แบ่งปัน

 

เคลียร์ไม่ลงตัว หนุ่มกะลา ยื่น 1 แสนประกันตัวหมายจับฐานละเมิดลิขสิทธิ์เพลงดัง ยาม ค่ายมิวสิค บั๊ค ด้านเจ้าตัวเผยยอมรับผิดแต่ไม่เจตนาพร้อมรับผิดชอบ

ซึ่งต่อมาทาง นาย ณพสิน แสงสุวรรณ หรือ “หนุ่ม กะลา” ได้เดินทางพร้อมด้วยทนายความและกลุ่มเพื่อนเข้าพบ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี เพื่อรับฟังข้อกล่าว หาตาม พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ 2537 ในมาตราที่ 27 ที่กระทำอย่างใดอย่างหนึ่งแก่งานอันมีลิขสิทธิ์โดยไม่ได้รับอนุญาต ตามมาตรา 15(5) ได้แก่การทำซ้ำหรือดัดแปลงและเผยแพร่ต่อสาธารณะ มาตรา 28 กระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งแก่โสตทัศนวัสดุ ภาพยนตร์หรือสิ่งบันทึกเสียงอันมีลิขสิทธิ์โดยไม่ได้รับอนุญาต และ 29 (3) จัดให้ประชาชนฟังหรือชมงานแพร่เสียงแพร่ภาพ โดยเรียกเก็บเงินหรือผลประโยชน์อย่างอื่นในทางการค้า ซึ่งมีโทษความผิดทางอาญาจำคุก 4-6 ปี และปรับ 1 แสน -8 แสนบาท

โดย นายณพสิน แสงสุ วรรณ หรือ “หนุ่ม กะลา” ได้รับฟังข้อกล่าวหาเบื้องต้น ก่อนถูกเชิญตัวไปสอบปากคำตามขั้นตอน ซึ่งต่อมาทางเจ้าหน้าที่ได้เชิญตัว นาย ชนินทร์ วรากุลนุเคราะห์ กรรมการบริษัท เพาเวอร์ เทรเซอร์ จำกัด หรือ มิวสิคบั๊ค เข้ามาร่วมเจรจาไกล่เกลี่ย โดยใช้เวลากว่า 2 ชม.ซึ่งผลสรุปว่าทั้ง 2 ฝ่ายไม่สามารถตกลงกันได้ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบ โดย นาย ณพสิน แสงสุวรรณ หรือ “หนุ่มกะลา” ได้ยอมรับผิด และขอประกันตัวในวงเงิน 1 แสนบาท

นาย ชนินทร์ วรากุลนุเคราะห์ กรรมการบริษัท เพาเวอร์ เทรเซอร์ จำกัด เปิดเผยว่าเรื่องที่เกิดขึ้นถือว่าหลายกรรม หลายวาระ ทางบริษัท จึงได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย เนื่องจากถูกละเมิด ซึ่งแท้ จริงแล้วพยายามพูดคุยและเจรจากับศิลปินมาแล้วหลายครั้งแต่ก็ตกลงไม่ได้ นอกจากนี้ยังเคยเดินทางไปพบตัวที่ตึกแกรมมี่ แต่เจ้าตัวก็ไม่ยอมลงมาพบจึงปล่อยให้เป็นไปตามขบวนการทางกฎหมาย ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องเคารพและให้ความสำคัญ โดยหลักการแล้วการดำเนินการครั้งนี้ไม่ได้มีเจตนาในเรื่องของการเรียกร้องอะไรมากมาย แต่เพลงนี้เป็นลิขสิทธิ์ของบริษัทที่ถือเป็นทรัพย์สิน เมื่อมีคนมาขโมยออกไป ก็คงต้องขอคืนหรือเรียกร้องค่าเสียหายตามระเบียบ ส่วนที่ว่าจะเคลียร์อย่างไร เท่าไหร่หรือเมื่อไหร่นั้นคงเป็นเรื่องที่จะพูดคุยกันคงบอกในขณะนี้ไม่ได้ ซึ่งส่วนตัวได้ให้เบอร์โทรศัพท์กับ “หนุ่มกะลา” ไปแล้ว และก็พร้อมเจรจาทุกเมื่อ ซึ่งหากตกลงกันได้ก็พร้อมถอนคดี เพราะเป็นเรื่องที่สามารถตกลงและยมความกันได้

ขณะที่ นายไพศิษฐ์ ชาครานนท์ ทนายความส่วนตัวของ “หนุ่มกะลา” เผยว่าที่ผ่านมา “หนุ่ม” นำเพลงนี้ไปร้องแสดงตามงานต่างๆทั่วประเทศ ตั้งแต่ช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงธันวาคม 60 ด้วยความที่เข้าใจว่าเพลงนี้เป็นลิขสิทธิ์ของ บ.แกรมมี่ ต้นสังกัด โดยไม่ทราบว่าก่อนว่าเพลงนี้มีปัญหา และไม่มีเจตนาที่จะกระทำผิดกฎหมายแต่อย่างใด กระทั่งมาทราบว่ามีการแจ้งความดำเนินคดีใน 47 สถานีทั่วประเทศ ในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา ซึ่งก็ไม่ได้ละเลยหรือนิ่งเฉยโดยได้พยายามติดต่อพนักงานสอบสวน และค่ายเจ้า ของลิขสิทธิ์มาตลอดแต่ก็หาข้อยุติไม่ได้ ขณะนั้น “หนุ่มกะลา” จึงประสานให้ตนเข้ามาทำหน้าที่ในการดูแลเรื่องคดีกระทั่งมีการออกหมายจับในพื้นที่เมืองพัทยาเป็นที่แรก จึงได้เดินทางมารับฟังข้อกล่าวหาและประ กันตัวในครั้งนี้ สำหรับคดีนี้เป็นความเข้าใจผิดและความผิดพลาดของศิลปินเอง ที่ไม่ทราบถึงกรณีดังกล่าวมาก่อน และเมื่อทราบว่ามีปัญหาก็ไม่เคยนำเพลงนี้มาเล่นหรือแสดงอีก อย่างไรก็ตามคดีนี้เป็นคดีที่ยอมความกันได้ และตัวศิลปินก็พร้อมเจรจายินดีชดใช้และเยียวยา

ด้าน นายณพสิน แสงสุวรรณ หรือ “หนุ่ม กะลา” เปิดใจว่าเรื่องนี้ต้องขอ “ยอมรับผิด” แต่ที่ทำไปเพราะไม่ทราบว่าเป็นเพลงที่มีปัญหา และไม่เคยได้รับแจ้งมาก่อน อย่างไรก็ตามเมื่อเกิดปัญหาขึ้นก็ไม่ได้นิ่งนอนใจและพยายามประสานงานเพื่อแก้ไขมาตลอด แต่ติดปัญหาบางอย่างจึงทำให้เกิดความล่าช้ากระ ทั่งมีหมายจับ ส่วนตัวแล้วอยากให้ทุกอย่างจบลงด้วยดี แม้จะมีผลกระทบกับงานเป็นอย่างมากเพราะต้องทำงานตลอดทั้ง 7 วัน ทำให้การพักผ่อนน้อยเพราะต้องเดินทางไปพบพนักงานสอบสวนตามสถานีต่างๆทั่วประเทศ ขณะที่การเจรจากับเจ้าของลิขสิทธิ์เพลงจากนี้คงจะมีการนัดเพื่อหาทางออกและต้องขอความอนุเคราะห์และความเห็นใจจากค่ายเพลงด้วย เพราะที่ทำไปเป็นเรื่องที่ไม่ตั้งใจหรือเจตนา ส่วนเรื่องที่เกิด ขึ้นต้องขอขอบคุณแฟนเพลงทุกคนที่คอยให้กำลังใจ ส่วนที่สงสัยว่าทำไมนิ่งเฉยจนปล่อยให้มีการออกหมายจับนั้น ยืนยันว่าไม่ได้บ่ายเบี่ยงหรือหลบเลี่ยงแต่เป็นความผิดพลาดเรื่องของเวลาเท่านั้น…..