แบ่งปัน

13843648_10206845520567581_55305859_o   13898582_10206845520447578_1516975433_o

 ภาพ/ข่าว สุพรรณี

  เมืองพัทยาระดมสมองฝ่ายกฎหมายและเจ้าหน้าที่เร่งรัดติดตามบังคับคดีการก่อสร้างอาคารฝ่ายฝืนกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร

              ที่ห้องประชุมศาลาว่าการเมืองพัทยา นาย ชนัฐพงศ์ ศรีวิเศษ ปลัดเมืองพัทยา ปฏิบัติหน้าที่นายกเมืองพัทยา เป็นประธานประชุมคณะทำงานเร่งรัดติดตามการบังคับทางปกครองรื้อถอนอาคารที่ก่อสร้างฝ่าฝืนกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคารเกี่ยวกับรายการก่อสร้างอาคารของผู้ประกอบการต่างๆที่จำเป็นต้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงหรือรื้อถอนและดำเนินการตามกระบวนการของกฎหมาย ซึ่งในปัจจุบันทางเมืองพัทยาได้ตรวจพบการก่อสร้างอาคารที่ฝ่าฝืนกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคารในเขตเมืองพัทยา หรือกำลังบุกรุกพื้นที่สาธารณะเป็นจำนวนมาก โดยมีเรื่องสำคัญๆทั้งหมด 5 กรณี ซึ่งกรณีแรกเป็นเรื่องการรื้อถอนอาคารล่วงล้ำลำน้ำบริเวณถนนวอล์คกิ้งสตรีท ชายหาดพัทยาใต้ มีสิ่งปลูกสร้างจำนวน 20 คูหา ที่ทำการรุกล้ำแนวเขตคลองพัทยาใต้ โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 2 ก.ค.59 ที่ผ่านมา มีการลงพื้นที่รางวัดแนวเขตคลองไปแล้ว หากพบว่ามีผู้ประกอบการรายใดที่ทำการปลูกสร้างรุกล้ำแนวเขตคลองพัทยาใต้ จะมีการเรียกเจ้าของอาคารมาหารือให้ดำเนินการรื้อถอนอาคารทันที หรือ หากเจ้าของอาคารไม่ยินยอมรื้อถอนทางเมืองพัทยาจะดำเนินการตามกฎหมายขั้นเด็ดขาดทันทีรวมถึงการติดตามการรุกล้ำพื้นที่สาธารณะทางปกครองให้รื้อถอนอาคารลุกล้ำเพิ่มเติมจำนวน 12 รายในพื้นที่อาคารรุกล้ำ 101 ราย พัทยาใต้เข้ามาร่วมหารือ เนื่องจากที่ผ่านมาพบว่าบริเวณพื้นที่ดังกล่าวที่มีมติ ครม.ให้ทำการรื้อถอนในปี พ.ศ. 2541 โดยระบุว่าเป็นพื้นที่ที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมแต่เรื่องยังคงไม่มีความชัดเจนว่าจะดำเนินการไปในทิศทางใดในปัจจุบัน ต่อมาได้มีการร้องเรียนผ่านไปยังกระทรวงมหาดไทยว่ามีการรุกล้ำพื้นที่เพิ่มเติมซึ่งมีความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคารจำนวน 12 ราย ในกรณีนี้เมืองพัทยาได้แจ้งความดำเนินคดี และปิดหมายเพื่อบังคับให้ทำการรื้อถอนไปแล้ว แต่พบว่าทางเจ้าของอาคารได้ทำการยื่นอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ระดับจังหวัด ซึ่งกำลังอยู่ในขั้นตอนของการวินิจฉัย ขณะที่ในจำนวนนี้มีอาคาร 1 รายที่มีปัญหาเรื่องของการออกคำสั่งซึ่งได้รับการทักท้วงจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าอาจไม่ถูกต้องเนื่องจากคำสั่งดังกล่าวก่อนหน้านี้เป็นคำสั่งให้ระงับการก่อสร้างดัดแปลงอาคาร ขณะที่ข้อเท็จจริงแล้วอาคารในพื้นที่ดังกล่าวไม่สามารถอนุญาตให้ก่อสร้างได้ตั้งแต่เริ่มต้นจึงจำเป็นต้องมีการออกคำสั่งใหม่ซึ่งต้องใช้เวลาอีกระยะ

ส่วนเรื่องถัดมาการรื้อถอนอาคารที่ก่อสร้างในบริเวณชายหาดโคซีบีซ ซึ่งมีชาวบ้านจำนวนหนึ่งได้ยึดครองพื้นที่สาธารณะบริเวณหัวชายหาดหลังโรงแรมโคซีบีช เป็นที่ทำกินจนส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวทั้งยังมีนักท่องเที่ยวได้ส่งจดหมายร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถึงผลกระทบดังกล่าว โดยก่อนหน้านี้ทางเมืองพัทยาพร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ลงไปตรวจสอบแล้วครั้งหนึ่งแต่ผลของการเจรจายังไม่เป็นผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม ปัจจุบันยังพบว่าผู้รุกล้ำบริเวณดังกล่าวยังคงเพิกเฉยไม่ดำเนินการใดๆ ดังนั้นทางที่ประชุมจึงได้มีการสรุปร่วมกันว่าให้ทางเมืองพัทยาจ้างบริษัทเอกชน เข้าทำการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างทุกชนิดที่มีการรุกล้ำพื้นที่สาธารณะภายใต้ พรบ.ควบคุมอาคารโดยจะมีการกำหนดวันดีเดย์พร้อมสนธิกำลังอีกครั้งเพื่อทวงคืนพื้นที่สาธารณะให้กับนักท่องเที่ยวใช้ประโยชน์ร่วมกันต่อไป

นอกจากนี้ยังมีการติดตามทั้งในเรื่องของกรณีคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดเกี่ยวกับวังสามเซียน, ร้องเรียนกรณีการรื้อถอนอาคารร้านอาหารคัฟฟ่า และการดำเนินการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนจากการก่อสร้างโครงการเดอะพีค