพบว่ามีการแอบนำสุนัขมาที่คลินิกบ่อยครั้ง ที่สำคัญยังมักจะแอบออกจากคลินิกกลับไปที่พักเพื่อดูแลสุนัข ทิ้งให้ลูกค้าต้องมานั่งคอยบริการ อีกทั้งยังมีพฤติกรรมที่ถูกร้องเรียนจากลูกค้าหลายครั้งว่าเป็นคนไม่ค่อยสุภาพ สุดท้ายทางคลินิกจึงตัดสินใจเลิกจ้างไปตั้งแต่วันที่ 30 พฤศจิกายน 2560 ที่ผ่านมา

นายณัฐพัชร์ กล่าวต่อไปว่าสำหรับปัญหาการทารุณกรรมสัตว์นั้น ส่วนตัวแล้วไม่เคยพบเห็นและไม่เคยได้รับรายงานจากพนักงาน จะรู้เพียงชอบนำสุนัขมาเลี้ยงในคลินิก ซึ่งช่วงที่ผ่านมาก็เห็นว่าสุนัขก็มีสุขภาพแข็ง แรงดี แต่ส่วนภาพที่ออกเป็นข่าวก็ไม่ทราบได้ว่าไปทำทารุณหรือทำอะไรกับสัตว์ที่ไหน อย่างไร ส่วนกรณีที่ผู้เสีย หายระบุว่ามีพยานลับ ซึ่งเคยเป็นพนักงานในคลินิกที่เคยช่วยหมอฉีดยาให้สุนัขนั้น เรื่องนี้คงจะต้องทำการสอบสวนต่อไป

กรณีนี้ทำให้คลินิกได้รับผลกระทบและเสียหายด้านชื่อเสียงอยู่บ้าง แต่มองว่าเป็นเรื่องส่วนบุคคลมาก กว่า เพราะคลินิกแห่งนี้มีสาขาทั่วประเทศหลายสิบแห่ง คงจะไม่เอาชื่อเสียงมาแลกกับเรื่องดังกล่าว ซึ่งก็ได้พยายามชี้แจงกับสื่อมวลชนไปในหลายองค์กรแล้ว