แบ่งปัน

พนักงานร้านนวดรุมทำร้ายอ่วม 2 ผัวเมียชาวร

อัมพร/พัทยา

พนักงานร้านนวดรุมทำร้ายอ่วม 2 สามีภรรยาชาวรัสเซีย ตำรวจคาดอาจมาจากการสื่อสารภาษากันไม่รู้เรื่อง

เมื่อเวลา 05.00 น. วันที่ 2 มี.ค. 59 พ.ต.ต.พิทักษ์ เนินแสง พงส.ผนก. (พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการฯ)  สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี   ได้รับแจ้งว่านักท่องเที่ยวต่างชาติถูกคนภายในร้านนวดไทยรุมทำร้ายได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดที่ร้าน นันทิกา มาสซาจ (nantika physical  thai massage) เลขที่ 325/5  บริเวณปากซอย13/3 ชายหาดพัทยา ม.10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงนำกำลังตำรวจไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยา

ที่เกิดเหตุพบว่าร้านนวดไทยดังกล่าวนั้นยังเปิดให้บริการ โดยในร้านมีพนักงานนวดหญิงไทยอยู่ภายในร้านหลายคน และพบผู้เสียหายคือ  Mrs.OLESYA  ASHIUHMIN  อายุ 36 ปี และ สามีคือ MR.RUSLAE ASHIUHMIN อายุ 37 ปี สัญชาติรัสเซีย ยืนโวยวายพูดภาษารัสเซียเสียงดังแสดงความไม่พอใจอยู่ด้านนอกประตูทางเข้าร้าน ซึ่ง Mrs.OLESYA  ASHIUHMIN   มีบาดแผลถูกตีด้วยของแข็งที่บริเวณศีรษะจนเป็นแผลแตกขนาดใหญ่เลือดไหลอาบตัวส่วนสามีนั้นก็มีร่องรอยถูกทำร้ายที่ใบหน้าเล็กน้อย  โดยผู้บาดเจ็บทั้ง2 คน เมื่อเห็นตำรวจก็พยายามสื่อสารผ่านล่ามแปลว่าถูกคนในร้านนวดไทยรุมทำร้ายบาดเจ็บ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้สอบถามพนักงานร้านนวดไทยก็ไม่ค่อยมีใครให้การมากนัก แจ้งเพียงว่าชาวรัสเซียมาขอเข้าห้องน้ำในร้านและบอกว่าจะนวดแต่หลังเข้าห้องน้ำเสร็จกลับไม่ยอมนวด และ เกิดการโวยวายทะเลาะกับเจ้าของร้าน จนถึงขั้นลงไม้ลงมือทำร้ายเจ้าของร้าน พนักงานร้านจึงเข้าช่วยเจ้าของร้านและเกิดการชุนละมุนขึ้นก่อนจะมีคนเข้ามาช่วยอีกหลายคนจนสุดท้ายก็มีคน  เบื้องต้นจึงให้หน่วยกู้ภัยฯมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ฯเมืองพัทยา ทำการปฐมพยาบาลให้กับผู้บาดเจ็บก่อนพาตัวไปส่งโรงพยาบาล

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่าก่อนเกิดเหตุ 2สามีภรรยาชาวรัสเซียที่บาดเจ็บนั้นเดินมาจนมาถึงร้านนวดไทยที่เกิดเหตุ ซึ่ง Mrs.OLESYA  ASHIUHMIN   ผู้บาดเจ็บได้ขอเข้าห้องน้ำภายในร้านนวดไทยเพราะเห็นว่าทางร้านนั้นยังเปิดให้บริการแต่ทางร้านนั้นบอกว่าต้องใช้บริการนวดด้วยถึงจะให้เข้าห้องน้ำ และต่างฝ่ายก็ต่างสื่อภาษากันไม่ค่อยเข้าใจมากนัก ซึ่ง Mrs.OLESYA  ASHIUHMIN  ผู้เสียหายนั้นอ้างกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าตนจะขอเข้าห้องน้ำก่อนแล้วจะนวดทีหลังหลังจากเข้าห้องน้ำเสร็จก็จะเดินมาเอาเงินกับสามีที่ยืนรออยู่นอกร้านแต่เจ้าของร้านและพนักงานตามออกมาคิดว่าตนนั้นจะหนีไม่ยอมนวดจึงเกิดการมีปากเสียงทะเลาะกันขึ้นจนถึงขั้นลงไม้ลงมือทำร้ายกันจนชุลมุน ซึ่งผู้บาดเจ็บอ้างว่าเจ้าของร้านและพนักงานเป็นฝ่ายลงมือทำร้ายก่อนซึ่งพนักงานหญิงในร้านั้นได้ใช้อาวุธเหล็กมาตีศีรษะของผู้เสียหายจากทางด้านหลังจนศีรษะแตกจากซึ่งฝ่ายสามีก็พยายามเข้ามาช่วยก็ถูกมอเตอร์ไซต์รับจ้างใกล้เคียงเข้ามารุมทำร้ายผู้บาดเจ็บอีกด้วยก่อนจะพากันหลบหนีไป  อย่างไรก็ตามพยานแวดล้อมแจ้งว่าเห็นฝ่ายหญิงรัสเซียนั้นผลักเจ้าของร้านนวดไทยก่อนพนักงานร้านนวดเห็นจึงเข้ามาช่วยเจ้าของร้านและฝ่ายสามีของหญิงรัสเซียก็พยายามจะช่วยภรรยาทำให้ทั้งสองฝ่ายเกิดการชุนละมุนทำร้ายกันขึ้นก่อนที่จะมีมอเตอร์ไซต์รับจ้างเข้ามาผสมโรงช่วยรุมทำร้ายชาวรัสเซียส่วนคนที่ใช้เหล็กตีศีรษะของหญิงรัสเซียก็คือพนังกานในร้านนวดแต่หลังเกิดเหตุทุกคนไม่มีใครออกมาแสดงตนว่าเป็นผู้ที่ก่อเหตุแต่อย่างใด ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพื่อหาหลักฐานการเกิดเหตุที่แน่ชัดและสอบปากคำคู่กรณีทั้งสองฝ่ายทั้งคนเจ็บและคนในร้านนวดไทยทั้งหมดให้ชัดเจนว่าใครใช้กำลังทำร้ายก่อนและใครใช้อาวุธทำร้ายคู่กรณีชาวต่างชาติจนบาดเจ็บ โดยจะดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมายเพื่อไม่เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของเมืองพัทยา..