แบ่งปัน

15179117_1704214403230185_6980261956176574055_n  15181622_1704214446563514_3281670981689718840_n

ภาพ/ข่าว อัมพร

เมืองพัทยาลุยปิดหมายคำสั่งรื้อถอนสระว่ายน้ำในทะเล พร้อมขยายผลระงับการใช้อาคารเพิ่มบางส่วนหลังพบมีการใช้ผิดประเภท ด้านผู้ประกอบการโรงแรมติดป้ายปิดกิจการชั่วคราว
จากกรณีที่มีประชาชนได้ร้องเรียนว่ามีผู้ประกอบการภาคเอกชนทำการก่อสร้างสระว่ายน้ำขนาดใหญ่อยู่บนแนวโขดหินหลังโรงแรมขนาดใหญ่ หน้าชายหาดยินยอม เขาพระตำหนัก ม.12 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ซึ่งน่าจะเป็นการกระทำที่เข้าข่ายความผิดทางกฎหมาย เนื่องจากพื้นที่ของสระว่ายน้ำดังกล่าวอยู่ในทะเลโดยวอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเข้าดำเนินการตรวจสอบ กระทั่งต่อมาทางสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาพัทยา ได้นำกรณีของการปลูกสร้างล่วงล้ำลำน้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต ผิด พ.ร.บ.เดินเรือในน่านน้ำไทย เข้าแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีไปแล้ว ขณะที่ในส่วนของอำเภอบางละมุงในฐานะที่ดูแลเกี่ยวกับกับการอนุญาตประกอบกิจการโรงแรม ได้นำเรื่องเข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อพนัก งานสอบสวน สภ.เมืองพัทยาเช่นกัน โดยระบุว่ามีการประกอบธุรกิจโรงแรมโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน ซึ่งต่อมาทางเจ้าของกิจการได้เข้าพบพนักงานสอบสวนพร้อมประกันตัวไปในวงเงิน 40,000 บาทตามที่ข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดเวลา 14.00 น.วันนี้ (21 พ.ย.นี้) นายชนัฐพงศ์ ศรีวิเศษ ปลัดเมืองพัทยา ปฏิบัติหน้าที่นายกเมืองพัทยา พร้อมด้วยนายประพันธ์ ประทุมชุมภู ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง เจ้าหน้าที่จากสำนักการช่างเมืองพัทยา และกำลังทหารจากกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ เดินทางมายัง โรงแรมโกลเด้น คลิฟ เฮ้าส์ ตั้งอยู่เลขที่ 352/55 ซอยพระตำหนัก 5 หมู่ 12 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เพื่อตรวจสอบ โดยระหว่างการสนธิกำลังเข้าไปภายในโรงแรมนั้น ทางผู้ประกอบการได้ทำการปิดกั้นพื้นที่โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าร่วมสังเกตการณ์ ก่อนจะทำการใช้เชือกขึงปิดทางเข้าพร้อมปิดป้ายประกาศปิดกิจการในเวลาต่อมา
อย่างไรก็ตามหลังการตรวจสอบร่วมของเจ้าหน้าที่ซึ่งใช้เวลานานกว่า 1 ชม.ทางเจ้าหน้าที่สำนักการช่างเมืองพัทยา จึงได้ทำการปิดหมายประกาศคำสั่งที่ ชบ 52304/7397 ลงนามโดยนายชนัฐพงศ์ ศรีวิเศษ ปลัดเมืองพัทยา ปฏิบัติหน้าที่นายกเมืองพัทยา กรณีแจ้งให้ดำเนินการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่รุกล้ำที่สาธารณะ หลังตรวจพบว่ามีการสร้างสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำที่ดินสาธารณประโยชน์ ซึ่งเป็นการกระทำความผิดฐานเข้ายึดถือ ครอบครองที่ดินของรัฐตามมาตรา 9 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497 โดยในฐานะที่เมืองพัทยาซึ่งได้รับมอบหมายจากกระทรวงมหาดไทยให้เป็นผู้ดูแล และรักษาคุ้มครองป้องกันที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน จึงแจ้งให้ทำการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือ
พร้อมทำการปิดหมายคำสั่งแบบ ค.7 เลขที่ 338/2559 ตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร โดยให้รื้อถอนอาคารตามมาตรา 42 วรรคหนึ่ง กรณีการก่อสร้างดัดแปลงหรือเคลื่อนย้ายอาคารกระทำโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งแจ้งความมายัง บ.บ้านผาทอง จำกัด ด้วยปรากฏว่าทำการก่อสร้างสระว่ายน้ำ ค.ส.ล.ขนาด 20×30 เมตร จำนวน 1 สระ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่น พร้อมให้ดำเนินการรื้อถอนภาย ใน 45 วันนับแต่วันที่ 21 พ.ย.นี้
นอกจากนี้ยังได้ทำการปิดหมายคำสั่งที่ 339/2559 กรณีคำสั่งให้ระงับการใช้อาคารตามมาตรา 44 แบบ ค.18 ของ พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร ด้วยอาคารดังกล่าวเป็นอาคารที่ไม่เป็นการควบคุมการใช้ (อนุญาตเป็นพักอาศัยรวม)แต่ได้มีการใช้อาคารเพื่อกิจการในประเภทควบคุมการใช้หรือโรงแรม จึงมีคำสั่งให้ทำการระงับการใช้เป็นการชั่วคราว จนกว่าเจ้าของอาคารหรือผู้ครอบครองจะมาดำเนินการจนกว่าจะได้รับใบ อนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่นอย่างถูกต้องต่อไป 
มีรายงานเพิ่มเติมว่าสำหรับทั้ง 2 กรณีดังกล่าว แหล่งข่าวจากเมืองพัทยาระบุว่าเป็นสิทธิของเจ้า ของอาคารหรือผู้ครอบครองที่จะสามารถยื่นอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ตามมาตรา 52 แห่ง พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 ได้ภายใน 30 วัน…