รวมทันควันงัดตู้เอทีเอ็มธนาคารกสิกรไทยได้เงินไป 1.4 ล้านเศษ ผู้ต้องหาเผยต้องการหาเงินใช้จ่ายในครอบครัว ใช้หนี้นอกระบบ สารภาพดูวิธีการจากข่าวโทรทัศน์
เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 23 มิถุนายน 2559 ที่ห้องแถลงข่าวสำนักงานตำรวจภูธร ภาค 2 พล.ต.อ.ปัญญา มาเม่น ที่ปรึกษา (สบ.10) พล.ต.ท.ธเนตร์ พิณเมืองงาม ผบช.ภ.2 ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายสุริยา หรือ ตั๊ม อนุญาต อายุ 27 ปี บ้านเลขที่ 80/199 หมู่ที่ 5 ตำบลทับมา อำเภอเมือง จังหวัดระยอง ตามหมายจับศาลจังหวัดระยองที่ จ.332/59 ลงวันที่ 22 มิถุนายน 2559 พร้อมของกลางเงินสด 550,000 บาท รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น สกุ๊ปปี้ไอ สีขาว ทะเบียน 1กด 9852 รถยนต์เก๋งยี่ห้อ โปรตอน ( PROTON ) รุ่น นีโอ คันทะเบียน ขว 9567 รถคันที่ใช้ในการก่อเหตุ อุปกรณ์ถังแก๊ส สีเขียว จำนวน 1 ถัง ถังลม จำนวน 1 ถัง สายตัดแก๊ส พร้อมหัวตัดแก๊ส 1 ชุด ผู้ต้องหาได้กระทำความผิดฐานลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้น สำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์นั้นโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกในการกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุมหรือรับของโจร เหตุเกิดเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน เวลาประมาณ 04.00 น. ที่บริเวณตู้กดเงินสด (เอทีเอ็ม) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด ( มหาชน) ถนนกรอกยายชา ร้านพีพี มินิมาร์ท 1898 ต.เนินพระ อ.เมือง จ.ระยอง และจับกุมคนร้ายได้ที่ บริเวณสถานีขนส่งสายใต้ ขณะกำลังขึ้นรถหลบหนี
เหตุดังกล่าวเมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 20 มิถุนายน ตำรวจ สภ.มาบตาพุดได้รับแจ้งจาก น.ส.สมพร วงศ์ภักดี ผู้จัดการร้าน พีพี มินิมาร์ท 1898 เลขที่ 21/1 ถ.กรอกยายชา ต.เนินพระ อ.เมือง จ.ระยอง ว่าตู้ กดเงินสด ( เอทีเอ็ม ) ของ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ที่ตั้งอยู่หน้าร้านถูกคนร้ายใช้ความร้อนจากแก๊สตัดที่บริเวณฝาปิดด้านหน้า หลังจากนั้นนำกล่องพร้อมเงินสด 1,426,700 บาทหลบหนีไป นอกจากนี้ยังพบอุปกรณ์และเครื่องมือคนร้ายได้ใช้กระทำผิดตกอยู่ในที่เกิดเหตุหลายรายการ ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดระยอง และ สภ.มาบตาพุด ได้สืบสวนสอบสวน และออกติดตามจนพบรถคันที่ใช้ในการก่อเหตุที่บ้านเลขที่ 80/199 หมู่บ้านสายลมเย็น ต.ทับมา อ.เมือง จ.ระยอง ซึ่งเป็นบ้านของ นายสุริยาผู้ต้องหาโดยใช้ผ้าคลุมรถไว้อย่างมิดชิด
ตรวจสอบภายในรถพบอุปกรณ์ถังแก๊ส สีเขียว จำนวน 1 ถัง ถังลม 1 ถัง สายตัดแก๊ส พร้อมหัวตัดแก๊ส 1 ชุด ต่อมาพนักงานสอบสวนได้ทำการรวบรวมพยานหลักฐานและออกหมายจับนายสุริยา จนกระทั่งได้ติดตามจับกุมตัวนายสุริยาได้ที่บริเวณขนส่งสายใต้ ขณะที่ผู้ต้องหากำลังขึ้นรถโดยสารหลบหนี ต่อมาผู้ต้องหาพาตำรวจไปตรวจยึดเงินสด 550,000 บาท ได้ที่ห้องเช่าเลขที่ 128/10 ถ.เนินพะยอม ต.มาบตาพุด อ.เมือง จ.ระยอง
พล.ต.อ.ปัญญา มาเม่น กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้ ได้มีการตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบรูปพรรณสัณฐานของคนร้าย รวมทั้งภาพรถที่ใช้ในการกระทำความผิด ประกอบกับในที่เกิดเหตุมีการทิ้งหลักฐานไว้มากมาย เชื่อว่าไม่ใช่มืออาชีพ การจับกุมครั้งนี้ได้แกะลอยจากรถที่ใช้ก่อเหตุ และขอร้องให้กับธนาคารทุกแห่งหากมีเหตุเกิดขึ้นให้แจ้งตำรวจทราบทันที ไม่ใช่รอให้ฝนหยุดตกเสียก่อนถึงแจ้งตำรวจ ทำให้คนร้ายหนีไปไกลแล้ว เมื่อเหตุเกิดให้แจ้งตำรวจทันที เพราะมีตำรวจตรวจตราตลอด 24 ชั่วโมง
“นอกจากนี้ยังได้มีการพูดคุยกับทางรถขนเงิน ธนาคาร และตัวแทนประกันภัยเมื่อเกิดการลักทรัพย์ในตู้เอทีเอ็มให้มีการติดตั้งสัญญาณเตือนภัย เพราะบางครั้งมีการติดตั้งห่างไกลจากจุดที่ตำรวจดูแล ที่สำคัญเมื่อเกิดเหตุควรแจ้งตำรวจทันที”
นายสุริยา อนุญาต ผู้ต้องหากล่าวว่า ตนเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมดในครอบครัวทั้ง พ่อแม่เมียและลูก แต่ได้มีการกู้หนี้ยืมสินมาประกอบธุรกิจแล้วประสบปัญหาขาดทุน จึงไม่มีเงินใช้จ่ายในครอบครัว จึงได้ลงมือทำผิดในครั้งนี้เป็นครั้งแรก เงินที่ได้นำไปใช้หนี้สินทั้งหมด ส่วนการลงมือในการงัดตู้เอทีเอ็มได้นำวิธีการมาจากการดูข่าว ซึ่งได้มีการบอกวิธีทำหมดเลย
อำนาจ/ศรีราชา
