แบ่งปัน

หมดกันการท่องเที่ยวคลิปหนุ่มวิน จยย.เลือดร้อนเตะหน้า นทท.ชาวด๊อยซ์

ร.ต.ท.หญิง ชนิกานต์ เผื่อนพินิจ รอง.สว.(สอบสวน) สภ.เมืองพัทยา  ได้ควบคุมตัว นายสุนทร แสงคำ อายุ 48 ปี วินจยย.เลือดร้อนตามคลิปทำร้ายนักท่องเที่ยวต่างชาติ ทราบภายหลังชายชาวต่างชาติ คือ  Mr.Andreas Bruer  ( นาย อันเดียรส์ เบาร์แอร์) ชาวเยอรมนี ซึ่งตามคลิปจะเห็นได้ว่า ชายชาวต่างชาติดังกล่าวพยายามที่จะยกรถ จยย.ของตนเองหนี ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ ก่อนที่วิน จยย.เลือดร้อนจะเข้าไปห้ามปรามและมีปากเสียงกับชายชาวต่างชาติ ประกอบกับที่มีความโมโหถูกชาวต่างชาติด่าทอพร้อมชูนิ้วกลาง และอากาศที่ร้อนจัด จึงเข้าไปต่อยชาวต่างชาติดังกล่าว

  

สอบถาม นาย สุนทร แสงคำ อายุ 48 ปี วินจยย. ที่ก่อเหตุทำร้าย เล่าว่าตนเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจับชายชาวต่างชาติดังกล่าว และเขียนใบสั่งให้ไปเสียค่าปรับ ที่สภ.เมืองพัทยา แต่เกิดไม่พอใจพยายามที่จะยกรถหนี ตนที่ยืนดูเหตุการณ์อยู่เห็นชาวต่างชาติทำทีท่าจะชกตำรวจและมีปากเสียงกับเจ้าหน้าที่ ตนจึงเข้าไปช่วยห้ามแต่ชาวต่างชาติดังกล่าวไม่ฟัง พยายามยกรถหนี ตนเข้าไปพูดคุยแค่ชาวต่างชาติรายนี้กลับโวยวาย ตนโมโหจึงเดินเข้าเตะเข้าที่ใบหน้าชาวต่างชาติ และต่อยไปอีกหลายหมัด จากเหตุดังกล่าวตนยอมรับว่าผิดจริง ที่ไปทำร้ายชาวต่างชาติก่อนทั้งที่ไม่รู้จักกัน ที่ทำไปเพราะถูกด่าทอก่อนและอารมณ์ร้อน

ด้าน ร.ต.ท.หญิงชนิกานต์ เผื่อนพินิจ รอง.สว.(สอบสวน) สภ.เมืองพัทยา เปิดเผยว่าจากเหตุดังกล่าวทาง ตำรวจ จราจร สภ.เมืองพัทยา ได้ตั้งจุดสกัดกวดขันวินัยจราจรอยู่หน้าโรงพัก ขณะเดียวกันชาวต่างชาติดังกล่าวขับขี่ จยย. ผ่านมาจึงแสดงตัวขอตรวจค้นและตรวจสอบใบอนุญาตขับขี่ ทางด้านชาวต่างชาติแสดงใบขับขี่ให้เจ้าหน้าที่แต่กับเป็นใบขับขี่ของต่างประเทศซึ่งเอาใช้ในประเทศไทยไม่ได้จึงจับกุมและเขียนใบสั่งเพื่อให้ชาวต่างชาติไปเสียค่าปรับและมารับรถคืน แต่เหตุดังกล่าวกับไม่ใช่อย่างที่คิดเมื่อชายชาวต่างชาติเกิดไม่พอใจพยายามที่จะยกรถจยย.ที่ถูกล็อคอยู่หนีเจ้าหน้าที่ตำรวจไกลกว่า 100 เมตร ก่อนที่จะมีวิน จยย.เข้ามาห้ามปรามแต่เกิดเหตุวิน จยย.ไปทำร้ายนักท่องเที่ยว โดยการเดินเข้าไปเตะหน้าและซกต่อย ตามคลิปดังกล่าว

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวมาสอบสวนและทำบันทึกจับกุมพร้อมทั้งตั้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่น ส่วนชาวต่างชาติ รายนี้ เจ้าหน้าที่ได้เข้าช่วยเหลือแล้วถามถึงเรื่องที่ถูกทำร้ายร่างกายแต่ชาวต่างชาติคนดังกล่าวไม่เอาเรื่องแต่อย่างใดกล่าวเพียงต้องการจะกลับบ้านเท่านั้น