อดีตอาสาตำรวจ สภ ศรีราชา โวยแหลก หลังโดนตำรวจ กล่าวหา ลักขโมยยาบ้า 150 เม็ด เอาไปให้หญิงสาว เพื่อหลอกฟัน เผยร้องเรียนไปทางตำรวจภูธรภาค 2 ไร้ความคืบหน้า
ไม่พลาดทุกกระแสร้อนชลบุรี-พัทยา กดรับข่าว “พัทยานิวส์”ผ่านไลน์ได้แล้ววันนี้
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 20 มกราคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้รับเรื่องร้องเรียนจากนายอาทิตย์ แก้วมล อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 147 ม.6 ต.ศิลา อ.หลังคา จ.เพชรบูรณ์ ว่าตนเองเคยเป็นอดีต อาสาตำรวจ ของ สภ.ศรีราชา มากว่า 5 ปี แล้ว โดยก่อนเกิดเหตุ เมื่อช่วงประมาณต้นเดือนธันวาคม 2562 ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 21.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ ศรีราชา นำโดย รอง.สว.สภ.ศรีราชา ซึ่งเป็นหัวหน้าตู้สายตรวจห้วยกุ่ม ม.7 ต.บางพระ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี
ได้มีการตั่งด่าน ป้องกันอาชญากรรม บริเวณหน้าสำนักงานชลประทานที่ 9 ต.บางพระ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี แล้วปรากฏว่าได้มี ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ รายหนึ่ง ขับขี่มาพอเจอด่านตรวจ ก็ได้ทิ้งรถจักรยานยนต์ แล้ววิ่งหลบหนีไป ซึ่งจากการตรวจสอบภายในใต้เบาะรถจักรยานยนต์ คันดังกล่าว พบยาบ้า จำนวน 150 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน หลังจากนั้นตนและ เจ้าหน้าที่ตำรวจ รายอื่นๆ ก็ได้มีการนำยาบ้าจำนวนดังกล่าว ไปเก็บไว้ที่ตู้สายตรวจห้วยกุ่ม ตามปกติ เพื่อทำบันทึกตรวจยึด และนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ศรีราชา ตามปกติ หลังจากนั้นทุกคนก็แยกย้ายกลับบ้านของตนเอง
นายอาทิตย์ กล่าวต่อว่า ต่อมาได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจบางราย ของตู้สายตรวจห้วยกุ่ม โทรศัพท์มือถือมาแจ้งตนเองว่า ยาบ้า จำนวน 150 เม็ด ที่ตรวจยึดมาหายไป โดย ร.ต.อ.ฉลอง อิมนาง สว.สภ.ศรีราชา สงสัยในตัวตนเองว่าเป็นคนลักขโมยไป ตนยืนยันได้เลยว่าตนเองไม่ได้เอาไป หลังจากนั้นก็มีการเรียกตัวตนเองไปพูดคุย ถึง 3 รอบ พยายาม ยัดเยียดให้ตนเองยอมรับว่า เป็นคนลักขโมยไปจริงๆ อีกทั้งยังมีการอ้างว่า มีหญิงสาวรายหนึ่งที่อยู่ในชุมชน มาแจ้งว่า ตนเองได้นำยาเสพติดไปให้เสพ เพื่อแลกกับการมีเพศสัมพันธ์ ตนก็บอกกลับไปว่า ให้เรียกหญิงสาวดังกล่าว มานั่งคุยกันต่อหน้าเลย สุดท้ายแล้วไม่มีการเรียกเจรจาอีก ส่วนตนเอง ก็เหมือนถูกใส่ร้าย กล่าวหาว่าเป็นคนลักขโมยไป จนถูกไล่ออกจาก อาสาตำรวจ ทั้งนี้ทั้งนั้น เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2562 ที่ผ่านมา ตนก็ได้นำหลักฐานเอกสาร ไปร้องเรียนต่อ ตำรวจภูธรภาค 2 แต่ก็ดูเหมือนเรื่องจะเงียบไป
อย่างไรก็ตาม ตนเองไม่คิดไม่ฝันว่า จะกลายเป็นคนที่ถูกใส่ร้ายเช่นนี้ เนื่องจากตนเองเป็นคนที่รักและเคารพ ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นอย่างมาก ถึงได้ยอมเสียสละทุกอย่างไปช่วยงานเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ก็ยังถูกใส่ร้ายเช่นนี้ ตนรับไม่ได้ ตนไม่ผิด ก็จะเดินหน้าร้องเรียน เพื่อทวงความยุติธรรมคืนต่อไป
