แบ่งปัน

295674  295679

295700  295702

แม่ทัพภาค 1 เยือนเมืองพัทยาดูความพร้อมท่าเรือแหลมบาลีฮาย รับการจัดงานสวนสนามทางเรือนานา ชาติ เผยปัญหาบุกรุกที่สาธารณะแก้ไปแล้วกว่า 95% ดันพัทยาเป็นต้นแบบแก้ปัญหาที่หลวงทั่วประเทศ
เวลา 10.00 น.วันนี้ (30 พ.ย.) พลโท อภิรัชต์ คงสมพงษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 พร้อมคณะเดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์ลงจอดที่ท่าเทียบเรือท่องเที่ยวพัทยาใต้ (แหลมบาลีฮาย) เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ก่อนเป็นประ ธานในการรับฟังข้อมูลความคืบหน้าการจัดระเบียบท่าเทียบเรือพัทยา เพื่อรองรับความพร้อมการจัดงานสวนสนามทางเรือนานาชาติที่จะมีขึ้นในช่วงปลายปี 2560 โดยจะมีประเทศนานาชาติเข้าร่วมงานกว่า 40 ประเทศ หลังจากที่ผ่านมากองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย กองทัพภาคที่ 1 โดย บก.ควบคุม มณฑลทหารบกที่ 14 อาศัยคำสั่ง คสช. ดำเนินการจัดระเบียบท่าเทียบเรืออย่างเป็นรูปธรรมไปแล้วตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
ทั้งนี้ได้มีการนำเสนอข้อมูลบรรยายสรุปผลการปฏิบัติ และแผนการพัฒนา รวมถึงแนวทางการจัดระเบียบท่าเทียบเรือท่องเที่ยวพัทยาใต้ แหลมบาลีฮาย ซึ่งพบว่ามีปัญหาการบุกรุกที่สาธารณะมานานนับสิบปี สร้างปัญหาการจราจรและการใช้ประโยชน์ต่อพื้นที่สาธารณะแก่ส่วนรวม รวมถึงผลกระทบด้านภาพ ลักษณ์การท่องเที่ยว โดยได้มีคำสั่งให้ทำการเคลื่อนย้ายเรือท่องเที่ยวจำนวนกว่า 800 ลำออกจากลานจอดและสิ่งปลูกสร้างบริเวณโดยรอบซึ่งเป็นพื้นที่สาธารณะทั้งหมด ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบ การเป็นอย่างดีจนสามารถทวงคืนพื้นที่ได้รวมกว่า 18 ไร่ ขณะที่ปัจจุบันเมืองพัทยาได้กำหนดแผนการพัฒนาพื้นที่อย่างเป็นรูปธรรมเร่งด่วนหลายโครงการในงบประมาณรวมกว่า 1,000 ล้านบาท ทั้งการซ่อมแซมท่าเทียบเรือเก่า การก่อสร้างท่าเรือใหม่ หรือ การปรับปรุงภูมิทัศน์ เป็นต้น
ทั้งนี้ พล.ท.อภิรัชต์ ได้กล่าวชื่นชมทุกภาคส่วนในความร่วมมือจนเกิดผลการปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม พร้อมร้องขอให้เจ้าหน้าที่รวมถึงผู้เกี่ยวข้องได้ยึดเอาหลักการปฏิบัติในการจัดระเบียบครั้งนี้เป็นแบบอย่างในการแก้ไขปัญหาอื่นๆในเมืองพัทยาด้วยเช่นกัน โดยระบุให้มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด และจริงจังไม่ใช่ปล่อยปละละเลย อย่าง ปัญหาการครอบครองบุกรุกที่สาธารณะที่ปล่อยทิ้งไว้เป็นเวลานานซึ่งถือว่าไม่ถูกต้อง รวมทั้งปัญหาการจราจรที่มีปัญหาต่อเนื่อง ปัญหาขยะและสิ่งแวดล้อม ตลอดจนปัญหาทางน้ำ เพื่อให้ปรับเมืองพัทยาเข้าสู่เมืองท่องเที่ยวระดับสากล
นอกจากนี้ควรแสวงหาความร่วมมือจากภาคประชาชนและผู้ประกอบการเพื่อเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไข โดยเฉพาะในส่วนของผู้ประกอบการที่ต้องให้ความสำคัญในการช่วยเหลือและให้ความเป็นธรรมด้วย ขณะที่ภาครัฐเองก็ต้องกำหนดกรอบการทำงานที่กระชับ มีผลปฏิบัติภายในระยะอันสั้นเพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนท้องถิ่น โดยการเข้ามาของรัฐบาล คสช.ไม่ได้ต้องการจะรังแกใครเพียงแต่เข้ามาจัดระเบียบสังคมให้เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น เพื่อทำให้การเอารัดเอาเปรียบประชาชนลดน้อยลง
พล.ท.อภิรัชต์ ระบุด้วยว่าก่อนหน้านี้ คสช.มีคำสั่งที่ 4/2558 เกี่ยวกับกรณีการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่สาธารณะ พร้อมคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการรักษาความสงบเรียบร้อย เพื่อเข้ามาปราบปรามผู้มีอิทธิ พล ซึ่งการบุกรุกที่สาธารณะก็ถือเป็น 1 ใน16 ที่เข้าข่ายผู้มีอิทธิพลจึงต้องดำเนินการอย่างจริงจังเด็ดขาด จึงเป็นที่มาของการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ท่าเรือพัทยาซึ่งมีปัญหาเรื้อรังมานาน จนมีผลการปฏิบัติที่เป็นรูป ธรรม โดยจากผลการปฏิบัติพบว่าสามารถจัดการปัญหาไปได้แล้วกว่า 95% ซึ่งจากนี้ทางรัฐบาลจะส่งเจ้าหน้าที่มาคอยเฝ้าติดตามผลการทำงานอย่างต่อเนื่อง และอยากให้เอาการจัดระเบียบท่าเทียบเรือพัทยาใต้ (แหลมบาลีฮาย) เป็นโมเดลในการแก้ไขปัญหาบุกรุกที่สาธารณะให้กับพื้นที่เมืองท่องเที่ยวและจังหวัดอื่นทั่วประเทศ โดยในวันศุกร์ที่ 2 ธันวาคม 2559 นี้ จะมีคณะตัวแทนจังหวัดและพื้นที่ท่องเที่ยวต่างๆทั่วงประเทศ อาทิ ภูเก็ต หัวหิน จะเดินทางมาศึกษาดูงานการจัดระเบียบการบุกรุกพื้นที่สาธารณะเพื่อเป็นตัว อย่างในการแก้ไขปัญหาในพื้นที่หรือจังหวัดของตัวเองด้วยเช่นกัน