นายกัมพล ตันสัจจา ผู้อำนวยการสวนนงนุชพัทยา เป็นประธานในงานแถลงข่าว ศักยภาพในเขต EEC ที่สัมพันธ์กับ Venue โดยใช้ MICE เป็นตัวขับเคลื่อนหลัก การแถลงข่าวครั้งนี้มีคณะสื่อมวลชนต่างประเทศ กว่า 20 ประเทศ และแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วมงาน
นายกัมพล กล่าวว่าเมืองพัทยาเมืองชายฝั่งตะวันออกของไทย แวดล้อมไปด้วยธรรมชาติที่เหมาะกับการพักผ่อน เป็นที่รู้จักกันดีทั้งใน และต่างประเทศ เป็นแหล่งความเจริญทางธุรกิจสำคัญมากมายในภาคตะวันออก ของประเทศไทย ปัจจุบันเมืองพัทยาได้รับการส่งเสริมให้เป็นหนึ่งในพื้นที่ของ 3 จังหวัด ในโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ EEC เพื่อพัฒนาพื้นที่บริเวณชายฝั่งทะเลตะวันออก ยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ เนื่องจากตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ของภูมิภาคอาเซียน
หลายปีที่ผ่านมาเมืองพัทยามีการลงทุนเพื่อสร้างสถานที่จัดงานที่สามารถรองรับการจัดประชุมสำคัญมากมาย และสวนนงนุชพัทยาได้เล็งเห็นถึงความสำคัญ และพร้อมที่จะรองรับอุตสาหกรรมไมซ์อย่างเต็มรูปแบบ โดยการสร้างศูนย์ประชุมนานาชาตินงนุชพัทยา พร้อมกันนั้นก็ได้สร้างรูปแบบการจัดงานใหม่ๆ ที่น่าประทับใจ และดึงดูดนักธุรกิจกลุ่มไมซ์ เพื่อเน้นย้ำถึงความพร้อมที่จะรองรับธุรกิจไมซ์ นักธุรกิจกลุ่มไมซ์ที่เดินทางมาเมืองพัทยา จะสัมผัสได้ถึงศักยภาพความพร้อมของสวนนงนุชพัทยา สำหรับรองรับการจัดงานไมซ์ทั้งระดับชาติ ตลอดจนถึงระดับนานาชาติอีกด้วย
นายกัมพล ยังกล่าวอีกว่า สวนนงนุชพัทยา จ.ชลบุรี ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 670 เอเคอร์ เป็นสวนสวยติดอันดับ 10 ของโลกและใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นักท่องเที่ยวต่างเรียกกันว่าสวรรค์บนดิน ด้วยเพราะความสวยงามของพันธุ์ไม้สวย แปลก หายาก การจัดสวนแบบต่าง ๆ พร้อมกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมาย เช่นกิจกรรมทำอาหารไทย, ทานผลไม้บุฟเฟ่, เล่นน้ำสงกรานต์และลอยกระทง โดยสวนนงนุชพัทยาเป็นที่รู้จักมากว่า 37 ปีแล้ว โดย ได้รับรางวัล Gold Medal The RHS Chelsea Flower Show- England 6 ปีติดต่อกันจากประเทศอังกฤษ
ปัจจุบันนี้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเปลี่ยนไปตามกระแสการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลก การเตรียมพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ. การท่องเที่ยวแบบไมซ์ มีผลต่อตัวเลขความเจริญเติบโตของเศรษฐกิจทุกภาคส่วน เพราะสามารถสร้างรายได้ให้กับธุรกิจทุกภาคส่วนไม่ว่าจะเป็นธุรกิจอาหาร ขนส่ง ของที่ระลึก สายการบิน ที่พักและอื่น ๆ โดยมองไปในการช่วยสร้างประโยชน์ให้กับเมือง จังหวัดและประเทศชาติ จึงลงทุนสร้างศูนย์ประชุมทั้ง 2 แห่งขึ้นมา เพื่อช่วยพัฒนาการเติบโตทางเศรษฐกิจของจังหวัดชลบุรี ระยองและฉะเชิงเทราสอดรับกับโครงการ EEC ที่จะเกิดขึ้นเร็ววันนี้ของรัฐบาลอีกด้วย
