ผกก ศรีราชา เปิดกระบวนการผัวไต้หวัน ฆ่าเมียจีน ตั้งแต่ต้นทาง จนถึงจุดโยนศพทิ้งทะเล พบรถยนต์ติดทรายริมทะเล จนชาวบ้านต้องเข้ามาช่วยเข็น
ไม่พลาดทุกกระแสร้อนชลบุรี-พัทยา กดรับข่าว “พัทยานิวส์”ผ่านไลน์ได้แล้ววันนี้
จากกรณีที่ พบศพผู้เสียชีวิต เป็นหญิงสาวคาดว่า สัญชาติจีน อายุ33 ปี สวมเสื้อลายทหาร กางเกงขาสั้นสีดำ สวมรองเท้าเอซิค สีขาว สภาพศพอยู่ในลักษณะงอตัว ที่บริเวณศีรษะถูกพันด้วยผ้าเทปสีเหลืองปิดตาทั่วทั้งศีรษะ และถูกคลุมด้วยถุงขยะสีดำอีกชั้น รัดด้วยเชือกไนร่อนสีเขียวอีกชั้น ที่บริเวณมือทั้งสองข้างถูกรัดด้วยสายรัดเคเบิ้ลไทร์ เช่นกัน กับที่บริเวณข้อเท้าทั้งสองถูกรัดด้วยเชือกสีเขียว และจากการตรวจสอบสภาพศพไม่พบร่อยรอยหรือบาดแผลตามร่างกาย คาดเสียชีวิตจากการถูกเชือกรัดคอและถูก ผ้าเทปสีเหลืองปิดตาปิดจมูกจนขาดอากาศหายใจ เสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 2-3 วัน เหตุเกิดที่บริเวณชายหาดบางพระ ม.3 ต.บางพระ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เมื่อเวลา 18.10 น. วันที่ 10 มกราคม 2563 ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงพื้นที้สืบสวน จนกระทั่งสามารถจับกุมตัว นายลู่ จื่อหยาง อายุ 38 ปี สัญชาติไต้หวัน พร้อมด้วยของกลางเป็น รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น HRV สีขาว หมายเลขทะเบียน กม 6680 อุบลราชธานี เสื้อผ้าที่ใช้ในการก่อเหตุ อุปกรณ์ที่ใช้รัดผู้เสียชีวิต อาทิ เทปกาวสีเหลือง เชือกสีขาว สีเขียว ถุงดำ ในข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ซ่อนเร้นอำพรางศพ ลงมาฆ่า น.ส.เลี่ยว ลี่ลี่ อายุ 33 ปี สัญชาติจีน ซึ่งเป็นภรรยาผู้ก่อเหตุนั้นเอง เมื่อวันที่ 12 มกราคม ที่ผ่านมา
ล่าสุดเมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 13 มกราคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้ลงพื้นที่ไปติดตามความ คืบหน้าในกรณีดังกล่าว ที่ สภ.ศรีราชา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี พบ พ.ต.อ.อนุการ ธรรมวิจารณ์ ผกก.สภ.ศรีราชา เปิดเผยว่า หลังจากที่เมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าจับกุมตัว นายลู่ จื่อหยาง อายุ 38 ปี สัญชาติไต้หวัน และได้มีการแถลงข่าวการจับกุมไปแล้วนั้น วันนี้ นายลู่ จื่อหยาง ก็ยังอยู่ในห้องควบคุมตัวของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ศรีราชา เนื่องจากอยู่ระหว่างการสอบสวน และขยายผลเพิ่มเติม พ.ต.อ.อนุการ กล่าวว่า สำหรับกระบวนการและวิธีการที่ นายลู่ จื่อหยาง ลงมือ ฆาตกรรมอำพรางศพของ น.ส.เลี่ยว ลี่ลี่ อายุ 33 ปี สัญชาติจีน ซึ่งเป็นภรรยาผู้ก่อเหตุนั้นเองนั้น เกิดขึ้นในวันที่ 8 มกราคม ที่ผ่านมา โดย น.ส.เลี่ยว ลี่ลี่ ได้เข้ามาในประเทศไทย โดยเดินทางตรงมาหา นายลู่ จื่อหยาง ที่บ้านพักแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.บางละมุง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ต่อมาทั้งคู่ได้เกิดมีปากเสียงกะนอย่างรุนแรง เนื่องจาก น.ส.เลี่ยว ลี่ลี่ ได้ถ่วงถามเงินจำนวน 3 ล้านบาท ที่ นายลู่ จื่อหยาง ฉ้อโกงไป และเรื่องของการเปลี่ยนสัญชาติลูกน้อยวัย 3 เดือน จนกระทั่ง นายลู่ จื่อหยาง เกิดอาการโมโห ได้ลงมือบีบคอ น.ส.เลี่ยว ลี่ลี่ จนขาดอากาศหายใจ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา หลังจากนั้น นายลู่ จื่อหยาง ก็ได้นำศพ น.ส.เลี่ยว ลี่ลี่
ยัดใส่กระเป๋าเดินทาง ขึ้นท้าย รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น HRV สีขาว หมายเลขทะเบียน กม 6680 อุบลราชธานี แล้วนำศพมาไว้ในเช่าห้องพักแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ในขณะเดียวกัน นายลู่ จื่อหยาง ก็เดินไปซื้ออุปกรณ์มัดศพ ที่บริเวณห้างสพรรสินค้า ซึ่งอยู่ใกล้เคียงกับห้องพัก ทั้งนี้ภายหลังจากที่ นายลู่ จื่อหยาง ลงมือมัดศพ น.ส.เลี่ยว ลี่ลี่ แล้ว ก็ยัดลงใส่กระเป๋าเดินทางอีกครั้ง แล้วนำศพใส่ท้ายรถยนต์เก๋ง คันเดิม ขับขี่มายังบริเวณชายหาดบางพระ ม.3 ต.บางพระ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี แล้วนำกระเป๋าเดินทาง ที่ภายในมีศพ น.ส.เลี่ยว ลี่ลี่ โยนทิ้งทะเลไป ซึ่งระหว่างที่ นายลู่ จื่อหยาง กำลังขับขี่รถเก๋ง ออกจากจุดเกิดเหตุ ล้อรถด้านท้ายรถ ก็ได้ติดหลุมทรายบริเวณชายทะเล จนไม่สามารถออกได้ หลังจากนั้นก็ได้มีชาวบ้านในบริเวณดังกล่าว เดินออกมาช่วยเข็นท้ายรถ ขับขี่ออกไปอย่างรวดเร็ว
พ.ต.อ.อนุการ กล่าวต่อว่า ตำรวจมีพยานหลักฐานชัดเจน ทั้งพยานบุคคล หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ และกล้องซีซีทีวี ในการมัดตัวผู้ต้องหา อีกทั้งพบผู้ต้องหา เคย ถูกออกหมายจับที่ประเทศไต้หวัน ในคดีโกงเงินธุรกิจของภรรยาและเพื่อนภรรยา รวมกว่า 4 ล้านบาท
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังทราบอีกว่า นายลู่ จื่อหยาง เคยมีอดีตภรรยากับสาวไทยอยู่ที่ อุบลราชธานี แต่ก็ได้เลิกลากัน ส่วนผู้ครอบครอง รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น HRV สีขาว หมายเลขทะเบียน กม 6680 อุบลราชธานี ที่ใช้ในการก่อเหตุ ก็เป็นของอดีตแม่ยาย ที่นายลู่ จื่อหยาง เลิกราไปแล้ว และแถมยังมีหมายจับจากไต้หวันอีก 4 หมาย ในข้อหาฉ่อโกง
เบื้องต้นอยู่ระหว่างคุมตัวผู้ต้องหาส่งฝากขังศาลจังหวัดชลบุรีในวันพรุ่งนี้ พร้อมทำหนังสือรายงานสถานทูตไต้หวันว่าพลเมืองเขาถูกดำเนินคดีในประเทศไทย และแจ้งสถานทูตจีนว่าประชาชนของเขาเสียชีวิตในไทยด้วย
