แบ่งปัน

จากกรณี น.ส.หนึ่ง (นามสมมติ) อายุ 21 ปี ชาวตังหวัดปราจีนบุรี เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ว่า ถูกอดีตแฟนหนุ่มอิหร่านจับลักพาตัวขึ้นรถจักรยานยนต์ ก่อนพาไปกักขังในคอนโด ย่านจอมเทียน จากนั้นจับใส่กุญแจมือ เทปปิดปาก จับโกนหัว ข่มขู่รีดเงิน มิหนำซ้ำบังคับข่มขืนอีก 2 ครั้ง ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น. ของวันที่ 21 ก.ย.61 พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร ผกก.สภ.เมืองพัทยา พ.ต.ท.ปินะพงษ์ เอนสาร สารวัตรตำรวจท่องเที่ยวพัทยา ร่วมนำตัว น.ส.หนึ่ง (นามสมมติ)ผู้เสียหาย และ นายโมห์เซ็น ซาราฟราชิ อายุ 39 ปี นักธุรกิจอิหร่าน ผู้ถูกกล่าวหามาสอบปากคำ

โดย นายโมห์เซ็น ซาราฟราชิ ให้การปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด โดยเปิดเผยว่า ตนคบหากับ น.ส.หนึ่ง มาประมาน 1 ปี และเพิ่งเลิกกันไปได้ 2 อาทิตย์ ซึ่งตนได้มีหญิงสาวคนใหม่แล้ว โดยวันเกิดเหตุได้พบเจอ น.ส.หนึ่ง บริเวณถนนวอล์คกิ้งสตรีท น.ส.หนึ่ง ได้ขอมาที่ห้องพักของตนเอง ไม่มีการลักพาตัวแต่อย่างใด เมื่อมาถึงห้องก็มีการพูดคุยกัน และร่วมหลับนอนกัน 2 ครั้ง แต่ไม่มีการบังคับข่มขืน หรือข่มขู่ทำร้าย รวมทั้งไม่มีการใส่กุญแจมือตามที่ผู้เสียหายกล่าวอ้าง ซึ่งกรณีการจับโกนหัว น.ส.หนึ่ง เป็นผู้โกนหัวตัวเอง ส่วนสาเหตุที่ น.ส.หนึ่ง ทำการอย่างนี้เชื่อว่า เกิดการหึงหวงและอยากกลับมาคืนดีกับตน หลังรู้ว่าตนมีหญิงสาวคนใหม่แล้ว

ด้าน พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร ผกก.สภ.เมืองพัทยา เปิดเผยว่า สำหรับกรณีนี้ต้องให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย โดยเมื่อผู้เสียหายมาแจ้งความเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้รับแจ้งพร้อมสอบปากคำอย่างละเอียด และจอหมายจับในทันที ส่วนในด้านของผู้กล่าวหาที่ให้การปฎิเสธนั้น ทางเจ้าหน้าที่ต้องสืบหาพยานหลักฐานต่างๆ ทั้ง พยานแวดล้อม ภาพวงจรปิด และผลตรวจทางร่างกายจากโรงพยาบาล

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อกล่าวหา ข่มขืนกระทำชำเรา กักขังหน่วงเหนี่ยวให้ปราศจากเสรีภาพ อย่างไรก็ตาม ต้องตรวจสอบพยานหลักฐานให้แน่ชัด เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายต่อไป..