แบ่งปัน

S__1679362   S__1679369

ภาพ/ข่าว อัมพร

คลินิก วีเชฟพัทยา ตั้งโต๊ะแถลงสื่อมวลชน หลังบรรลุข้อตกลงค่าใช้จ่ายกว่า 7.65 แสนบาทให้สาวเจ้าของร้านกาแฟที่ร้องทุกข์ว่าปากเบี้ยวหลังทำศัลยกรรมความงาม เผยที่ผ่านมาแพทย์ให้การรักษาตามขั้นตอนทุกอย่างและไม่เคยปัดความรับผิดชอบ เพียงเกิดความไม่เข้าใจในขั้นตอนของการสื่อสารไกล่เกลี่ย ระบุการเจรจาก่อนหน้ามีหลักฐานครบแต่ไม่อยากให้ยืดเยื้อ
จากกรณีที่ นาง ดาว นามสมมุติ อายุ 22 ปี เจ้าของกิจการร้านกาแฟย่านพัทยากลาง จ.ชลบุรี เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา โดยระบุว่าหลังเข้าไปทำศัลยกรรมปากที่ “วิเชฟคลินิก” ย่านพัทยากลาง ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จนทำให้ปากมีอาการติดเชื้อและเสียโฉมในเวลาต่อมา ซึ่งหลังเกิดเหตุได้เข้าเจรจากับทางแพทย์ที่ทำการรักษาและคลินิกเพื่อร้องขอให้ชดใช้ค่าใช้จ่ายเพื่อไปทำศัลยกรรมแก้รูปปากที่ประเทศเกาหลี แต่ทางแพทย์กับคลินิกกลับไม่ยอมเจรจา โดยให้ไปพูดคุยกับทนายความแทนจึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ไปเมื่อวันที่ 30 ตุลาคมที่ผ่านมานั้น
ล่าสุดเวลา 19.30 น.วันที่ 1 พ.ย.59 เภสัชกร ปิยะภัณฑ์ โหวิไลลักษณ์ เจ้าของกิจการ “วีเชฟคลีนิก” ได้เปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าสำหรับกรณีนี้ ทางคลินิกได้รับทำ ศัลยกรรมใบหน้าบริเวณรูปปากเพื่อให้เป็นกระจับสำหรับ นาง ดาว จริง ซึ่งได้มอบหมายให้แพทย์ผู้ชำนาญการของคลินิกที่มีใบอนุญาตและใบประกอบอาชีพทางเวชกรรมอย่างถูกต้องเป็นผู้ลงมือผ่าตัด ซึ่งทุกอย่างก็ผ่านพ้นไปด้วยดี และยืนยันว่าแผลที่เกิดขึ้นไม่ได้มาจากความผิดพลาดในการผ่าตัดไปโดนเส้นเลือดใหญ่ หรือปัญหาเลเซอร์ห้ามเลือดแต่อย่างใด แต่เป็นกรณีของแผลติดเชื้อซึ่งมีโอกาสเกิดขึ้นได้กับการผ่า ตัดในทุกระดับ ซึ่งเมื่อเกิดอาการขึ้นแพทย์ก็จะแนะนำวิธีการปฏิบัติตัวของผู้ป่วย อาทิ ลดกินอาหารแสลง การให้กินยาปฏิชีวนะเพื่อฆ่าเชื้อ และการนัดพบแพทย์อย่างสม่ำเสมอเพื่อติดตามอาการ แต่ปรากฏว่าที่ผ่านมานาง ดาว เองกลับไม่มาพบแพทย์ตามนัด 4-5 ครั้งติดต่อกัน อีกทั้งยังไม่ทราบได้ว่าไปทำภารกิจประจำวันที่อาจส่งผลต่อแผลหรือไม่จึงทำให้อาการไม่ดีขึ้น แต่ทางแพทย์ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจและพยายามคิดตามอาการดูแลอย่างใกล้ชิด ซึ่งในช่วงเวลานี้ก็ไม่ได้มีการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายใดๆจากนาง ดาว อีก กระทั่งแผลเกิดมีอาการเป็นหนองจึงต้องมาทำการขูดหนองออกตามขั้นตอนจนเมื่อผ่านไปหลายครั้งจึงส่งผลให้เนื้อบริเวณปากเกิดแหว่งและไม่เท่ากันได้
หลังเกิดปัญหาทางนางดาว ก็แจ้งว่าจะเรียกร้องค่าเสียหายเพื่อเดินทางไปพบแพทย์ที่ประเทศเกาหลีเพื่อทำศัลยกรรมแก้รูปปากใหม่ ซึ่งกรณีนี้ทางคลินิกเองก็ไม่ขัดข้อง เพียงแต่เมื่อได้รับแจ้งว่าจะต้องใช้งบประมาณกว่า 7 แสนบาทจึงให้ไปทำการเจรจาไกล่เกลี่ยกับทางทนายความซึ่งเป็นตัวแทนของคลินิกว่าจะสามารถทำการรักษาให้เองหรือจะประสานแพทย์ผู้ชำนาญการทั้งในและต่างประเทศให้ได้หรือไม่ซึ่งจะทำให้ค่าใช้จ่ายถูกลง โดยการเจรจาครั้งนี้ได้มีการบันทึกข้อมูลคลิปเสียงไว้โดยตลอดแต่ทางนางดาว เองคงไม่เข้าใจจึงเดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ดังกล่าว
เภสัชกรปิยะภัณฑ์ กล่าวต่อไปว่าปัญหาที่เกิดขึ้นทางคลินิกไม่ได้นิ่งเฉยหรือปฏิเสธความรับผิด ชอบใดๆและได้ปฏิบัติอย่างเป็นธรรมและถูกต้องมาโดยตลอด แต่เมื่อนางวิดารา มีความต้องการจะนำค่าใช้จ่ายไปรักษาที่อื่นเองทางคลินิกก็ไม่คัดค้าน จึงมีการเข้าเจรจาอีกครั้งเมื่อวันที่ 31 ต.ค.ที่ผ่านมาที่ สภ.เมืองพัทยา ซึ่งทางนางวิดารา เองก็ลงนามยอมรับว่าปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ตรงกับข้อเท็จจริงที่ให้ข่าวไปก่อนหน้านี้ จึงได้ทำสัญญาการส่งมอบเงินสดจำนวน 7.65 แสนบาทให้กับนาง ดาว ไปและทำหนังสือยินยอมพร้อมขออภัยกับเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นลายลักษณ์อักษรโดยมีเจ้าหน้าที่เป็นพยานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ส่วนกรณีที่ออกมาแถลงนั้นเจตนาคือต้องการให้สังคมรับรู้ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ไม่ใช่รับเพียงข้อมูลแต่ฝ่ายเดียวจนทำให้เกิดความเสียหาย โดยทางคลินิกเองเปิดให้บริการมานาน 1 ปีกว่า ทุกอย่างทำด้วยมาตรฐาน ความเชี่ยวชาญจากแพทย์ผู้ชำนาญการและมีการรับรองอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ดังนั้นการจ่ายเงินจำนวนดังกล่าวไม่ใช่เป็นการรับผิดต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะทุกอย่างทำตามขั้นตอนแต่เป็นการแสดงออกถึงเจตนารมณ์ของจรรยาบรรณในวิชาชีพที่มีความรับผิดชอบต่อปัญหาที่เกิดขึ้นในทุกกรณี…

S__1679370