ภาพ/ข่าว อัมพร
เดินหน้าต่อบ้านพญาไม้ปรับเปลี่ยนเป็นสร้างบ้านทรงไทยและทำเป็นตลาดเก่าสมัยโบราณแทน
ล่าสุด นายขุนทอง อู่เงิน และลูกสาว พญ.สุทธิชา อู่เงิน เจ้าของบ้านพญาไม้ ได้ทำการทำบุญให้กับบ้านพญาไม้เพื่อปัดรังควาญสิ่งไม่ดีออกไป โดยการทำบุญเลี้ยงพระ 9 รูป ครั้งนี้ ถือได้ว่าทำเพื่อรำลึกถึง สิ่งศักดิ์สิทธ์ที่ปกป้องให้เหตุการณ์เพลิงไหม้ จากเมื่อวานได้ผ่านไปโดยดี และ เป็นความเชื่ออีกด้วยว่า เป็นเพราะความ สิ่งศักดิ์สิทธ์ของเจ้าพ่อตาก สิน มหาราช ช่วยคุ้มครองไม่เพลิงที่ลุกไหม้อย่างหนักนั้น ลามมาถึงด้านหน้าประตู้ทางเข้า ซึ่งส่วนที่ไหม้ไปนั้นเป็นไม้ที่หายากเช่นกัน แต่เพียงแค่ยังไม่ผ่านการแกะสลักเป็นรูปต่างๆ
พญ.สุทธิชา อู่เงิน เจ้าของบ้านพญาไม้ ลูกสาวเจ้าของบ้านพญาไม้ เผยต่อผู้สื่อข่าวด้วยว่าเป็นความเชื่อส่วนบุคคลด้วย บริเวณ ที่ถูกไฟไหม้ไปนั้น เป็นไม้ที่หายากทั้งนั้น แต่มีบ้างส่วน โดยบริเวณหน้าประทางเข้าไปชมในตัวบ้านที่ได้จัดแสดงไว้ เป็นประตู้ที่ทำมาจาก ไม้ตะเคียน ที่หายาก แล้วนำมาแกะสลัก เป็นเทพต่างๆ จากเหตุการณ์นั้นไฟไหม้ ประตู้ดังกล่าวนั้นไม่ถูกไฟไหม้แม้แต่นิดเดี่ยว แต่หลังคาที่คุ้มตัวประตูอยู่นั้น ถูกไฟไหม้เสียหายหมด และยังมีอีกอย่าง คือ เสาไม้ตะเคียน 5 ต้น อายุกว่า 500 ปี ทุกต้น ซึ่ง พ่อของตน นายขุนทอง อู่เงิน เล่าว่า ไม้ตะเคียนตะเคียนดังกล่าวนั้น มาเข้าฝันให้ไปขุดที่ จังหวัด ปราจีนบุรี พ่อ ก็ไปขุดแล้วนำมาจัดแสดง วันนี้ก็มีการกราบไหว้ ด้วย
ทั้งนี้บริเวณที่ถูกไฟไหม้ไปนั้น คงยังไม่มีการสร้างเป็นทรงเดิมแล้วเพราะไม้แต่ละอันกว่าจะได้มาแต่ล่ะชิ้นซึ่งหาได้ยากมากและก็สะสมมานานกว่า 10 ปีแล้วกว่าจะสร้างได้ขนาดนี้แต่มาถูกไฟไหม้เสียหายไปเกือบทั้งหมด แต่จะเดินหน้าต่อไปไม่ถอยและตั้งหลัก เพื่อที่จะสร้างความเป็นไทย อีกทั้ง จะปรับหน้าดินส่วนที่ไหม้ออกให้หมด แล้วเปลี่ยนมาเป็นการสร้างแบบเดิมเพราะไม้ต่างๆที่ใช้หายาก ซึ่งเราคงแค่สร้างบ้านทรงไทยและทำเป็นตลาดเก่าสมัยโบราณ เพื่อให้ประชาชนได้เข้ามาเที่ยวชม แล้วกราบไหว้ศาลเจ้าพ่อตากสินมหาราช และ กราบไหว้เจ้าแม่ ตะเคียน 5 ต้น อายุกว่า 500 ปี ด้วย
