แบ่งปัน

13918462_10206846977524004_1912525861_o   13932240_10206846975563955_1356761470_o

13939983_10206846976763985_1380579398_o   13950607_10206846977404001_777185757_o

ภาพ/ข่าว สุพรรณี

 เมืองพัทยาคุมเข้มเรื่องหาบเร่แผงลอย ขายของจยย.พ่วงข้าง พร้อมพิจารณาข้อเรียกร้องจากกลุ่มพ่อค้าแม่ค้ารถจยย.พ่วงข้าง ยืนยัดจับปรับจริงตามอัตราโทษสูงสุด 2,000 บาท ทุกกรณี ด้านจราจรเพิ่มอัตราโทษกรณีผิดฐานดัดแปลงตามกฎหมาย ปรับสูงสุดอีก  2,000 บาท

ที่ศาลาว่าการเมืองพัทยา นาย เศรษฐพล บุญสวัสดิ์ ประธานคณะกรรมการกำกับดูแลความเป็นระเบียบเรียบร้อยของชายหาดเมืองพัทยา เป็นประธานประชุมคณะกรรมการฯ พร้อมด้วย นาย ชาคร กัญจนวัตตะ นายอำเภอบางละมุง และสมาชิกสภาเมืองพัทยาชั่วคราว นาย ชนัฐพงศ์ ศรีวิเศษ ปลัดเมืองพัทยาปฏิบัติหน้าที่นายกเมืองพัทยาและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง

สืบเนื่องจากวันที่ 1 สิงหาคม 2559 ที่ผ่านมาได้มีกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าที่ใช้รถพ่วงข้าง รถเข็นขายของในที่สาธารณะประมาณ 100 คน  เดินทางมาที่หน้าเมืองพัทยาเพื่อยื่นข้อเรียกร้องให้ เจ้าหน้าที่เทศกิจผ่อนปรนการจับกุมตามพ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง หลังจากเมืองพัทยาได้จัดระเบียบชายหาดพัทยา ชายหาดจอมเทียน และถนนวอล์คกิ้งสตรีท ให้เป็นพื้นที่ปลอดจากหาบเร่ขายสินค้าในที่สาธารณะ โดยมอบหมายให้ ฝ่ายเทศกิจและฝ่ายกิจการพิเศษ กวดขันจับกุมโดยเปรียบเทียบปรับในอัตราสูงสุด 2,000 บาท ส่งผลให้พ่อค้าและแม่ค้าดังกล่าวที่ทำผิดตามพ.ร.บฯ ถูกกวดขัน จับกุมได้รับความเดือดร้อน จึงรวมตัวกันมายื่นเรื่องให้ทางเจ้าหน้าที่ผ่อนปรน ให้สามารถค้าขายได้และเปรียบเทียบปรับในอัตราน้อยลงหรือจัดหาสถานที่ให้ขายของ โดยครั้งนั้นได้มีการยื่นข้อเรียกร้องให้ทางเมืองพัทยาช่วยเหลือ ดังนี้

  1. ทำอย่างไรกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าจะขายของได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย 2. ค่าปรับขอให้อยู่ที่ราคา 200 -300 บาท มีอายุความ 7 วัน 3. ทำบัตร ลงทะเบียนผู้ค้าขาย ป้องกันพวกต่างด้าวและ 4. ขอเสนอให้เสียภาษีการค้าตามกฎหมาย

ซึ่งในที่ประชุมครั้งนี้ ได้ร่วมกันพิจารณาตามข้อเรียกร้องแล้ว โดยในที่ประชุมได้มีมีมติเห็นชอบร่วมกันว่าทางเมืองพัทยาไม่สามารถจะผ่อนผันตามข้อเรียกร้องดังกล่าวให้ได้ และยึดปฏิบัติหน้าที่ตาม พรบ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมืองต่อไป

ทั้งนี้ในที่ประชุมยังมีการหยิบยกปัญหาที่ตรวจเจอ กรณีมีนายจ้างรับลูกจ้างเป็นต่างด้าวที่ขึ้นทะเบียนทำงานถูกต้องตามกฎหมายมาเร่ขายของด้วยรถพ่วงข้าง เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบว่ามีบัตรประจำตัวต่างด้าวที่ถูกต้องตามกฎหมายและมีนายจ้างมาแสดงตัวทุกครั้งที่ โดนการจับกุมจึงไม่สามารถเข้าดำเนินการความผิดใดๆได้ ซึ่งในกรณีนี้ทางประธานประชุมได้แนะทางเจ้าหน้าที่ว่าสามารถเข้าดำเนินการจับกุมได้ทันทีเพราะแรงงานต่างด้าวกลุ่มนี้แม้จะมีการขึ้นทะเบียนการทำงานถูกต้อง แต่มีความผิดพระราชบัญญัติการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2521ที่กฎหมายของประเทศไทยกำหนดให้ต้องเป็นอาชีพสำหรับคนไทยเท่านั้น คือ งานขับขี่ยานยนต์ หรืองานขับขี่ยานพาหนะที่ไม่ใช้เครื่องจักรหรือเครื่องกลและงานเร่ขายสินค้า  ซึ่งแรงงานต่างด้าวไม่สามารถจะกระทำได้ ดังนั้นทางที่ประชุมจึงให้เจ้าหน้าที่ยึดกฎกติกาตามเดิมจับปรับจริงจำนวนสูงสุด2,000 บาท โดยเฉพาะบริเวณถนนริมชายหาดเมืองพัทยา ในส่วนของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังเสนอต่อที่ประชุมถึงมาตรการคุมเข้มในการเข้าจับกุมรถจยย.พ่วงข้างที่เข้าข่ายความผิด ที่มีการดัดแปลง อุปกรณ์ผิดกฎหมายจราจรโดยมีอัตราปรับโทษสูงสุด 2,000 บาท เช่นกัน

หลังจากประชุมเสร็จสิ้นลงทางผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สำรวจพ่อค้าหาบเร่แผงลอยและรถจยย.พ่วงข้างตลอดเส้นถนนริมสายชาดหาดพัทยา พบว่า จำนวนของพ่อค้า แม่ค้า หาบเร่แผงลอยต่างๆบางตาลงอย่างเห็นได้ชัด พบว่ายังมีให้เห็นไม่เยอะเท่ากับที่ผ่านมา ซึ่งทาง รถจยย.พ่วงข้างที่เคยเห็นมีการย้ายเข้าไปขายตามซอยและพื้นที่เอกชนต่างๆ  ส่วนหาบเร่แผงลอยบนเส้นสายชายหาด ยังพบอยู่ซึ่งจะเป็นกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าที่คอยขายของให้กับกรุ๊ปนักท่องเที่ยวจีนโดยกรณีนี้ทางที่ประชุมยังไม่ได้มีการกล่าวถึงว่าจะเข้าข่ายความผิดเหมือนกับหาบเร่แผงลอยอื่นๆหรือไม่ ถึงแม้ว่าทางกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าทั้งรถจยย.พ่วงข้างหรือหาบเร่แผงลอยจะมีการเปลี่ยนสถานที่ขายไปตามซอยต่างๆหรือสถานที่พลุกพล่านในบริเวณอื่นๆยังถือว่าเป็นการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมืองอยู่ดี หากเจ้าหน้าที่พบเห็นก็มีสิทธิ์จับปรับได้ทันทีเหมือนกรณีเดียวกับเส้นสายชาดหาดแต่อัตราโทษปรับอาจลดหลั่นไปตามดุลยพินิจของทางเจ้าหน้าที่