แบ่งปัน

DSC_3084 DSC_3088 DSC_3111 DSC_3131

ชาวบ้านคลองปึกพลับกว่า 30 ราย ร้อง คสช.ขอชะลอเวลารื้อถอนที่พักอาศัย หลังเมืองพัทยาออกคำสั่งแจ้งให้เคลื่อนย้ายออกจากพื้นที่สาธารณะหวังเปิดแนวคลองแก้ปัญหาน้ำท่วม ด้านนายอำเภอบางละมุงเผยท้องถิ่นต้องปฏิบัติตามกรอบของกฎหมายแต่สามารถบรรเทาความเดือดร้อนด้วยการผ่อนปรนระยะ เวลาให้ได้
จากกรณีที่เมืองพัทยาได้สนธิกำลังทุกภาคส่วนลงพื้นที่เพื่อทำการตรวจสอบปัญหาการบุกรุกที่ดินและแนวคลองสาธารณะบริเวณแนวคลองปึกพลับ ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ในช่วงเวลาที่ผ่านมา เพื่อเป็นการทวงคืนที่สาธารณะ และเป็นนโยบายสำคัญในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผลจากการตรวจสอบพบว่ามีประชาชนและผู้ประกอบการทำการปลูกสร้างอาคาร รวมถึงที่พักอาศัย และสถานประกอบการรุกล้ำแนวคลองอยู่เป็นจำนวนมาก กระทั่งเมืองพัทยาได้ทำการออกคำสั่งเพื่อให้ผู้ที่ทำการรุกล้ำได้รื้อถอนอาคารดังกล่าวไปแล้วในระยะแรก
ทั้งนี้ต่อมาเมืองพัทยาได้ส่งหนังสือสำคัญเพิ่มเติมแจ้งถึงชาวบ้านที่พักอาศัยในบริเวณแนวคลองอีกจำนวนหนึ่ง เพื่อให้ดำเนินการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่รุกล้ำคลองสาธารณะประโยชน์ โดยอาศัยอำนาจในฐานะที่ได้รับมอบหมายจากกระทรวงมหาดไทยให้เป็นผู้รักษาและคุ้มครองป้องกันที่ดินอันเป็นสาธารณะสมบัติของแผ่นดินตามข้อ 5 (2) ของระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการดูแลรักษาและคุ้ม ครองป้องกันที่ดินเป็นสาธารณะสมบัติของแผ่นดิน พ.ศ.2553 เนื่องจากชาวบ้านได้กระทำความผิดฐานเข้ายืดถือครอบ ครองที่ดินของรัฐ โดยรื้อถอนสิ่งปลุกสร้างที่รุกล้ำที่สาธารณะประโยชน์ให้เสร็จภายใน 15 วัน นับตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคม 2559 ซึ่งหากครบกำหนดยะเวลายังมีการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตาม เมืองพัทยาจะเข้าร้องทุกข์กล่าว โทษต่อพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีต่อไป ซึ่งกรณีดังกล่าวทำให้ส่วนใหญ่วิตกกังวลเรื่องของการดำเนิน คดีรวมถึงเรื่องของการไม่มีที่อยู่อาศัย
มีรายงานว่าล่าสุดวันนี้ (9 ม.ค.60) ที่ศูนย์ประสานงาน คสช.อำเภอบางละมุง วัดโพธิสัมพันธ์ ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ได้มีกลุ่มชาวบ้านในพื้นที่ชุมชนคลองปึกพลับจำนวนกว่า 30 หลังคาเรือน ได้เดินทางมารวมตัวเพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรม โดยเสนอให้เมืองพัทยาทบทวนคำสั่งในการรื้อถอนที่พักอาศัยและสิ่งปลูกสร้างไปก่อนชั่วคราว เนื่องจากชาวบ้านพักอาศัยมาเป็นเวลานานแล้วและได้รับความเดือดร้อนจากกรณีดังกล่าวเป็นอย่างมาก โดยมีนายนริศ นิรามัยวงศ์ นายอำเภอบางละมุง พร้อมด้วย พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร ผกก.สภ.เมืองพัทยา นายสุนทร สมประมัย ผอ.สำนักการช่างเมืองพัทยา เจ้าหน้า ที่ฝ่ายปกครองครอง กำลังทหารจากราบ 21 รักษาพระองค์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมรับฟังปัญหา
โดย นายจิระวุฒ อำนวยชัยศิริ ประธานชุมชนซอยไปรษณีย์ ในฐานะตัวแทนชาวบ้านกล่าวว่าสำหรับกรณีดังกล่าวถือว่าสร้างความทุกข์ใจให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก เนื่องจากชาวบ้านส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มคนที่มีรายได้น้อยที่เข้ามาตั้งรกรากและพำนักในบริเวณดังกล่าวมานานนับสิบปีแล้ว ดังนั้นหากจะให้ทำการโยกย้ายออกจากพื้นที่ในระยะเวลาเพียง 15 วันคงจะไม่สามารถดำเนินการได้ อย่างไรก็ตามสำหรับชาวบ้านเองก็มีความเข้าใจดีว่าที่ดินที่ปลูกสร้างที่พักอยู่นั้นเป็นที่สาธารณะที่มีการบุกรุกครอบครองมานานซึ่งก็พร้อมจะปฏิบัติตามกฎหมาย แต่คงอยากขอให้ผ่อนผันระยะเวลาออกไปอีกระยะหนึ่งเพื่อให้เตรียมความพร้อมมากกว่านี้
ทั้งนี้ต่อมานายนริศ นิรามัยวงศ์ นายอำเภอบางละมุง ได้ออกมาชี้แจงหลังการประชุมร่วมผู้เกี่ยว ข้องว่าการดำเนินการดังกล่าวมีความจำเป็นต้องจัดทำเพื่อเป็นการทวงคืนที่สาธารณะและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่นาเกลือซึ่งเป็นพื้นที่เศรษฐกิจ จึงได้ทำการตรวจสอบกระทั่งพบว่ามีการปลูกสร้างอาคารรุกล้ำแนวเขตคลองสาธารณะเป็นจำนวนมาก ซึ่งที่ผ่านมาเมืองพัทยาได้ออกหมายในคำสั่ง ค.3 ค.4 และ ค.7 เพื่อให้ผู้บุกรุกทำการรื้อถอนอาคารไปแล้วเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2559 ที่ผ่านมาจำนวน 11 ราย โดยขณะนี้เรื่องอยู่ระหว่างขั้นตอนการพิจารณาของคณะกรรมการอุทธรณ์ แต่คำสั่งนี้เป็นการดำเนินการในระยะแรกที่เน้นอาคารที่มีแนวการรุกลงไปในแนวคลองและขวางทางน้ำเป็นหลัก
ขณะที่พื้นที่รุกล้ำในส่วนของกลุ่มชาวบ้านนั้นแม้จะมีพื้นที่บุกรุกเช่นกัน แต่เป็นแผนการดำเนินในระยะที่ 2 ซึ่งเป็นเรื่องของฝ่ายผังเมืองที่ต้องส่งหนังสือแจ้งให้ทราบถึงปัญหาตามหน้าที่ เพื่อเตรียมการออกคำสั่งต่อไปในอนาคต อย่างไรก็ตามกรณีนี้รับทราบว่าชาวบ้านมีความเดือดร้อน แต่สุดท้ายก็คงต้องปฏิบัติตามกฎหมายโดยการโยกย้ายออกจากพื้นที่ไป แต่เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นก็จะให้ชาว บ้านทำการรวบรวมรายชื่อเสนอต่อเมืองพัทยาเพื่อขอผ่อนผันระยะเวลาซึ่งจะได้มีการนำเข้าสู่การพิจารณาเพื่อผ่อนปรนตามความเหมาะสมต่อไป
โดยมีรายงานเพิ่มเติมว่าจากผลการเจรจาดังกล่าวสร้างความพึงพอใจให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก จึงได้ทยอยพากันเดินทางกลับ และจะทำหนังสือเสนอเรื่องขอผ่อนผันไปยังเมืองพัทยาตามขั้นตอนต่อไป