แบ่งปัน

ที่ศาลาว่าการเมืองพัทยา พ.ต.ท. ประวุธ วงศ์สีนิล ผู้บัญชาการ สำนักคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม พร้อมเจ้าหน้าที่ DSI และคณะเข้าพบนายอิทธิพล คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา เพื่อฟังการบรรยายสรุปการตรวจสอบข้อเท็จจริงตามเรื่องร้องเรียนกรณีการสร้างโครงการอาคารชุดพักอาศัย Waterfront Pattaya ที่ไปบดบังทัศนียภาพจุดชมวิวของเมืองพัทยา ซึ่งเป็นปัญหาที่มีการร้องเรียนและเรื้อรังมาเป็นเวลานาน โดยมีเจ้าหน้าที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องจากทุกภาคส่วนให้การต้อนรับ

              นายอิทธิพล  นายกเมืองพัทยา กล่าวว่า ปัจจุบันโครงการดังกล่าวอยู่ในขั้นตอนของการออกคำสั่งให้ระงับการก่อสร้างอาคารคำสั่งห้ามใช้อาคาร คำสั่งให้ยื่นคำขอรับใบอนุญาตก่อสร้าง ดัดแปลงหรือเคลื่อนย้ายอาคาร เนื่องด้วยตรวจสอบพบการก่อสร้างไม่ถูกต้องตามที่ได้รับอนุญาตได้มีการปิดคำสั่งตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2557 และยังพบว่าการก่อสร้างดังกล่าวอาจจะรุกล้ำเชิงเขาด้วย จึงประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ร่วมตรวจสอบการรุกล้ำที่สาธารณะเรื่อยมา จนเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2558 สำนักงานที่ดินได้ส่งผลการรังวัดการบุกรุกฯของ บริษัท บาลีฮาย จำกัด ว่ามีการบุกรุกทำลาย ขุดไหล่เขาทัพพระยา เนื้อที่ประมาณ 1 ไร่ 73 ตารางวา จึงได้มีการดำเนินการร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนและประสานจนกว่าจะแล้วเสร็จ ส่วนทางบริษัท บาลีฮาย จำกัด มีการยื่นเรื่องอนุญาตต่ออายุใบอนุญาตก่อสร้างและเปลี่ยนผู้ควบคุมงานรวมไปถึงการขอเปลี่ยนแปลงการก่อสร้าง จากเดิมเป็นอาคารชุดพักอาศัย 53 ชั้น เปลี่ยนแปลงเป็นอาคารชุดพักอาศัย 50 ชั้น, ระดับความสูงจากระดับพื้นดินถึงส่วนที่สูงที่สุดของอาคารเท่ากับ 180 เมตร เปลี่ยนเป็น 173.45 เมตร, จำนวนห้องพักจาก 315 ห้อง เป็น 312 ห้อง, พื้นที่อาคารรวมจากเดิมเท่ากับ 38,503 ตารางเมตร เปลี่ยนเป็น 38,500 ตารางเมตร และจอดรถยนต์ภายในอาคารจากเดิม 144 คัน เพิ่มเป็น 150 คัน แต่ทางเมืองพัทยาได้ตรวจสอบแบบแปลนโครงการฯแล้วพบว่าแบบแปลนที่ได้ยื่นขอแก้ไขเปลี่ยนแปลงมีกรอบของอาคารอยู่นอกเหนือจากกรอบอาคารเดิม ทางสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีจึงได้เชิญเมืองพัทยาไปร่วมหารือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมทั้งบริษัท บาลีฮาย จำกัด ซึ่งในที่ประชุมมีมติให้ทางเมืองพัทยาได้เร่งนัดการตรวจสอบแบบแปลนเพื่อแจ้งข้อทักท้วงไปยังบริษัทดังกล่าวหากตรวจสอบแล้วยังมีข้อทักท้วงจะให้ทางบริษัทฯแก้ไขให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน และหากพิจารณาตรวจสอบแล้วปรากฏว่าแก้ไขถูกต้องตามข้อกฎหมายควบคุมอาคาร เมืองพัทยาจะพิจารณาออกใบอนุญาตให้ และทางเมืองพัทยามีการตรวจสอบแล้วแผนผังบริเวณแบบแปลนทั้งหมดพบว่ามีการดำเนินการยื่นออกมาจึงต้องมีการเปลี่ยนแปลงโดยเฉพาะทางด้านสถาปัตยกรรม อาทิ รายการงานการเปลี่ยนแปลงโครงการโดยเปรียบเทียบรายละเอียด, พื้นที่สีเขียวไม่ระบุขนาดพื้นที่รวมถึงการแสดงถึงกล้องตำแหน่งความปลอดภัย รวมทั้งระบบวิศวกรรมยังไม่สอดคล้องกับทางกฎกระทรวง ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการรายงานและทำการลงนามเพื่อจัดส่งให้ทางฝ่ายวิศวกรรมของทางบริษัทฯได้รับทราบ โดยทั้งหมดทางเมืองพัทยาไม่ได้ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ได้มีการดำเนินตามขั้นตอนและตามหน้าที่ของเมืองพัทยาเรื่อยมา

ซึ่งหลังจากมีการฟังบรรยายสรุปทั้งหมดทางคณะได้มีการลงพื้นที่ไปยังบริเวณของโครงการอาคารพักดังกล่าวเพื่อลงไปตรวจเยี่ยม โดยทาง พ.ต.ท. ประวุธ ผู้บัญชาการสำนักคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ได้ให้สัมภาษณ์กับทางผู้สื่อข่าวว่าการลงพื้นที่ในครั้งนี้เพื่อมาตรวจสอบและมารับทราบข้อมูลจากหลายๆส่วน เพื่อให้เกิดความกระจ่างชัดต่อสาธารณชน โดยในประเด็นแรกเป็นประเด็นเกี่ยวกับบริเวณที่ดินก่อสร้างอาคารชุดพักอาศัยมีการรุกล้ำหรือไม่ ส่วนประเด็นที่ 2 เป็นการตั้งข้อสังเกตในเรื่องของพื้นที่บริเวณที่มีการถมทะเลที่อยู่บริเวณข้างเคียงกับโครงการฯเพื่อสร้างเป็นท่าเทียบเรืออยู่ในปัจจุบันและยังเป็นส่วนหนึ่งของโครงการรัฐบาลเองโดยในอดีตพื้นที่ติดชายทะเลแห่งนี้จะไม่สามารถก่อสร้างอาคารสูงได้ เมื่อมีการขยายพื้นที่เพื่อทำท่าเทียบเรือดังกล่าวแล้วจึงส่งผลทำให้เกิดอาคารสูงตามมาจึงต้องมีการตรวจสอบว่ามีการเอื้อผลประโยชน์หรือไม่  นอกจากนี้ในส่วนของทางบริษัท บาลีฮาย จำกัด จะต้องมีการตรวจสอบและรวบรวมข้อมูลกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดว่ามีการเข้ามาอย่างสุจริตหรือมีการเอื้อผลประโยชน์มาแต่เดิมหรือไม่ เพื่อจะหาแนวทางช่วยเหลือที่ถูกต้องต่อไป

ภาพ วสุพล ข่าว สุพรรณี