แบ่งปัน

14813272_10207486696196571_1203836580_o  14826242_10207486651795461_1460945949_n

14872472_10207486660315674_654563017_n  14875202_10207486655355550_891976330_n

ภาพ สุพจน์ ข่าว สุพรรณี

รองผู้ว่าฯ ลงพื้นที่ท่าเทียบเรือแหลมบาลีฮาย  พร้อมยืนกรานจุดจอดเรือสปีดโบ้ทต้องไม่มีภายในสิ้นเดือนต.ค.นี้  โดยมีการปรับเปลี่ยนจุดขึ้นลงเรือสปีดโบ๊ทย้ายไปที่ชายหาดจอมเทียน 11 พร้อมหาที่ใหม่ให้ ย้ำไม่ใช่ไม่ยืดหยุ่นแต่ผู้ประกอบการเรือได้รับผลประโยชน์มาอย่างยาวนานถึงเวลาต้องคืนพื้นที่สาธารณะให้ประชาชน

จากกรณีที่ทางกองบัญชาการควบคุม มณฑลทหารบกที่ 14 ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบพื้นที่จังหวัดชลบุรี ในการปฏิบัติภารกิจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เพื่อสนับสนุนการบริหารงานของรัฐบาล กรณีผู้ประกอบการท่าเทียบเรือแหลมบาลีฮาย นำเรือสปีดโบ๊ทขึ้นมาจอดในพื้นที่สาธารณะ ส่งผลทำให้กีดขวางทางจราจร และไม่มีที่จอดรถสำหรับนักท่องเที่ยวมานานหลายปี ประกอบกับในปี พ.ศ.2560 กองทัพเรือจะจัดพิธีสวนสนามทางเรือในเขตพื้นที่เมืองพัทยา จึงมีความจำเป็นต้องใช้พื้นที่บริเวณท่าเทียบเรือแหลมบาลีฮายเป็นสถานที่ในการจัดแสดงและจุดขึ้นลงเรือดังกล่าว

ในเรื่องนี้ เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 25 ต.ค. 59 นายเชาวลิตร แสงอุทัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ได้ลงพื้นที่บริเวณท่าเทียบเรือแหลมบาลีฮายอีกครั้ง พร้อมเจ้าหน้าที่จาก อำเภอบางละมุง เจ้าหน้าที่สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาพัทยา เจ้าหน้าที่ ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา คณะรักษาความสงบแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่ง นายเชาวลิตร รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรีกล่าวว่าการลงพื้นที่ครั้งนี้ เพื่อมาดูสถานที่ที่จะรองรับการเคลื่อนย้ายเรือจากจุดท่าเทียบเรือแหลมบาลีฮายไปยังสถานที่ใหม่ โดยหลังจากวันที่ 31 ตุลาคม 2559 ทางเจ้าหน้าที่จะไม่อนุญาตให้ผู้ประกอบการเรือสปีดโบ๊ททั้งหมดนำเรือไปจอดที่บริเวณแหลมบาลีฮาย รวมทั้งจะไม่อนุญาตให้มีการนำเรือขึ้นลงยังบริเวณดังกล่าวอีกต่อไปโดยไม่มีข้อยกเว้นใด หรือจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง และจะมีการย้ายสถานที่การขึ้นลงเรือไปยังหาดจอมเทียนซอย 11 แทน

นอกจากนั้นทางคณะฯยังได้มีการลงพื้นที่ไปยังพื้นที่ว่างเปล่าของเอกชนรายหนึ่งซึ่งมีความกว้างประมาณ  14 ไร่ ตั้งอยู่บริเวณซอยก่อไผ่ ที่สามารถเอาไว้รองรับเป็นสถานที่จอดเรือได้ประมาณ 500 ลำ หากมีผู้ประกอบการเรือมาเช่าสถานที่แห่งนี้จะเสียค่าเช่าต่อเรือ 1 ลำที่มีเครื่อง 1 เครื่อง ในราคา 1,000 บาท 2 เครื่องในราคา 2,000 บาท หากวัดจากระยะทางจุดที่มีการย้ายการขนเรือจากจอมเทียนซอย11 สถานที่ดังกล่าวอยู่ห่างเพียงประมาณ 5 กิโลเมตร จึงแนะนำให้ทางผู้ประกอบการฯหาพื้นที่ว่างเปล่าในเขตพื้นที่จอมเทียนเพื่อไว้เช่าจอดเรือ เพื่อจะช่วยย่นเรื่องระยะทางและค่าใช้จ่ายลงได้มากกว่า พร้อมฝากถึงประชาชนและนักท่องเที่ยวว่าในช่วงแรกอาจส่งผลกระทบกับเส้นทางการจราจรบนถนนอาจเกิดปัญหากระทบกระทั่งกับผู้ใช้รถใช้ถนนในการขนย้ายเรือไปจอดตามสถานที่ต่างๆ ขอให้ประชาชนทั่วไปเข้าใจปัญหาดังกล่าว ว่าจะเป็นปัญหาแค่ช่วงแรกๆเท่านั้น เบื้องต้นในที่ประชุมมีการกำหนดเวลาในการขนย้ายเรือไปยังจุดเก็บเรือไว้ที่เวลา 20.00 น ถึง เวลา 05.00 น. อย่างไรก็ดีเรื่องนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนของการนำเสนอกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

สำหรับการแก้ไขครั้งนี้ ถือเป็นการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นให้ทันกับกิจกรรมระดับประเทศที่จะเกิดขึ้นในช่วงปลายปี พ.ศ. 2560 ส่วนการแก้ไขปัญหาระยะยาวจะมีการหารือระหว่างเมืองพัทยากับทางจังหวัดชลบุรีในการช่วยเหลือผู้ประกอบการฯอาจมีการหาสถานที่ว่างเปล่าของเมืองพัทยาเองนำมาให้ผู้ประกอบการได้จอดเรือสปีดโบ๊ท เพื่อเป็นการหารายได้ให้กับทางเมืองพัทยานำมาบริหารงานในส่วนต่างๆแทน จึงอยากให้ทางผู้ประกอบการเรือสปีดโบ๊ท เข้าใจและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ และไม่ใช่เห็นว่าทางหน่วยงานของรัฐจะไม่มีการยึดหยุ่นแต่ต้องการให้ประชาชนเข้าใจว่าทุกคนได้รับผลประโยชน์กับพื้นที่บริเวณดังกล่าวมานานกว่า 20 ปี ถึงเวลาที่ต้องคืนพื้นที่ให้กับประชาชนชาวเมืองพัทยารวมทั้งกิจกรรมที่จะเกิดขึ้นเพราะถือว่าเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับเมืองพัทยาและประเทศไทย