แบ่งปัน

IMG_3065   IMG_3066

IMG_3072   IMG_3082

อัมพร/พัทยา

หนุ่มซิ่ง จยย.ฝ่าสายฝนเสียหลักชนแท่นปูนแบรีเออร์ที่สัญญาณไฟดับเสียชีวิตคาที่

เมื่อเวลา 03.40น.วันที่22 มิ.ย.59 ร.ต.อ.สนั่น โคตะนนท์ รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์เสียหลักชนกับแท่นปูนแบรีเออร์ ที่กั้นทางแนวก่อสร้างโครงการอุโมงค์ทางรอด ปากซอย 5 ธันวา หรือสุขุมวิทพัทยา 45  ถนนสุขุมวิท ขาเข้า อำเภอสัตหีบ มีผู้เสียชีวิตคาที่ 1 ราย หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมือบพัทยา

ที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิตเป็นชายสวมเสื้อคลุมยีนส์สีดำ กางเกงยีนส์ขายาวสีดำ ร้องเท้าผ้าใบ สภาพกะโหลกศีรษะแตกมันสมองกระจายเลือดไหลนองพื้นนอนเสียชีวิตคาอยู่บริเวณกองดินข้างทาง ถัดออกไปพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่ารุ่นซูมเมอร์ สีชมพูดำ ทะเบียน1กย-2464ชลบุรี ของผู้ตายล้มคว่ำอยู่สภาพมีร่องรอยเฉี่ยวชนที่ด้านหน้าจนเสียหาย ตรวจสอบเอกสารภายในตัวไม่พบเอกสารระบุชื่อว่าเป็นใคร พบเพียงมือถือ1เครื่อง จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนเอกสารในรถพบใบซื้อขายและผ่อนระบุชื่อนายบุญสืบ ดวงจันทร์ อายุ37ปี ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังไม่แน่ใจว่าเป็นชื่อของผู้เสียชีวิตหรือไม่อย่างไร

สอบสวน นาย บุญเสริม เหล่ามา อายุ 52 ปี เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของ บ.KU ให้การว่า ขณะที่ดูแลรักษาความปลอดภัยอยู่บริเวณหน้าธนาคาร มีผู้ตายขับรถจักยานยนต์ฝ่าสายฝนมาด้วยความเร็วประกอบกับบริเวณจุดก่อสร้างนั่นเกิดไฟที่ติดให้สัญญาณดับเนื่องจากฝนตกหนัก ก่อนที่ผู้ตานจะชนกันแท่นปูนกั้นแนวก่อสร้างอย่างแรงจนรถจักรยานยนต์และผู้ตายไถลไปไกลกว่า 30 เมตร จนหมวกแก๊ปของผู้ตายติดอยู่กับสังกะสี ตนจึงวิ่งไปตรวจสอบพบว่าเสียชีวิตแล้ว พร้อมแจ้งเจ้าหน้าที่ทราบดังกล่าว

ภายหลังจากการตรวจสอบและสอบสวนในที่เกิดเหตุอย่างละเอียดแล้วจึงได้ถ่ายภาพที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน ส่วนศพผู้เสียชีวิตได้มอบให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างบริบูรณ์เก็บรักษาที่ รพ.บางละมุง เพื่อรอตรวจสอบชื่อที่แท้จริงก่อนติดต่อประสานญาติทราบต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายบุญเสริม เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้การเพิ่มเติมว่าจุดเกิดเหตุดังกล่าวนั้นมักเกิดอุบัติเหตุขึ้นอยู่บ่อยครั้งซึ่งมีทั้งเจ็บสาหัสและขั้นเสียชีวิต โดยจุดนี้ถือว่าเป็นจุดอันตรายมากเนื่องจากรถที่มาทางไฟแดงสะพานสาย7ตอน5 จะวิ่งมาเร็วเพราะเป็นทางลงเนิน ยิ่งในช่วงที่ไฟสัญญาณขอกทางดับด้วยแล้วยิ่งอันตรายใหญ่ จึงอยากให้หน่วยงานหรือผู้ที่เกี่ยวข้องเร่งหาทางแก้ไขในจุดนี้เพื่อลดอุบัติเหตุและการสูญเสีย