สาวนครพนมวัย 22 ปี ถูกชายฉกรรจ์แต่งกายคล้ายตำรวจออกอุบายร่วมหลับนอนรีดเงิน
เมื่อเวลา 22.00 น.( 4 ก.พ.61 ) น.ส.จีรนันท์ อักษร อายุ 22 ปี บ้านเดิมอยู่จังหวัดนครพนม เดินทางเข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.วัฒนา ประดิษฐ์ รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองพัทยา หลังถูกชายแต่งกายในเครื่องแบบเหมือนเจ้าหน้าที่ตำรวจ บุกขึ้นอพาร์ทเม้นแห่งหนึ่ง ภายในซอยบงกช พัทยาใต้ เมืองพัทยา ตรวจค้นแล้วพยายามบังคับให้หาเงินมาเคลียร์ มิเช่นนั้นจะจับดำเนินคดีก่อนทั้งสองจะพาออกไป ผลัดกันล่วงละเมิดทางเพศในม่านรูด
โดย น.ส. น้อย นามสมมุติ เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า เมื่อวันที่ 3 ก.พ. ที่ผ่านมา ก่อนเกิดเหตุตนเองได้นัดกับเพื่อนชายให้มาหาที่ห้องพัก จากนั้นไม่นานได้มีชายแต่งกายเหมือนเจ้าหน้าที่อาสาสมัคร 1 คน และแต่งตัวเหมือนเจ้าหน้าที่ตำรวจ 1 คน มาเคาะประตูห้องก่อนจะเข้ามาแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตรวจค้นหาสิ่งผิดกฎหมาย ก่อนเพื่อนชายได้เปิดประตูห้อง จากนั้นคนที่แต่งกายคล้ายตำรวจอาสาได้พาตนเข้าไปในห้องน้ำ ก่อนพูคุยว่าให้นำเงินมาแลกกับการไม่จับกุมจำนวน 30,000 บาท เพราะเพื่อนผู้ชายทางตำรวจได้ค้นพบยาไอซ์ เราก็มีความผิดด้วย ตนเองบอกไม่มีเงินจากนั้นทั้ง 2 คนก็พาตนเองพร้อมเพื่อนชายไปเปิดห้องพักซึ่งตนจำไม่ได้
จากนั้นผู้ที่แต่งกายเหมือนเจ้าหน้าที่ตำรวจอ้างว่าจะไปเข้าเวร และได้พาเพื่อนชายของตนออกจากห้องพักไป ทิ้งให้ตนเองอยู่กับผู้ที่แต่งตัวคล้ายเจ้าหน้าที่อาสาสมัคร ก่อนคนที่แต่งกายคล้ายตำรวจอาสาได้การเจรจากันอีกครั้ง แต่ตนเองก็บอกว่ามีเงินเพียง 2,700 บาทเท่านั้น จึงมอบเงินนั้นให้ไป แต่เขายังบอกไม่พอเรียกร้องจะเอาให้ครบ 30,000 บาท ตนเองจึงบอกว่าไม่มีและไม่อยากโทไปขอแม่เพราะกลัว ทางเขาจึงออกอุบายขอร่วมหลับนอนกับการไม่จับกุมดำเนินคดี โดยอ้างว่าจะคุยกับคนที่แต่งกายคล้ายตำรวจให้ ตนจึงยอมมีอะไรด้วยจากนั้นไม่นานคนที่แต่งกายคล้ายตำรวจก็เข้ามาและมาข่มขู่ให้ตนยอมมีอะไรด้วย ตนจึงจำใจยอม และคนที่แต่งกายคล้ายตำรวจก็ข่มขู่อีกว่าให้หาเงินมาให้ครบ 30,000 บาท ถ้าไม่ครบตนเองต้องยอมร่วมหลับนอนด้วย หลังจากโดนปล่อยตัวมาตนเองเกิดความกลัว ซึ่งคนที่แต่งกายคล้ายตำรวจได้โทรศัพท์มาหาตนอีก แต่ตนไม่กล้ารับและกลัวจึงเดินทางเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.หนองปรือ
ในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรวจสอบที่อพาร์ทเม้นดังกล่าว พบว่ากล้องวงจรปิดสามารถจับภาพไว้ได้อย่างชัดเจนขณะที่ผู้ก่อเหตุทั้งสองราย ซึ่งแต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมีใช้ผ้าปิดปากปิดจมูกอำพรางใบหน้า อีกรายแต่งกายเหมือนกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสวมหมวกคล้ายหมวกสายตรวจ ใช้ผ้าปิดปากปิดจมูกอำพรางใบหน้าเช่นกัน เมื่อเดินเข้ามายังอพาร์ทเม้นท์ก็พยายามเดินหลบกล้องวงจรปิด แต่กล้องวงจรสามารถจับภาพขณะที่เข้าและออกไว้ได้อย่างชัดเจน อย่างไรก็ตามยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจริงหรือไม่ และเป็นเจ้าหน้าที่จากสถานีใด จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนลงพื้นที่หาเบาะแสเพื่อติดตามมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าหลังจากผู้สื่อข่าวได้เดินทางบันทึกภาพผู้เสียหายเข้าแจ้งความ ทางร้อยเวรเจ้าของคดีได้ทำการต่อว่าผู้เสียหาย ว่าทำไมไปให้รายละเอียดกับผู้สื่อข่าว ผู้สื่อข่าวมันเกี่ยวอะไรจนผู้เสียหายเกิดความเกรงกลัว เพราะคนร้ายที่มาข่มขู่ก็แต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งกลัวเหตุการณ์ดังกล่าวไม่มีอะไรคืบหน้าเพราะถูกร้อยเวรเจ้าของคดีข่มขู่มาทั้งๆที่ตนเองเป็นผู้เสียหายว่าจะไม่ปลอดภัยกับชีวิตด้วย
