แบ่งปัน

คณะกรรมการฯท่าเทียบเรือท่องเที่ยวเมืองพัทยา เร่งนักกฎหมายส่วนพัฒนารายได้ข้อบัญญัติการใช้ประโยชน์พื้นที่บริเวณท่าเทียบเรือ หลังพบที่ผ่านมายังไม่ได้มีการเรียกเก็บเงินจากผู้ประกอบการรายใดที่นำเรือมาจอดยังท่าเรือแหลมบาลีฮาย เพื่อเป็นการรักษาทรัพย์สินของเมืองพัทยา

ที่ศาลาว่าการเมืองพัทยา พล.ต.ต.อนันต์ เจริญชาศรี นายกเมืองพัทยาในฐานะประธานกรรมการบริหารสวนสาธารณะท่าเทียบเรือท่องเที่ยวเมืองพัทยา เป็นประธานนำประชุมคณะกรรมการทั้งหมดที่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง

ตามที่เมืองพัทยาได้ทำการปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณลานสวนสาธารณะท่าเทียบเรือท่องเที่ยวเมืองพัทยา ศาลา ที่พักและสะพานท่าเทียบเรือเสร็จสิ้นเรียบร้อยและปัจจุบันมีประชาชนและนักท่องเที่ยวไปใช้บริการที่ท่าเทียบเรือในแต่ละวันเป็นจำนวนมาก จึงต้องมีการมอบหมายหน้าที่รับผิดชอบในการใช้ประโยชน์และดูแลรักษาอาคารและสถานที่ดังกล่าว เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในการใช้อาคารและสถานที่ในอนาคต ทางที่ประชุมจึงได้มีการมอบหมายหน้าที่แยกออกเป็นส่วนต่างๆโดยมีสำนักปลัดเมืองพัทยาดูภาพโดยรวมทั้งหมดและแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบไปยังหน่วยงานต่างๆอย่างชัดเจน ตั้งแต่ การดูแลทำความสะอาด น้ำพุ ต้นไม้ ไฟในสวน เป็นสำนักสิ่งแวดล้อม, งานซ่อมแซม ปรับปรุงครุภัณฑ์ สำนักการช่าง, ดูแลความเรียบร้อยทั่วไป อาคาร ฝ่ายกิจการพิเศษส่วนรักษาความสงบ สำนักปลัด

ทั้งนี้ในที่ประชุมยังได้มีการประชุมพิจารณาการจัดหาผลประโยชน์เพื่อให้เป็นรายได้ของเมืองพัทยาซึ่งแบ่งออกเป็นส่วนต่างทั้งหมด 4 ส่วน คือ ลานบาลีฮาย ท่าเทียบเรือ อาคารจอดรถ และอาคารรับรองนักท่องเที่ยว ในที่ประชุมได้มีการหยิบยกปัญหาการจัดเก็บค่าธรรมเนียมในการใช้ท่าเทียบเรือที่ผ่านมายังไม่มีการกำหนดข้อบัญญัติเมืองพัทยาเรื่องการจอดเรือ เทียบเรือ และการใช้ประโยชน์พื้นที่บริเวณท่าเทียบเรือ เพื่อมาบังคับใช้จึงทำให้เกิดปัญหาตั้งแต่กรณีของผู้ประกอบการเดินเรือเฟอร์รี่ข้ามอ่าวไทย พัทยา-หัวหินมาขอใช้ท่าเทียบเรือแหลมบาลีฮายโดยไม่เสียค่าธรรมเนียมใดๆมาโดยตลอด เมื่อครบกำหนดที่ทดลองใช้ มีการยื่นหนังสือขอใช้ต่อโดยไม่ขอเสียค่าธรรมเนียมใดๆ ซึ่งในกรณีนี้ทางคณะกรรมการฯมีความเห็นตรงกันว่าไม่ควรจะให้ผู้ประกอบการมาใช้ท่าเทียบเรือโดยไม่เสียค่าธรรมเนียมใดๆเนื่องจากผู้ประกอบการมีเดินรายโดยซึ่งเป็นรายได้ของผู้ประกอบการ แม้ที่ผ่านมาผู้ประกอบการจะพบกับภาวะขาดทุนจากการเปิดให้บริการผู้ประกอบการควรแบกรับภาระเองเพราะหากผู้ประกอบการได้กำไรในการเดินเรือทางเมืองพัทยาไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียในรายได้ดังกล่าวอยู่แล้ว  ดังนั้นจึงเห็นสมควรให้ทางฝ่ายกฎหมายของส่วนพัฒนารายได้เร่งเขียนข้อบัญญัติฯในการจัดหาประโยชน์ที่ครอบคลุมด้วยวิธีคิดตั้งแต่หาค่าต้นทุน ค่าซ่อมแซมในแต่ละปี และนำมาให้คณะกรรมการร่วมพิจารณา ต้องให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของเมืองพัทยาทั้งนี้ เพื่อรักษาผลประโยชน์ของเมืองพัทยา

อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาทางเมืองพัทยาได้ใช้งบประมาณจำนวน 24 ล้านในการปรับปรุงสะพานคาดว่าจะสามารถใช้งานได้ประมาณ 3 -5 ปี เท่านั้น ล่าสุดเมืองพัทยากำลังเร่งของบประมาณในการสร้างสะพานขึ้นมาใหม่ผ่านงบของโครงการ EEC