แบ่งปัน

14591720_1242546199166889_825496029175314436_n  14595758_1242546162500226_5957071492739079686_n14908218_1242568045831371_804294838884591890_n  14938346_1242546279166881_3021087220733762328_n

บทความพิเศษ

ตามรอยพ่อ….ไร่นาสวนผสมภิรมย์ รักความดี   ชีวิตนี้ขอเดินตามรอยพ่อผู้ให้กำเนิดและพ่อของแผ่นดิน กับวิถีเกษตรไร่นาสวนผสม
เมื่อพูดถึงไร่นาสวนผสม หลายคนอาจนึกภาพออกแต่อาจจะมีหลายคนโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่ยังไม่เข้าใจและมองภาพยังไม่ออกว่า ไร่นาสวนผสม คืออะไร.. ไร่นาสวนผสม หมายถึง การทำการเกษตรหลายๆอย่างในพื้นที่เดียวกันเพื่อลดความเสี่ยงจากภาวะอากาศและราคา เน้นความหลากหลายของกิจกรรม เช่น ปลูกข้าว ไม้ผล พืชผัก เลี้ยงไก่ เป็ด เลี้ยงปลา เพื่อเป็นอาหารและขายเป็นรายได้ โดยวัตถุประสงค์ของการทำไร่นาสวนผสมมีเป้าหมายเพื่อลดรายจ่ายและเพิ่มรายได้แก่ครอบครัว เพื่อลดความเสี่ยงจากภาวะอากาศและราคา ใช้ทรัพยากรในไร่นาอย่างมีประสิทธิภาพ รักษาความสมดุลของระบบนิเวศ 
ไร่นาสวนผสมลุงพยอม รักความดี เป็นอีกหนึ่งแหล่งเรียนรู้ของเกษตรกรที่อยู่คู่ ต.ตะเคียนเตีย อ.บางละมุง จ.ชลบุรี มายาวนานหลายสิบ ปี ที่แรกเริ่มเดิมทีนั้นพื้นที่บริเวณนี้เป็นท้องทุ่งนาที่ทำนาได้อย่างเดียว แต่ภายหลังลุงพยอดได้ปรับเปลี่ยนพื้นที่ตามแนวพระราชดำรัสเกษตรทฤษฏีใหม่ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ให้กลายเป็นทั้งที่ที่ทำนาปลูกข้าวได้และเป็นสวนที่สามารถปลูกพืชผักไม้ผลไ ม้ยืนต้นได้หลากหลายชนิด หลังจากที่ลุงพยอมได้เพียรพยายามเรียนรู้ด้วยต้นเองและได้ไปศึกษาเรียนรู้ตามแหล่งเรียนรู้ที่เป็นศูนย์การเรียนรู้อาชีพเกษตรกรรมโครงการพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และได้นำความรู้และแนวทางที่ไปศึกษามา มาปรับใช้ในการทำการเกษตรของตนเองได้สำเร็จ ขณะที่ช่วงนั้นลูกๆของลุงพยอมทั้ง 3 คนยังคงเรียนและทำงานเป็นพนักงานประจำในโรงงาน พื้นที่บริเวณนี้ก็ยังเป็นพื้นที่นาสวนที่ให้ดอกออกผลมาอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งคุณลุงพยอมได้ล้มป่วยและจากไปลูกหลานไปเมื่อหลายปีก่อน 
พี่ภิรมย์ รักความดี ลูกชายคนกลางของคุณลุงพยอม วัย 43 ปี ซึ่งเดิมที่มีความชอบและการทำเกษตรเหมือนผู้เป็นพ่อ โดยเฉพาะมีความสนใจด้านการปลูกกล้วยไม้เป็นพิเศษแต่ก็ไม่ได้เรียนจบเกษตรมาโดยตรงและไม่มีความรู้ทางด้านการปลูกกล้วยไม้มาก่อน แต่ด้วยความชอบและความสนใจจึงมีการศึกษาหาความรู้จากแหล่งเรียนนรู้ต่างๆ ทั้งจากหนังสือ สื่อ วารสารต่างๆรวมถึงการขอเข้าไปศึกษาเรียนรู้กับเพื่อนร่วมงานที่มีความรู้ความสามารถในการทำสวนกล้วยไม้จนประสบความสำเร็จ โดยพี่ภิรมย์ได้นำความรู้ที่ได้ศึกษามาเริ่มเข้าสู่ขบวนการทดลองด้วยการหาเวลาว่าจากการทำงานประจำที่โรงงาน มาทดลองปลูกกล้วยไม้เศรษฐกิจในพื้นที่สวนของตนเองโดยใช้พื้นที่เล็กๆในการทดลองปลูกกล้วยไม้จำนวน 600 ต้น ในระยะเวลาหนึ่งและเห็นผลว่ากล้วยไม้สมบูรณ์ออกดอกดีสามารถปลูกเป็นรายได้เสริมในระหว่างที่ตนและพี่นิต (ภรรยาคู่ชีวิต)ได้จึงเริ่มขยายพื้นที่เพาะปลูกและให้ความสนใจในการมาดูแลไร่นาสวนของผู้เป็นพ่อมากขึ้นจนเริ่มมีการต่อยอดทำโรงเรือนเพาะเห็ด ซึ่งกิจกรรมที่ทำอยู่ในช่วงนั้นก็ถือว่ามีรายได้ตอบแทนค่อนข้างดีขึ้นเรื่อยๆ ด้วยพื้นที่การปลูกกล้วยไม้เพิ่มขึ้นจนสามารถตัดดอกคัดเกรดเป็นไม้ออกส่งออกขายยังต่างประเทศได้ ส่วนหนึ่งก็ขายให้โรงแรม ได้รายได้ค่อนข้างดี
กระทั่งปีเมื่อปี พ.ศ.2549 พี่ภิรมย์จึงตัดสินใจลาออกจากการเป็นพนักงานประจำของบริษัท มาทำอาชีพเกษตรเป็นชาวสวนแบบเต็มตัวโดยเน้นการทำสวนกล้วยไม้เศรษฐกิจเป็นหลัก ซึ่งกล้วยไม้ที่ปลูกก็มี 3-4 สายพันธุ์ ที่ล้วนแล้วเป็นที่ต้องการของตลาด ปัจจุบันมีการเพิ่มมูลค่าให้กับผลลิตด้วยการจับจัดช่อดอกขายให้กับพ่อค้าแม่ค้าดอกไม้ที่ตลาดราคาส่งอยู่ที่ช่อละ 10-15 บาท แล้วแต่ขนาดกำ ขณะที่ยอดออเอดร์จากต่างประเทศอย่างประเทศจีน อินเดีย เกาหลี ก็มีแนวโน้นที่ดีมีการสั่งออเดอร์เข้ามาครั้งละ 2,000 – 3,000 ช่อ โดยราคาขายต่างประเทศจะอยู่ที่ช่อดอกละ 5-15 บาท แล้วแต่ขนาดช่อดอกเล็กใหญ่ ซึ่งก็ถือว่าเป็นรายได้ที่ดีแต่การปลูกกล้วยไม้ก็ต้องทุ่มเทเวลาดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดีถึงจะให้ผลผลิตที่ดีและยาวนาน 
ปัจจุบันพี่ภิรมย์ รักความดี ทำการเกษตรบนพื้นที่ทั้งหมด 25 ไร่ แบ่งเป็น พื้นที่อนุรักษ์ไม้ยืนต้นคงความเป็นสวนป่าไว้จำนวน 3-4 ไร่ , สวนกล้วยไม้ 6 ไร่ , บ่อกักเก็บน้ำเลี้ยงปลา 2 บ่อ พื้นที่ 2 ไร่ สวนปลูกพืชผักสวนครัว มะละกอ มะพร้าวน้ำหอม กล้วย ทุเรียน มังคุด กว่า 10 ไร่ นอกจากนั้นก็เป็นพื้นที่สำหรับบ้านที่อยู่อาศัยและโรงเรือนสำหรับจัดเก็บอุปกรณ์การเกษตร พี่ภิรมย์ บอกว่าตลอดระยะเวลาการทำเกษตรตั้งรุ่นคุณพ่อมาจนถึงรุ่นลูกที่ทำอยู่ ได้น้อมนำเอาแนวทางพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มาปรับประยุกต์ใช้ในพื้นที่การเกษตรแบบผสมผสานทั้งการทำไร่นาส่วนผสม การทำเกษตรทฤษฏีใหม่ และการนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเข้ามาปรับประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิตได้อย่างลงตัวโดยพี่ภิรมย์บอกว่า ปัจจุบันตนและครอบครัวใช้ชีวิตอย่างมีความสุขไม่ต้องเคร่งเครียดกับการทำงานประจำในบริษัท ได้กิน ได้อยู่กับธรรมชาติ ได้สูดอากาศที่บริสุทธิ์ มีเวลาได้อยู่กับครอบครัวมากขึ้นและที่สำคัญได้ดูแลแม่ซึ่งเป็นกำลังใจสำคัญของตนเองอย่างเต็มที่ ตนและครอบครัวยังคงเชื่อมั่นในปรัชญาและแนวทางที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชได้ทรงดำรัสและมีปณิธานที่มุ่งมั่นให้คนไทยมีชีวิตที่มีความสุขภายใต้ความพอเพียงซึ่งตนและครอบครัวจะขอน้อมนำมาถิตย์ในใจด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดไม่ได้ .

14938154_1180389032009281_1922107590360289544_n  14907209_1180392425342275_451120952264813722_n