แบ่งปัน

IMG_1925

อัมพร/พัทยา

นายจ้างอ้างเป็น ตร. กองปราบ ยศสารวัตรสุดโรคจิตขืนใจลูกจ้างสาววัย 17 ปี-บังคับให้นั่งดูมีเซ็กกับเมียตัวเอง

เหตุการณ์นี้ถูกเปิดเผยเมื่อกลางดึกของคืนวันที่ 27 สิงหาคม 2559 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 35 ปี ได้พา น.ส.บี (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี บุตรสาว เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ ร.ต.อ.สินสมุทร์ บุญทัศนา รองสว.(สอบสวน) สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ว่าบุตรสาวถูกนายจ้างข่มขืนกระทำชำเรา เหตุเกิดในบ้านพักหลังหนึ่งกลางซอย 15 ทัพพระยา ม.10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

สอบถาม น.ส.เอ (นามสมมุติ) ผู้เป็นมารดา เล่าว่า ตนมีอาชีพทำนาอยู่ที่จังหวัดพิจิตร เมื่อวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา ผู้เป็นพี่สาวได้ติดต่อหาคนไปทำงานเป็นแม่บ้านที่พัทยาภายในซอย 15 ทัพพระยา โดยผู้มาทำนั้นต้องมีอายุประมาณ 16-18 ปี ซึ่งได้ค่าจ้างเดือนละ 10,000 บาท ตนเองเห็นว่าลูกสาวไม่ได้เล่าเรียนแล้วและกำลังหางานทำอยู่ด้วย จึงตัดสินใจให้ลูกสาวเดินทางมาทำงาน จนกระทั่ง เมื่อช่วงเช้าที่วันที่ 26 สิงหาคม ที่ผ่านมา ได้โทรหาลูกสาวพบว่ามีความผิดปกติเมื่อลูกสาวร้องขอกลับบ้านไม่อยากทำงาน จึงสอบถามเค้นจนได้ความว่าถูกนายจ้างข่มขืน จึงรีบเดินทางมาพบลูกสาวเพื่อพาเจ้าแจ้งความร้องทุกข์ดังกล่าว

สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว น.ส.บี (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี ผู้เสียหาย ได้เล่าว่า เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 23 สิงหาคม ที่ผ่านมา ก่อนเกิดเหตุนายจ้าง ซึ่งอ้างตัวว่าเป็นตำรวจกองปราบปรามยศสารวัตร ชื่อ โจ อายุประมาณ 40 ปี ออกอุบายว่าปวดเมื่อยให้เข้าไปนวดให้ที ตนไม่ได้คิดอะไรจึงเข้าไปพบที่ห้องของนายโจ แต่เมื่อไปถึงในห้องก็ต้องตกใจเมื่อพบกับอุปกรณ์เซ็กทอยจำนวนมาก ต่อมานายโจทำทีเปิดวีดีโอโป้ให้ดู จากนั้นก็ได้ลวนลาม ตนเองพยายามขัดขืนแต่สู้แรงนายโจไม่ไหวจึงถูกนายโจข่มขืนอย่างโรคจิต พอถึงช่วงดึกนายโจได้เรียกตนเข้าไปพบอีกครั้ง บังคับให้ตนเองจับอวัยวะเพศเพื่อปลุกอารมณ์และลานลาม มิหนำซ้ำยังบังคับให้ตนเองนั่งดูนายโจมีเพศสัมพันธ์อีกด้วย ตนเองรู้สึกหวาดกลัวและอึดอัดใจเป็นอย่างมากจึงบอกความจริงมารดาให้รับทราบดังกล่าว

ภายหลังจากเกิดเรื่อง ตนเองรู้สึกไม่สบายใจ จึงได้ไปบอกกับนายโจ ว่าจะขอลากลับบ้านนอก โดยมีนายโจเป็นคนมาส่งที่ท่ารถทัวร์ พร้อมกับพูดว่ามีเงินทำอะไรก็ได้เงินทำได้ทุกอย่าง พร้อมกำชับไม่ให้ตนนำเรื่องราวที่เกิดขึ้นไปเล่าให้ใครฟังและห้ามแจ้งความเป็นอันขาด ก่อนจะยื่นเงินให้ตนเองเป็นจำนวน 1,500 บาท เป็นค่ารถโดยสารกลับบ้านเกิด

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งตัว น.ส.บี (นามสมมุติ) ไปตรวจร่างกายยังโรงพยาบาลบางละมุง เพื่อหาร่องรอยการข่มขืน และลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานก่อนเรียกตัวนายจ้างผู้ถูกกล่าวอ้างมาสอบสวนต่อไป

ทั้งนี้ น.ส.เอ ผู้เป็นมารดา รู้สึกเจ็บใจและเสียใจกับคำพูดของนายโจ เป็นอย่างมาก และกลัวว่าหากนายโจ ที่อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม เป็นตำรวจจริงเกรงว่าคดีจะไม่คืบหน้า จึงได้ร้องเรียนไปยังหลายหน่วยงาน รวมถึงมูลนิธิ ปวีณาด้วย เพื่อหวังดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุอย่างถึงที่สุด