แบ่งปัน

20030 IMG_3410 IMG_3411

อัมพร/พัทยา

แก็งค์เช่ารถหลอกเช่ารถในพัทยาติดต่อผ่านเฟสบุ๊คเช่ารถก่อนเตรียมขับหนีออกชายแดน  เจ้าของรถติดGPS  ประสานทหารสามารถสกัดจับไว้ได้พบเอกสารทำปลอมเต็มรภ

นายเฉลิม ว่องไว อายุ 25 ปี  ผู้สื่อข่าวพัทยานิวส์  เข้าแจ้งความที่ สภ เมืองพัทยา หลังประกาศให้เช่ารถตามเฟสบุ๊ค ก่อนมีคนไทยติดต่อเช่ารถไป จากนั้นได้ปิดเฟสนี้และไม่สามารถติดต่อได้  จากนั้นได้เช็ค gpsรถ จนพบว่ารถของตนกำลังออกชายแดน จึงประสาน ไปยัง กองร้อยทหารพรานนาวิกโยธินที่ 541 ฐานคลองโป่ง ตำบลคลองใหญ่ อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทุบุรี เรือโทพิจิตร อุดมพร รอง ผู้บังคับกองร้อยทหารพรานนาวิกโยธินที่ 541 ให้ติดตามรถโดยกำลังเจ้าหน้าที่  นย.  ตามหาขนพบรถคันดังกล่าวออกชายแดน  จึงได้ทำการตรวจยึดพร้อมประสานงานทางเจ้าของคือนาย เฉลิม ก่อนทำการมอบรถยนต์เก๋งโตโยต้าวีออส สีเทา ทะเบียน 4   กฒ 3801 กรุงมหานคร คืนให้กับ นายเฉลิมพร ว่องไว อายุ 25 ปี หนุ่มเมืองพัทยา เจ้าของรถ หลังปล่อยให้เช่ารายวันแล้วหายไป พบอีกทีจอดอยู่ชายแดนจันทบุรี ชุดข่าวทหารพรานตรวจสอบนำรถคืนก่อนถูกลักลอบจำนำ

จากการเปิดเผยของนาย เฉลิมพร ว่องไว เจ้าของรถ ทราบว่า เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ได้มีชายไทยทราบชื่อตามบัตรที่แสดง คือนายสิทธิโชติ สังขโบสถ์ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 11 หมู่4 ต.หนองสระ อ.ทัพทัน จ.อุทัยธานี ได้มาติดต่อขอเช่ารถเป็นเวลา 2 วันในราคา 2,200 บาท โดยจ่ายรวมมัดจำอีก 2000 บาทเป็นเงิน 4200บาท ซึ่งตามสัญญาหมดเวลาเช่าในวันที่ 9 พฤษภาคม 59 แต่พอช่วงเย็นของวันที่ 9 ผู้เช่าได้โทรมาขอต่อเวลาอีก 1 วันโดยโอนเงินค่าเช่าให้อีก1200 บาทจากนั้นก็เงียบไปจนวันที่ 12 พ.ค.ที่ผ่านมา ได้มีการโทรติดตามรถจากผู้เช่าเนื่องจากเกินเวลาเช่าแล้ว แรกๆติดต่อกันได้ตลอด จนกระทั่งเวลา 18.00 น.ของวันที่ 12 พ.ค.ผู้เช่าปิดโทรศัพท์ ปิดเฟสบุ๊ก ปิดไลน์ ไม่สามารถติดต่อได้ จึงสงสัยว่าคงถูกยักยอกรถแน่นอนจึงตรวจสอบสัญญาณ GPS ปรากฏรถอยู่ชายแดนจันทบุรี จึงสั่งผ่านสัญญาณดาวเทียมตัดวงจรระบบของรถ ทำให้รถไม่สามารถขับเคลื่อนได้ แล้วไปแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองพัทยา พร้อมประสาน นาวาเอกอาทิตย์ สุทธิธรรม หัวหน้าชุดควบคุมทหารพรานนาวิกโยธินที่ 4 ให้ช่วยติดตาม โดยได้สั่งการไปที่กองร้อยทหารพรานนาวิกโยธินที่ 541 ที่รับผิดชอบด่านบ้านผักกาด ตำบลคลองใหญ่จนกระทั่งพบรถคันดังกล่าวจึงแจ้งให้ตนมารับรถในที่สุด   จากการค้นภายในรถพบเสื้อผ้าและเอกสารผู้เช่าหลายอย่างแต่ไม่พบตัวผู้เช่าคาดว่าคงจะหลบหนีออกไปกบดาลฝั่งกัมพูชา เพื่อหนีความผิด ซึ่งจากเหตุการณ์และพฤติกรรมในครั้งนี้คาดว่าน่าจะเป็นวิธีของขบวนการเช่ารถเพื่อมาขายตามชายแดน จึงนำรถไปลงบันทึกไว้เป็นหลักฐานก่อนนำรถกลับ

ด้านนายเฉลิมพร หลังนำรถกลับมาถึงที่พัทยาแล้วจึงเปิดดูภายในรถของตนอีกครั้ง เพราะตัวเองเกิดข้อสงสัยบ้าง จากการตรวจคันภายรถ พบว่าเอกสารของแม่ตน ได้ถูกนำทิ้งไปหมดทุกชิ้น แล้วถูกปลอมขึ้นมาใหม่ โดยนำเอกสารบ้างอย่างเช่น ประชาชนตัวถ่ายเอกสาร ถูกเปลี่ยนรูป เป็นอีกหน้า แต่ใช้ชื่อ ของแม่ตน คือ น.ส.นิตยา กัญพันธุ์ และยังพบเอกสารเพิ่มเติมอีกว่า มีใบโอนลอย ใบหนังสือมอบอำนาจ ใบกรมการขนส่งทางบก ใบสัญญากู้ยืมเงินทั่วไป ทุกใบเขียน ชื่อ น.ส.นิตยา กัญพันธุ์ทุกใบ ตนคิดว่าถ้าช้ากว่านี้ คงได้ผ่อนแต่กุญแจ ปล่าวแน่นอน จากนั้น เดินเข้าแจ้งความเพิ่มเติม กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา อย่างก็ตามวอน เจ้าหน้าที่ช่วยติดตามตัวคนร้ายซึ่งเจ้าตัวคาดทำงานกันกลุ่มแก๊งอย่างแน่นนอน ในเบื้องต้นด้านเจ้าหน้าที่ตรวจจะออกหมายเรียกตามบัตร ประชาชนที่คนร้ายนำมาเช่ารถก่อน ถ้าเรียกแล้วไม่มา จะออกหมายจับต่อไป……..