กลุ่มพ่อค้าแม่ค้ารถพ่วง หาบเร่ ชายหาดพัทยา จอมเทียน กลั่นน้ำตาไม่อยู่หลังเดินทางมารับฟังข้อเรียกร้อง หลังเมืองพัทยายืนยันทำตามกฎการจัดระเบียบถนนชายหาดในเมืองพัทยาที่จะไม่อนุญาตหรือสามารถผ่อนปรนตามข้อเรียกร้องได้ทุกประการ
เมื่อช่วงสายของวันที่ 19 ส.ค. 59 ทางกลุ่มพ่อค้าแม่ค้า รถพ่วงข้างที่เร่ขายบริเวณชายหาดพัทยาจำนวนกว่า 50 คน มารวมตัวกันเพื่อฟังข้อเรียกร้องหลังจากมายื่นเรื่องไว้ให้กับทางเมืองพัทยาเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม ที่ผ่านมา บรรยากาศโดยรอบทางเมืองพัทยา มีการตรึงกำลังเจ้าหน้าที่รอบๆกว่า 130 นาย
สำหรับข้อเรียกร้องที่ทางกลุ่มชุมนุมมีการเรียกร้องไว้กับทางเมืองพัทยาเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2559 นั้นมีทั้งหมด 10 คือ ขอให้ขายเป็นเวลา, ขอให้มีการจัดขายโดยมีวันหยุด, ขอให้มีการจัดแบ่งโซนขายของ, ขอให้จำกัดจำนวนรถที่มาขาย, ขอให้มีการจับกุมชาวต่างชาติ, ขอให้มีค่าปรับ 300 บาท, ขอให้มีการขึ้นทะเบียนถูกกฎหมาย, การจับกุม 1 ครั้ง ให้ขายได้ 1 เดือน, หากรถเคลื่อนที่ต้องไม่จับกุมและเมื่อมีการหลบหนีอย่าปิดซอยจับ ซึ่งครั้งนี้ทางกลุ่มชุมนุมมีการส่งตัวแทนของกลุ่มพ่อค้าแม่ค้า จำนวน 4 คน ทั้งจากชายหาดพัทยาและชายหาดจอมเทียนเข้าร่วมเจรจากับทางเมืองพัทยา โดยมี นาย ชนัฐพงศ์ ศรีวิเศษ ปลัดเมืองพัทยา ปฏิบัติหน้าที่นายกเมืองพัทยา และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมเจรจาและพูดคุยในห้องประชุม ศาลาว่าการเมืองพัทยา ซึ่งผลการเจรจาครั้งนี้ทางเมืองพัทยาสรุปว่า ขอยืนยันทำตามกฎการจัดระเบียบถนนชายหาดในเมืองพัทยาที่จะไม่อนุญาตหรือสามารถผ่อนปรนตามข้อเรียกร้องทั้ง 10 ข้อดังกล่าวได้
ทาง นายชนัฐพงศ์ ปลัดเมืองพัทยา กล่าวว่า ทางเมืองพัทยามีนโยบายในการจัดระเบียบถนนชายหาดในเมืองพัทยา ให้เป็นถนนตัวอย่างในการสร้างภาพลักษณ์ความเป็นระเบียบเรียบร้อยที่ดีด้านการท่องเที่ยว ซึ่งข้อเรียกร้องที่ทางกลุ่มตัวแทนเรียกร้องมานั้นขัดกับข้อกฎหมายตามพระราชบัญญัติรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. 2535 ทำให้มติในที่ประชุมไม่สามารถดำเนินการตามข้อเรียกร้องในการจัดหาพื้นที่ให้ขายในถนนชายหาดได้ และหากผู้ชุมนุมยังดำเนินการฝ่าฝืน ทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะนำหลักกฎหมายมาเป็นแนวทางการปฏิบัติอย่างเคร่งครัด หากฝ่าฝืนจะถูกจับกุมทันที พร้อมดำเนินการเปรียบเทียบปรับในอัตราสูงสุดหรือเป็นเงินจำนวน 2,000 บาท ส่วนในกรณีของกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าต่างด้าวที่เข้ามาขายของในพื้นที่ทางเจ้าหน้าที่จะดำเนินการเปรียบเทียบปรับในอัตราสูงสุดเช่นกันหลังจากนั้นจะส่งตัวให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามการกระทำผิดพระราชบัญญัติการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2521 ที่กฎหมายของประเทศไทยกำหนดให้ต้องยังคงเป็นอาชีพสำหรับคนไทยเท่านั้นคืองานขับขี่ยานยนต์ หรืองานขับขี่ยานพาหนะที่ไม่ใช้เครื่องจักรหรือเครื่องกลและงานเร่ขายสินค้า ซึ่งแรงงานต่างด้าวไม่สามารถจะกระทำได้
เมื่อการเจรจาเสร็จสิ้นลงทางตัวแทนกลุ่มชุมนุมได้นำเรื่องมาบอกกล่าวแก่พ่อค้าแม่ค้าที่อยู่ด้านล่างซึ่งเสียงส่วนใหญ่ยังคงไม่เห็นด้วยเพราะเห็นว่าทางเมืองพัทยาไม่ได้ช่วยผ่อนปรนใดๆให้กับแม่ค้าเลย
จากการสอบถามไปยังกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าบางราย ทราบว่า พ่อค้าแม่ค้าบางรายได้ยึดอาชีพเร่ขายของรถพ่วงให้กับนักท่องเที่ยวมานานกว่า 10 ปี เพื่อหาเงินดำรงชีพในการผ่อนบ้าน ส่งรถและเลี้ยงคนในครอบครัวพอทราบว่าเมืองพัทยาไม่ยอมผ่อนปรนหรือหาทางช่วยเหลือใดๆให้กับทางกลุ่มเลยถึงกับล้มทั้งยืน บางคนถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ เพราะไม่ทราบว่าหลังจากนี้จะทำมาหากินยังไงด้วยอายุที่มากขึ้นจะไปหาอาชีพทำใหม่ในตอนนี้คงลำบาก
นอกจากนี้ทางกลุ่มชุมนุมทั้งหมดต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าหากเมืองพัทยายืนยันตามเจตนารมณ์ดังกล่าวพวกตนคงได้รับผลกระทบอย่างหนัก จึงวอนให้ทางเจ้าหน้าที่เห็นใจในเรื่องของข้อเรียกร้องอัตราเงินค่าปรับที่จะจับปรับในอัตราสูงสุดถึง 2,000 บาท ให้เหลือเพียง 200 -300 บาทเท่านั้น เพื่อกลุ่มชุมนุมพ่อค้าแม่ค้ามีอาชีพทำมาหากิน ส่วนในข้อที่เหลือที่เคยยื่นไปก่อนหน้านี้พวกตนยินยอมให้ทางเจ้าหน้าที่จับปรับได้ตามข้อกฎหมาย ซึ่งหลังจากนี้ทางกลุ่มพ่อค้าแม่ค้ามีข้อตกลงร่วมกันว่าจะดำเนินการไปเรียกร้องยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไปเพื่อหาแนวทางเยียวยาในเรื่องนี้ต่อไป
อย่างไรก็ตามจากการลงพื้นที่ของผู้สื่อข่าวหลังจากที่มีการประชุมเป็นที่เรียบร้อย บรรยากาศตามชายหาดพัทยา และตามตรอกซอกซอยในส่วนติดชายหาดพัทยา นั้น ยังพบว่ามีพ่อค้าแม่ค้าหาบเร่ ขายผลไม้อาหาร ยังลักลอบขายของให้กับนักท่องเที่ยวอยู่
