แบ่งปัน

15731686_949309621869294_69623253_n  15782312_949309615202628_665133938_n

ภาพ สุพจน์  ข่าว สุพรรณี

สภาเมืองพัทยาถกปัญหาระบบระบายน้ำ บำบัดน้ำเสีย หลังลงตรวจสอบมีปัญหาระบบการใช้งาน และอุปกรณ์พังนานแรมปี 
ที่ห้องประชุมสภาเมืองพัทยา นาย อนันต์ อังคณาวิศัลย์ ประธานสภาเมืองพัทยา เปิดประชุมสภาเมืองพัทยาสมัยสามัญ สมัยที่ 2 ครั้งที่ 2 ประจำปี 2559 ซึ่งในที่ประชุมสภามีการถกถึงปัญหาระบบระบายน้ำ บำบัดน้ำเสียที่ไม่สามารถใช้งานได้อย่างเต็มร้อย ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมอย่างต่อเนื่อง ประเด็นดังนี้สืบเนื่องจากทางสภาได้รับเรื่องร้องเรียนเรื่องระบบจัดการน้ำเสียที่ไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอส่งผลทำให้เกิดน้ำท่วมขังอยู่บ่อยครั้ง ดังนั้นทางคณะสมาชิกสภาเมืองพัทยาจึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2559 ที่ผ่านมา เพื่อตรวจสอบและหาข้อมูลเพื่อใช้เป็นองค์ประกอบการในการพิจารณางบประมาณเพื่อเข้ามาแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างเร่งด่วน เนื่องจากพบว่าปัจจุบันระบบเหล่านี้ที่ใช้งานมานานมีสภาพชำรุดอย่างมาก เมื่อลงพื้นที่ตรวจสอบแล้วพบว่าทั้ง 3 สถานีสูบ ที่จะมีหน้าที่หลักในการสูบส่งน้ำเสียในย่านชุมชนเข้าสู่ระบบบำบัดรวมของเมืองพัทยา รวมทั้งการผันน้ำฝนที่ท่วมขังลงสู่คลองสาธารณะ และทะเล ปรากฏว่าระบบมีความบกพร่องไม่สมบูรณ์จริง เนื่องจากเครื่องจักรส่วนใหญ่โดยเฉพาะเครื่องสูบสามารถใช้การได้เพียงไม่กี่เปอร์เซ็นต์ของระบบรวมทั้งหมดเท่านั้น โดยพบว่าเครื่องส่วนใหญ่ไม่อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานและมีความเสียหาย ขณะที่เครื่องจักรประเภทเครื่องดักขยะ ตะแกรงกรองสิ่งปฏิกูล ชำรุดเสียหายและไม่เคยเปิดใช้งานมานานนับปี จนสร้างปัญหาในเรื่องของการสูบส่งน้ำ การระบายน้ำ และปัญหาเรื่องสิ่งปฏิกูลที่หลุดลอดลงสู่ธรรมชาติอย่างต่อเนื่อง ส่งผลทำให้เกิดน้ำท่วมขังในพื้นที่เมืองพัทยาจำนวนหลายจุด จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้โดยตรงเป็นผู้ชี้แจง 
ทาง นาย วิรัตน์ จิระศรีไพฑูรย์ ผู้อำนวยการสำนักช่างสุขาภิบาล เมืองพัทยา แจงเรื่องนี้ต่อประธานสภาว่าระบบจัดการน้ำเสียปัจจุบันมีอายุการใช้งานมานานกว่า 20 ปี จึงทำให้ระบบรวมถึงอุปกรณ์ต่างๆมีการชำรุดเสียหายตามกาลเวลาและทุกครั้งที่ต้องทำการบำรุง รักษาต้องมีขั้นตอนการเบิกงบประมาณตามระบบการทำงานในระบบงานราชการคือต้องมีการรอให้อุปกรณ์เสียก่อนถึงจะสามารถทำการเบิกงบประมาณออกมาได้แต่จะไม่สามารถเบิกเป็นงบประมาณเพื่อนำมาซ่อมบำรุงได้ ส่วนกรณีบ่อบัดน้ำเสียที่ไม่สามารถใช้งานได้นั้นเนื่องจากเมื่อก่อนหน้านี้ประมาณ 1 เดือนครึ่ง ได้เกิดฝนตกหนักทำให้หม้อแปลงขนาด 5,000 กิโลโวลต์แอมแปร์(KVA) เกิดการชำรุดเสียหายและยังไม่สามารถแก้ไขปรับปรุงหรือหาหม้อแปลงใหม่มาทดแทนได้แต่ล่าสุดได้มีการขอเช่าจากบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งเพื่อนำมาใช้ทดแทนในระหว่างการรองบประมาณในการเปลี่ยนหม้อแปลงใหม่ ส่วนปัญหาในเรื่องต่างๆที่ทางคณะสภาลงไปตรวจสอบนั้นทางนายวิรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักช่างสุขาภิบาล เมืองพัทยา ได้ขอเวลาดำเนินการแก้ไขปรับปรุงให้แล้วเสร็จพร้อมใช้งานทั้งหมดภายใน 4 เดือนหลังจากนี้ ยังยืนว่าทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องไม่ได้นิ่งนอนใจหรือเพิกเฉยในการเข้าไปดูแลรักษาระบบต่างๆแต่อย่างไร แต่ด้วยการทำงานในระบบราชการ ทุกอย่างต้องดำเนินตามไปตามขั้นตอนตามระบบราชการจึงอาจทำให้ล่าช้ากว่าจะผ่านในแต่ละขั้นตอน