แบ่งปัน

เข้มตรวจเรือทุกลำทุกสัญชาติ อย่าเน้นแค่จีน แนะตรวจย้อนหลังเรือเดินทาง 10 ท่า สกัดโคโรน่า แจงไม่ทิ้ง PM2.5 เร่งเสริมเครื่องฉีดน้ำจับฝุ่นให้ครบทุกประตูเข้า-ออกท่าเรือและให้เผื่อแผ่ชุมชนโดยรอบด้วย

ไม่พลาดทุกกระแสร้อนชลบุรี-พัทยา กดรับข่าว “พัทยานิวส์”ผ่านไลน์ได้แล้ววันนี้
เพิ่มเพื่อน

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2563   ที่ท่าเรือแหลมฉบัง อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี นายตติรัฐ รัตนเศรษฐ ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมพร้อมคณะ ลงพื้นที่ตรวจติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานของการท่าเรือแหลมฉบัง  ได้เร่งรัดนโยบายของรัฐบาลเฉพาะหน้าในการแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า (Novel Coronavirus) และการแก้ปัญหาค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน (PM2.5) เกินมาตรฐาน

โดยมี นายบัณฑิต สาครวิศวะ รองผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง บรรยายสรุปการดำเนินการป้องกัน จุดตรวจคัดกรองให้ครบทุกท่าทั้งท่าเรือแหลมฉบัง โดยขอกำลังคนจากกองควบคุมโรค เพื่อตรวจเรือให้ครบทุกลำทุกสัญชาติ จากเดิมที่เน้นเฉพาะท่าเรือที่มีคนจีนเดินทางมา และเรือที่จะเข้าเทียบท่าจะต้องรายงานประวัติการเดินทาง หากพบว่ามีประวัติเดินทางเข้าประเทศจีน ก็จะทำการตรวจเป็นพิเศษ เพื่อเป็นการเรียกความเชื่อมั่นให้กับ

นายตติรัฐ กล่าว่าสำหรับขั้นตอนการคัดกรอง จะใช้การตรวจด้วยการใช้เครื่องวัดอุณหภูมิแบบยิงที่หน้าผากเป็นหลัก เนื่องจากการ กทท.ชี้แจงว่า หากใช้เครื่องเทอรโมสแกนรูปแบบเดียวกับสนามบิน จะเกิดความลำบาก เราจะต้องให้ลูกเรือทุกคนลงมาจากเรือทั้งหมด แล้วจึงให้เดินเข้าเครื่องสแกนทีละคน บวกกับบนเรืออยู่ในเครื่องปรับอากาศ เมื่อลงมาจากเรือปะทะกับอากาศร้อน อาจจะทำให้ลูกเรือป่วยไข้ และการวัดผลไม่เที่ยงตรงได้

ดังนั้น การเฝ้าระวังที่ด่านควบคุม หากพบผู้ป่วยที่มีไข้ตั้งแต่ 37.5 องศาเซลเซียส และมีอาการไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ หายใจเหนื่อย หรือหายใจลำบาก ร่วมกับมีประวัติในช่วง 14 วันก่อนป่วย คือเดินทางมาจากพื้นที่ระบาด, อาศัยอยู่ในพื้นที่ระบาด, ใกล้ชิดกับผู้ที่ป่วยด้วยโรคนี้มาก่อน และสัมผัสสัตว์ที่เป็นพาหะนำโรค ก็จะทำการคัดกรอง เพื่อนำไปไว้ในสถานกักกันโรคต่อไป

ขณะที่มาตรการแก้ปัญหา PM2.5 ให้ กทท.เพิ่มจุดปล่อยฝอยละอองน้ำดักจับฝุ่น ทั้งบริเวณประตูเข้า-ออกท่าเรือ และบริเวณชุมชนโดยรอบท่าเรือ เพื่อไม่ให้มีปริมาณรถบรรทุกที่ก่อมลพิษออกไปแพร่กระจายฝุ่นสู่ภายนอก