แบ่งปัน

16_03_07-01_12_35

อัมพร/พัทยา

เจ้าของร้านเครื่องนอนยางพาราแจง กรณีโพสคลิป รถทัวร์ไม่ให้กรุ๊ปจีนนำสินค้าขึ้นรถ

จากกรณี เพจเฟสบุ๊คชื่อ” Pattaya watch dog “ ได้แชร์ข้อความ “เชิญชมคลิป รถบัสของบริษัทสยามเจมส์ ไม่ให้ลูกทัวร์เอาสินค้า หมอน ที่นอน ยางพารา ที่ไม่ได้ซื้อจากร้านค้าที่บริษัทพาไปซื้อ แต่ลูกค้าซื้อจากร้านอื่น สินค้าจะไม่ถูกนำขึ้นรถ ต้องเลือก ทิ้งสินค้า หรือลูกทัวร์จะโดนทิ้ง? นี่คือตัวอย่างการผูกขาดของธุรกิจนำเที่ยว นี่ปัญหานี้ไปไกลกว่าแค่ทัวร์ศูนย์เหรียญ แต่เป็นทัวร์ติดลบ? วันนี้คณะของรัฐมนตรีกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาลงพื้นที่เมืองพัทยา แต่ไม่รู้ว่าเจ้าหน้าที่เมืองพัทยา และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เมืองพัทยา จะนำเรียนปัญหานี้ด้วยหรือไม่? #ทัวร์จีนมีไว้ทำไม ไม่กระจายรายได้ให้คนท้องถิ่น “ พร้อมคลิปวิดีโอมีความยาวกว่า 30 นาที มีเนื้อหาเกี่ยวกับ การเจรจาพูดคุยโต้เถียงของกรุ๊ปนักท่องเที่ยวชาวจีน ผู้ประกอบการร้านสินค้า กับไกด์ทัวร์ และกลุ่มคนขับรถทัวร์ ซึ่งมีการแสดงความคิดเห็นกันอย่างแพร่หลายในหลายๆ ด้าน

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 6 มี.ค.59 ผู้สื่อข่าวติดต่อไปยัง นาง พิมพ์ปรีย์ โพรคาเชฟ อายุ 33 ปี และ นาย อเล็กซานเดอร์  โพรคาเซฟ อายุ 27 ปี สัญชาติรัสเซีย สามีภรรยาเจ้าของกิจการร้าน Patex จำหน่ายเครื่องนอนยางพารารายใหญ่ มีสาขาย่อยทั้งหมด 25 สาขา ในเมืองพัทยา จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นผู้โพสคลิปวิดีโอดังกล่าว เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง

ซึ่ง นางพิมพ์ปรีย์ โพรคาเชฟ เปิดเผยว่า เหตุการณ์ในคลิปวิดีโอ นายอเล็กซานเดอร์  โพรคาเซฟ เป็นผู้บันทึกภาพ โดยเหตุการณ์เริ่มจากเมื่อช่วงเกือบเที่ยงคืนของวันที่ 1 มี.ค. มีชาวจีนประมาณ 5 คน ได้เดินผ่านมาที่ร้านของตน สาขาจอมเทียน และต้องการสั่งสินค้า พนักงานทางร้านพาลูกค้ามาเลือกสินค้าจริงที่ ร้านสาขาใหญ่(สาขาเทพประสิทธิ์)  หลังจากตกลงเรียบร้อยทางร้านจึงแพ็คสินค้าและไปส่งสินค้าให้ลูกค้าที่โรงแรมแห่งหนึ่งย่านจอมเทียน

ต่อมาช่วงเช้าของวันที่ 2 มี.ค.ทางร้านได้รับแจ้งจากลูกค้าชาวจีนว่า รถทัวร์ของบริษัท สยามเจมส์ ไม่ยินยอมให้ขนสินค้าของทางร้านขึ้นไปบนรถทัวร์ ทางร้านจึงเดินทางไปยังโรงแรมที่ลูกค้าพักอยู่ เพื่อนำสินค้าขนส่งไปให้ลูกค้าที่สนามบิน แต่ลูกค้าไม่ยอม เพราะคิดว่าซื้อทัวร์มาแล้ว ทำไมถึงซื้อสินค้าอื่นแล้วนำขึ้นรถไม่ได้ ซึ่งลูกค้าไม่ยอมขึ้นรถของทางร้าน และไม่ยอมขึ้นรถทัวร์ หากสินค้าไม่ถูกนำขึ้นรถทัวร์ไปด้วย

และจากการสอบถามคนขับรถทัวร์ทราบว่า ทางบริษัทรถทัวร์ไม่ต้องการให้นำสินค้าที่ซื้อข้างนอกขึ้น เนื่องจากทางบริษัทได้จัดสถานที่ซื้อสินค้าไว้ให้แล้ว และหากคนขับรถทัวร์ หรือพนักงานคนอื่นยินยอมจะต้องถูกไล่ออกหรือพักงาน เพราะทางบริษัทรถทัวร์จะมีบุคคลคอยบันทึกภาพไว้ ส่วนทางด้านไกด์ทัวร์ ได้ชี้แจงว่า ได้บอกกรุ๊ปก่อนแล้วว่าไม่ให้ซื้อสินค้าด้านนอกสถานที่ เพราะจะไม่สามารถนำขึ้นรถได้

จนกระทั่งเหตุการณ์เริ่มบานปลายตามคลิปวิดีโอ กรุ๊ปชาวจีนเริ่มโวยวายและไม่พอใจมากยิ่งขึ้น ทางไกด์จึงขอร้องให้คนขับรถทัวร์ยินยอมนำสินค้าดังกล่าวขึ้นรถ จนเหตุการณ์จบลงด้วยดีและไม่มีการแจ้งความดำเนินคดีแต่อย่างใด

นางพิมพ์ปรีย์ โพรคาเชฟ กล่าวอีกว่า เหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งทางร้านได้บอกลูกค้าอยู่เป็นประจำ ว่าทางร้านมีบริการจัดส่งสินค้าถึงประเทศจีน หรือส่งให้ถึงสนามบิน เพื่อเป็นการแก้ปัญหา สุดท้ายนี้ เจตนาของตนที่โพสคลิป คือเป็นห่วงสิทธ์ของลูกค้า ซึ่งที่ผ่านมาบริษัททัวร์ต่างชาติอื่นๆ ก็มีนโยบายในเรื่องไม่ให้ซื้อสินค้านอกสถานที่ แต่หากลูกค้าซื้อสินค้านอกสถานที่ ทางบริษัททัวร์หรือรถทัวร์ก็ยินยอมให้ลูกค้านำขึ้นรถ ทั้งนี้ อยากให้ปฏิบัติกับกรุ๊ปทัวร์จีนให้เท่าเทียมกับชาติอื่นๆ เพื่อรักษาการท่องเที่ยวต่อไป…