แบ่งปัน

1467185060325   1467185060518

1467185060537   1467185060554

อัมพร / พัทยา

กรณีกลุ่มนางพยาบาลในพื้นที่พัทยาหอบหลักฐานโร่แจ้งตำรวจ ปอศ. หลังเล่นแชร์ออนไลน์แล้วถูกโกงมูลค่ารวมกันแล้วกว่า 30 ล้าน ล่าสุดผู้สื่อข่าวเมืองพัทยาไปตรวจสอบบ้านเช่าของสาวเท้าแชร์สุดแสบในหมู่บ้านเอื้ออาทร พบขนย้ายข้าวของเผ่นหนีไปเกือบ 2 สัปดาห์แล้ว

กรณีเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (27 มิ.ย.) กลุ่มนางพยาบาลของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หอบหลักฐานเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ หรือ บก.ปอศ. ถนนสาทรเหนือ แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร เพื่อแจ้งความดำเนินคดี น.ส.ขวัญศิณี จันทร์ผง อายุ 22 ปี กับ นางเมตตา จันทร์ผง อายุ 48 ปี สองแม่-ลูก เท้าแชร์ออนไลน์รายใหญ่ และมีบ้านพักอยู่ในพื้นที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี หลังตั้งกลุ่มในแอพพลิเคชั่นไลน์ชื่อ “กลุ่มบ้านเมตตา” แล้วโฆษณาชวนเชื่อหลอกให้นำเงินมาลงทุน โดยอ้างว่าจะได้เงินปันผลดีกว่าดอกเบี้ยธนาคาร จนมีผู้ตกเป็นเหยื่อหลงเชื่อยอมโอนเงินไปลงทุนวงแชร์หลายราย ซึ่งผู้เสียหายมีหลากหลายสาขาอาชีพ ทั้งข้าราชการไปจนถึงพ่อค้า-แม่ค้า ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ชลบุรี , กรุงเทพมหานคร และจังหวัดอื่นๆ รวมแล้วมากกว่า 100 ราย มูลค่าความเสียหายรวมกันประมาณ 30 ล้านบาทนั้น

ความคืบหน้าของเรื่องนี้เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.59 ผู้สื่อข่าวเมืองพัทยา เดินทางไปที่ สภ.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงจาก พ.ต.ท.อธิคม อภิชยนุกูลกิจ หัวหน้างานสอบสวน หลังทราบว่าก่อนหน้านี้ทางผู้เสียหายได้เดินทางเข้าพบเพื่อปรึกษาข้อกฎหมายเกี่ยวกับคดีนี้ ก่อนที่จะได้รับคำแนะนำให้ไปแจ้งความที่ ปอศ. ซึ่งทาง พ.ต.ท.อธิคม ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ โดยให้เหตุผลว่าทางตำรวจ ปอศ. ยังไม่ได้ส่งสำนวนคดีนี้มาให้ จึงยังไม่สามารถตอบคำถามอะไรได้ เกรงว่าจะเป็นการให้ข่าวที่ผิดเพี้ยน แต่ถ้าหาก ปอศ. ส่งเรื่องมาให้ตำรวจ สภ.หนองปรือ ดำเนินการ ผู้เสียหายคนอื่นๆ ที่ตกเป็นเหยื่อ และอยู่ในเขตพื้นที่รับผิดชอบ ก็สามารถเดินทางเข้าแจ้งความเพิ่มเติมได้ที่ สภ.หนองปรือ โดยไม่ต้องเดินทางไปที่ บก.ปอศ.

ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบบ้านเลขที่ 33/49 หมู่ 7 หมู่บ้านเอื้ออาทรเนินพลับหวาน ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ที่ทางผู้เสียหายระบุว่าเป็นบ้านที่ น.ส.ขวัญศิณี เจ้าแม่แชร์ออนไลน์สุดแสบรายนี้ เช่าอาศัยอยู่กับ นางเมตตา จันทร์ผง อายุ 48 ปี มารดา ที่ได้ถูกผู้เสียหายแจ้งจับเช่นเดียวกันกับลูกสาว เนื่องจาก นางเมตตา มีส่วนเกี่ยวข้องและร่วมกับลูกสาวตั้งวงแชร์ออนไลน์ และนำชื่อตัวเองมาตั้งเป็นชื่อกลุ่ม “บ้านเมตตา” ในแอพพลิเคชั่นไลน์ เพื่อใช้หลอกลวงเหยื่อ จากการสอบถามเพื่อนบ้านข้างเคียงทราบว่า น.ส.ขวัญศิณี กับมารดา เพิ่งมาเช่าบ้านหลังนี้พักอาศัยอยู่ได้ประมาณ 2-3 เดือน แต่เมื่อประมาณ 2 สัปดาห์ก่อนทั้งคู่ได้ขนของย้ายออกไปแล้ว เนื่องจากไม่ยอมจ่ายค่าเช่าและค่าน้ำค่าไฟ ที่ผ่านมาไม่ทราบว่าทั้งคู่ประกอบอาชีพอะไร เพราะไม่ค่อยสุงสิงพูดคุยกัน

สำหรับประวัติของ น.ส.ขวัญศิณี จันทร์ผง พบว่ามีอาชีพขายเนื้อปูอัดและขายสินค้าในโลกออนไลน์ โดยใช้ชื่อว่า “Kwansinee Chanphong” ส่วนวิธีการต้มตุ๋นของวงแชร์ออนไลน์ลวงโลกรายนี้ พบว่ามีการตั้งวงแชร์ขึ้นมามากกว่า 50 ขึ้นไป โดยแต่ละวงจะมีชื่อ อาทิ “วงกินดอกน้องลิง” ลงเงินมือละ 1,000 บาท ราย 4 วัน เก็บครั้งเดียว ระบุจ่ายดอกแบบขั้นบันไดทวีคูณ ใครที่รับมือสุดท้ายจะได้มากที่สุด ส่วน “วงพี่หมี” เงินต้น 25,000 ราย 8 วัน ดอกตามมือละ 1,500 บาท โดยมีการเก็บค่าดูแล 500 บาท หรือ “วงช้างน้อย” เงินต้น 50,000 บาท ราย 20 วัน ส่งมือละ 5,000 บาท ดอกตาม 1,000 บาท มีค่าดูแลวงมือละ 500 บาทด้วย นอกจากนี้ยังมี วงหมากินปู , วงเสือยิ้ม , วงเพนกวินยักษ์ ,วงลิงกินองุ่น,วงนกกินกบ ฯลฯ ซึ่งในแต่ละวงจะมีจำนวนเงินตั้งแต่หลักพัน ไปจนถึงหลักแสนบาท

นอกจากนี้ยังพบว่า น.ส.ขวัญศิณี ยังใช้อุบายคิดโปรโมชั่นต้มตุ๋นหลอกล่อเหยื่อให้มาติดกับดัก มีด้วยกันมากมายหลายรูปแบบ อาทิ โปรโมชั่น “ดอกลอย” ลงทุน 5,000 บาท รับดอกหรือเงินปันผล วันละ 80 บาท หนึ่งเดือนจะได้รับ 2,400 ลงทุน 10,000 บาท รับดอกวันละ 170 บาท หนึ่งเดือนจะได้รับเงิน 5,100 บาท ลงทุน 20,000 บาท รับวันละ 350 บาท ในหนึ่งเดือนจะได้เงิน10,500 บาท กลโกงอีกรูปแบบหนึ่งที่มีผู้หลงเชื่อตกเป็นเหยื่อจำนวนมากคือ โปรโมชั่น “จัมโบ้เหมาๆ” มีด้วยกัน 3 แบบ แบบแรกลงทุน 16,500 บาท 15 วัน รับเงินคืนทั้งต้นและดอก 30,000 บาท แบบที่ 2 ลงทุน 27,400 บาท 20 วัน รับเงินคืนทั้งต้นทั้งดอก 60,000 บาท แบบที่ 3 ลงทุน 14,200 บาท 20 วัน รับเงินคืนทั้งต้นทั้งดอก 30,000 บาท

โดยหลังจากในแต่ละวงหมดสิ้นสุดระยะเวลา หรือถึงคิวของใครที่จะได้รับเงินต้นและเงินปันผล น.ส.ขวัญศิณี จะไม่มีการจ่ายเงินสดคืนให้ แต่จะโน้มน้าวบอกให้เอาเงินไปใส่ไว้ในวงแชร์ที่เรียกว่า “วงออม” โดยจะอ้างว่าเป็นการนำเงินไปลงทุนทำธุรกิจและได้ดอกเบี้ย หรือเงินปันผลเป็นทวีคูณ แม้บางคนจะไม่ยินยอม แต่ต้องตกบันไดพลอยโจน เพราะได้เห็นแค่ตัวเลขกำไร แต่ไม่ได้รับเงินแม้แต่บาทเดียว เหมือนกันหมดทุกราย.