แบ่งปัน


ตำรวจ ร่วมอาสาชาวไทย เฝ้าสังเกตเหยื่อออกจากร้านขายอุปกรณ์เป่าแก้ว ขี่ จยย.ตามประกบแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ ค้นตัวเจออุปกรณ์หลอดแก้ว ยาเสพติด หนุ่มเนเธอร์แลนด์ปฏิเสธไม่ใช่เจ้าของ ก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจในเครื่องแบบรับตัว ถึงโรงพักถูกทำร้ายจับแทงเข่าให้รับสารภาพ จากนั้นมีชาวต่างชาติกล้ามใหญ่เสนอขอ 1 แสนจะไม่ถูกดำเนินคดี สุดท้ายตกลง 40,000 บาท แต่บัตรเอทีเอ็มกลับหายไปด้วย
เมื่อเวลา 05.30 น.วันที่ 21 ม.ค.62 ผู้สื่อข่าวได้รับร้องเรียนจาก น.ส.ฐิตารีย์ อนุสวัสดิ์อาภา อายุ 46 ปี และMR.PITER VAN WEELE อายุ 48 ปีสัญชาติเนเธอร์แลนด์ ว่าถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจและกลุ่มวัยรุ่น เรียกจับกุมในข้อหามีอุปกรณ์เสพ และยาเสพติด อยู่ภายในตัว ที่บริเวณกลางซอยบัวขาว พัทยาใต้ แล้วถูกเรียกเงินไปจำนวน 40,000 บาทและบัตรเอทีเอ็มก็หายไปด้วย สร้างความเดือดร้อนในการใช้ชีวิตเป็นอย่างมาก
น.ส.ฐิตารีย์ แฟน MR.PITER แปลตามคำบอกเล่าของ MR.PITER ว่าจะมาแจ้งความบัตรเอทีเอ็มหาย ซึ่งสาเหตุที่หายนั้นเกิดจากการจับกุมเมื่อวานนี้ ที่ร้านเป่าแก้วโชว์ เขาก็ซื้อโดยไม่รู้ว่ามีความผิดหากมีความผิดคงวางขายไม่ได้ จึงซื้อมา จากนั้นได้มีชาย 4 คนไม่ได้สวมเครื่องแบบตำรวจ เข้ามาแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วก็เอาโทรศัพท์ไปแล้วบอกว่ามียาเสพติด แล้วโทรบอกตำรวจ 2 คนในเครื่องแบบรับตัวมาที่โรงพัก แล้วได้มีปากเสียงด้วยการปฎิเสธจน เสียงดังก็โดนทำร้ายด้วยการแทงเข่า เมื่อพาไปตรวจฉี่ก็ไม่พบอะไร แต่ยังคงตกเป็นผู้ต้อง สงสัยอยู่ โดยตำรวจแจ้งว่าไม่เสพอาจจะจำหน่ายก็ได้เพราะมีของ


จากนั้นได้มีชาวต่างชาติเข้ามานำตัว MR.PITER ไปเจรจาไม่รู้ว่าเรื่องใด แล้ว MR.PITER ก็พาต่างชาติคนนั้นไปโรงแรม ต่างชาติคนนั้นก็เรียกเงิน หนึ่งแสนบาท เพื่อเครียและปล่อยตัว จึงต่อลองจนเหลือเพียง 40,000 บาท เพราะเงินที่เหลือจะเก็บไว้ซื้อตั๋วกลับประเทศ ปรากฏว่าบัตรเอทีเอ็มก็หายไป ก็เลยจะมาแจ้งเรื่องเอทีเอ็มเพราะคิดว่าที่จับกุมเขาอาจจะคิดว่ามีเงินอยู่ในเอทีเอ็มหรือป่าว จึงยึดบัตรเอทีเอ็มไว้ เพราะหากมีเงินยังไงก็ต้องกดออกมา แต่พอเรื่องมันจบไปง่ายๆแบบนี้อาจไม่สนใจถึงความเดือดร้อนเพราะบัตรเอทีเอ็มต้องเดินทางกลับไปทำที่บ้านเขา ส่วนยาเสพติดนั้นยืนยันไม่ใช่ของ MR.PITER แน่นอน แต่ตำรวจจะซ้อมเขา จะเอาเข้าคุก เขากลัว แต่ที่เรียก 1 แสน แล้ต่อลองเหลือ 40,000 บาทนั้นเพื่อแลกกับการปล่อยตัว
อย่างไรก็ตามได้แจ้งความร้องทุกข์กับ ร.ต.ท.หญิง ชนิกานต์ เผื่อนพินิจ รอง สว. สอบสวน และลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานแล้ว ด้านตำรวจเจ้าของคดีได้เตรียมรายงานพ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร ผกก.สภ.เมืองพัทยา และประสานเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนร่วมสืบสวนหาข้อเท็จจริงเพื่อให้ความเป็นธรรมกับตัวนักท่องเที่ยวต่อไป