แบ่งปัน

ครูพี่เลี้ยงเข้าพบตำรวจพร้อมกล่าวขอโทษพ่อแม่เด็กที่เกิดเหตุการณ์แบบนั้น
จากกรณี นางสาวสุรีรัตน์ ซิ้มเทียม อายุ 33 ปี พา ด.ญ.ชลศิริ ชลศรานนท์ บุตรสาววัย 5 ขวบ นักเรียนชั้นอนุบาล 3/2 โรงเรียนอรุโณทัย เมืองพัทยา จ.ชลบุรี เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ ร.ต.ท.กนกนันท์ สุขศรี รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองพัทยา หลังถูกครูพี่เลี้ยงบิดหูข้างซ้ายจนได้รับบาดเจ็บเป็นแผล โดยจากการติดต่อไปยังโรงเรียนเพื่อขอพูดคุยกับครูพี่เลี้ยงคือ นางสาวสกุลตรา แสนปัญญา ถึงสาเหตุ แต่คุณครูพี่เลี้ยงไม่ยอมมาคุย นอกจากนี้ ผู้ปกครองได้สอบถามขอเบอร์โทรศัพท์เพื่อจะติดต่อพูดคุย ทางโรงเรียนกลับอ้างว่าไม่มีเบอร์โทรศัพท์ ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น


และในช่วงเช้าวันนี้( 20 ก.ย.61 ) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปตรวจสอบที่ โรงเรียนอรุโณทัย พบว่า บรรยากาศยังคงเปิดเรียนตามปกติ จึงติดต่อขอพบผู้บริหารเพื่อสอบถามถึงเหตุการณ์เกิดขึ้น แต่ทางโรงเรียนกลับบ่ายเบี่ยงบอกว่ายังไม่สะดวกให้พบ นอกจากนี้ยังทราบว่าครูพี่เลี้ยงผู้ก่อเหตุยังคงมาทำงานตามปกติ
คืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 13.00 น.( 20 ก.ย. ) นางสาวสกุลตรา แสนปัญญา อายุ 24 ปี ครูพี่เลี้ยงเดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.กนกนันท์ สุขศรี รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองพัทยา เข้าของคดี โดยมี พ.ต.ท.กรณ์ สมคะเณย์ รอง ผกก. ( ป.)สภ.เมืองพัทยา สอบปากคำถึงสาเหตุที่เกิดขึ้น โดยมี รอง ผอ.โรงเรียนอรุโณทัย และนางสาวสุรีรัตน์ ซิ้มเทียม มารดาและบิดาพร้อมด.ญ.ชลศิริ ชลศรานนท์


โดยนางสาวสกุลตรา แสนปัญญา เล่าทั้งน้ำตาว่าตนเองไม่ได้มีเจตนาทำร้ายน้อง เพียงแต่ในช่วงนั้นอาจมีอารมย์บางที่ว่ากล่าวตักเตือนและห้ามปราบน้อง แต่น้องไม่เชื่อฟังประกอบกับตนเองต้องพยายามยามให้เด็กทุกคนอยู่ในความสงบเลยพาดพังไปทำน้องได้รับบาดเจ็บ แต่ยืนยันได้ว่ามีไม่การบิดหูหรือหยิกน้องแต่อย่างไร ที่เกิดบาดแผลมาจากเล็บมือของตนเองยาวเลยไปทำให้น้องเกิดบาดแผล นอกจากนั้นตนเองก็ได้พาน้องไปห้องพยาบาลเพื่อทำแผลหลังพบว่ามีบาดแผลเกิดจากตน และตนได้ไปบอกกับครูประจำชั้นหรือที่เป็นครูหัวหน้า ซึ่งในตอนเย็นตนเองไม่ได้หลบหนีแต่ตนเองโดนเวรประจำรถตู้รับส่งนักเรียน และครูหัวหน้าได้บอกว่าจะไปพูดคุยกับผู้ปกครองเด็กเอง และไม่ทราบว่าผู้ปกครองเข้ามาแจ้งความ ซึ่งตนยืนยันได้ว่าตนเองไม่มีเจตนาจริงๆ
ด้าน รอง ผอ.โรงเรียนอรุโณทัย เปิดเผยว่า นางสาวสกุลตรา แสนปัญญาพึ่งมาทำงานเป็นครูพี่เลี้ยงได้ประมาณ 4 เดือน ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นทางโรงเรียนมีแนวทางแก้ไข และมีกระบวนการสอบสวนหากพบว่ามีความผิดก็จะมีบทลงโทษตั้งแต่สถานเบาไปยังสถานหนัก ส่วนตัวนักเรียนนั้นทางโรงเรียนมีการดูแลค่ารักษาพยาบาล ซึ่งเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวทางโรงเรียนมีการประชุมครูตลอดในการดูแลเด็กนักเรียน ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวทางโรงเรียนก็ต้องขอโทษผู้ปกครองเช่นกัน
ด้านพ่อของเด็กหญิงด.ญ.ชลศิริ ชลศรานนท์ เผยว่าในเบื้องต้นตนเองไม่ได้ติดใจอะไรมากหนัก แต่เมื่อลูกสาวมาบอกว่าโดนคุณครูบิดหูจนเป็นแผลก็เลยคิดว่าครูทำเกิดกว่าเหตุ และครูที่ทำร้ายลูกสาวไม่มาพูดคุยกล่าวขอโทษหรือพูดคุยเกี่ยวกับเหตุการณ์เลยตนเลยให้แฟน นางสาวสุรีรัตน์ ซิ้มเทียมซึ่งเป็นแม่ของด.ญ.ชลศิริ ชลศรานนท์ เข้าแจ้งความ ส่วนด้านคดีก็ให้เป็นไปตามกระบวนการของกฏหมาย ซึ่งตนเองอยากให้ครั้งนี้เป็นบทเรียนของครู ที่ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ ซึ่งลูกตนก่อนหน้านี้โดนครูตีมาตนเองก็ไม่เคยสนใจ แต่ครั้งนี้ตนเองดูแล้วมันเกินไป
ด้าน ร.ต.ท.กนกนันท์ สุขศรี รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองพัทยา เปิดเผยว่า ด้านคดีต้องรอดูผลตรวจของแพทย์ รพ.ว่าใช้เวลารักษานานหรือไม่ หากไปนานไม่เกิน 1 อาทิตย์ ก็คงเป็นคดีระหุโทษ สามารถเปรียบเทียบปรับได้ที่ สภ.เมืองพัทยาได้เลย หากใช้เวลารักษานานก็ต้องส่งฟ้องศาลเพื่อดำเนินคดี