จับอังกฤษลอบจำหน่ายนาฬิกาเก๊ก็อปปี้แบรนด์ดังระดับโลก
ไม่พลาดทุกกระแสร้อนชลบุรี-พัทยา กดรับข่าว “พัทยานิวส์”ผ่านไลน์ได้แล้ววันนี้
เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 14 ม.ค.63 พ.ต.อ.ดุลยพัฒน์ เตชพรชยาสินธ์ ผกก.กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.ภ.2 สืบทราบว่ามีชาวอังกฤษลักลอบจำหน่ายนาฬิกาข้อมือก็อปปี้หลายแบรนด์ดังผ่านทางอินสตาร์แกรม จึงออกสืบสวนหาข่าวจนได้ข้อมูล ก่อนส่งสายลับชาวต่างชาติติดต่อล่อซื้อนาฬิกาก็อปปี้ยี่ห้อดัง อาทิ Rolex, Patek Phillipe และ Cartier จำนวน 12 เรือน ในราคารวม 123,500 บาท โดยนัดหมายส่งของกันที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง ในศูนย์การค้าอเวนิว พัทยา ถนนพัทยาสาย 2 พัทยาใต้ หมู่ 10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
เมื่อถึงเวลานัดหมายชายชาวอังกฤษคนดังกล่าว ได้เดินทางมาพบสายลับตามนัดหมายเพื่อพูดคุยเจรจา แต่เจ้าตัวอ้างว่าเอานาฬิกาที่สั่งมาให้ไม่ครบ จึงให้สายลับนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ไปเอานาฬิกาที่เหลือบริเวณศูนย์การค้าเบย์วอล์ค ถนนเลียบชายหาดพัทยา เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.สส.ภ.2 จึงติดตามไป เมื่อสายลับจ่ายเงินค่านาฬิกาให้กับชายชาวอังกฤษคนดังกล่าวแล้ว ตำรวจที่ซุ่มดูอยู่จึงแสดงตัวเข้าจับกุมตัวได้พร้อมของกลาง ทราบชื่อภายหลังคือนายมาร์ค ปีเตอร์ ดอร์รี่ (Mr.Mark Peter Dorey) อายุ 43 ปี สัญชาติอังกฤษ พร้อมกับยึดของกลางนาฬิกาเก๊แบรนด์ดังจำนวน 12 เรือน นอกจากนี้ยังจับกุม นายวิรัส หรือเอ บัวแหร่ม อายุ 45 ปี พร้อมของกลางนาฬิกาข้อมือก๊อปปี้ยี่ห้อดังอีกจำนวน 40 เรือน
พ.ต.อ.ดุลยพัฒน์ เตชพรชยาสินธ์ ผกก.กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.ภ.2 เปิดเผยว่า หลังได้ข้อมูลจากสายลับ จึงรายงาน พล.ต.ต.ณัฐพงษ์ สัตยานุรักษ์ ผบก.สส.ภ.2 ให้ทราบเรื่องนี้ ส่วนแนวทางการสืบสวนของตำรวจทราบว่า ผู้ต้องหารายนี้ได้ลักลอบจำหน่ายนาฬิกาข้อมือละเมิดทรัพย์สินทางปัญญามาตั้งแต่ปี 2561 โดยการถ่ายภาพนาฬิกาที่อยู่ในกล่องสุดหรูพร้อมใบรับประกัน แล้วโพสต์ประกาศขายผ่านทางอินสตาร์แกรม ซึ่งลูกค้าทั้งหมดจะเป็นชาวต่างประเทศ เมื่อมีลูกค้าสั่งซื้อ ก็จะส่งของผ่านทางพัสดุไปรษณีย์ และโอนเงินผ่านบัญชีธนาคาร จากการสอบสวนนายมาร์ค ให้การรับสารภาพว่า รับนาฬิกาเก๊มาจากนายวิรัส หรือเอ ในราคาเรือนละ 500 บาท และนำมาจำหน่ายต่อในราคาเรือนละประมาณ 12,000 บาท
ภายหลังการสอบสวนเบื้องต้นจึงแจ้งข้อกล่าวหากับทั้ง 2 คนว่า “เสนอจำหน่าย หรือ มีไว้เพื่อจำหน่าย ซึ่งสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าปลอม หรือเครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่นที่ได้จดทะเบียนไว้แล้วในราชอาณาจักร ส่วนนายมาร์ค แจ้งเพิ่มอีก 1 ข้อหาคือ เป็นบุคคลต่างด้าวประกอบอาชีพโดยไม่ได้รับอนุญาต.
