ความคืบหน้าล่าสุดจากเหตุการณ์ที่มีชาวบ้านร้องว่าปลาที่อยู่ในคลองชุมชนแหลมฉบังเก่านับแสนตัวลอยคอ และบางส่วนได้ตายมีสาเหตุจากการปล่อยของเสียลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติของโรงงานที่อยู่ในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบังทางเทศบาลนครแหลมฉบังได้ส่งเจ้าหน้าที่เก็บตัวอย่างน้ำไปตรวจแล้วและเตือนห้ามนำปลาไปบริโภคแต่ยังมีชาวบ้านบางส่วนจับปลาไปบริโภคเกรงว่าจะได้รับอันตรายต่อร่างกาย
จากเมื่อเวลา 16.00 น. ของวันที่ 24 มีนาคม 2561 ที่ผ่านมาทางผู้สื่อข่าวได้รับการร้องทุกข์จาก นายเสน่ห์ ภู่ทอง ชาวบ้านชุมชนบ้านแหลมฉบัง ม.3 ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ว่ามีโรงงานในเขตพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา ปล่อยน้ำเสียลงแหล่งน้ำตามธรรมชาติทำให้สัตว์น้ำลอยตายตลอดทางน้ำกว่า 1 กิโลเมตร ส่งกลิ่นเหม็นไปทั่วบริเวณ ทั้งนี้จากการลงพื้นที่ตรวจสอบพบบริเวณปากคลองบ้านแหลมฉบัง ม.3 ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา มีปลาที่ลอยคออยู่นับแสนตัวและมีส่วนหนึ่งเริ่มตาย รวมทั้งสัตว์น้ำป่าชายเลนทั้งกุ้ง หอย ปู
โดยในช่วงเวลาประมาณ 12.00 น. น้ำเริ่มมีสีดำมีกลิ่นฉุน ปลาที่อยู่ในคลองเริ่มลอยคอและบางส่วนได้ตายลอยเกลื่อนเป็นแนวยาว โดยน้ำเสียนั้นน่าจะไหลมาจากโรงงานแห่งหนึ่ง ภายในเขตพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา
ซึ่งต่อมาวันที่ 25 มีนาคม 2561 เวลา 08.00 น. ทางเจ้าหน้าที่จากกองช่างสุขาภิบาล งานวิเคราะคุณภาพน้ำ จากกองช่างสุขาภิบาล งานวิเคราะคุณภาพน้ำเทศบาลนครแหลมฉบังได้ลงพื้นที่เก็บตัวอย่างน้ำและซากปลาที่ตายเพื่อไปตรวจค่าน้ำและการตายของปลาในเบื่องต้นพบว่า ออกซิเจนในน้ำมีน้อยกว่าปกติส่วนปลาในคลองหมู่บ้านแหลมฉบังเก่าในช่วงนี้ไม่ควรที่จะนำมากินเพราะยังไม่ทราบสาเหตุของการลอยคอและตายของปลาในครั้งนี้อย่างแน่ชัดคาดว่าไม่เกิน 7วันน่าจะรู้ผลทั้งหมด ว่าน้ำเสียเกิดจากอะไรกันแน่ และจะตรวจสอบแหล่งน้ำหาต้นตอของสาเหตุ
ล่าสุดเวลา 13.00 น. วันที่ 25 มีนาคม 2561 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบในพื้นที่คลองหมู่บ้านแหลมฉบังยังพบปลาขึ้นมาหายใจเหนือน้ำเป็นจำนวนมาก มีส่วนหนึ่งได้เริ่มตายและยังพบว่ามีชาวบ้านจำนวนหนึ่งกำลังใช้เครื่องมือจับปลาทั้ง แห สวิงนำมาจับปลาโดยไม่เชื่อคำเตือนของเจ้าหน้าที่ที่ออกมาเตือน และปลาที่ชาวบ้านจับได้จะเป็นจำพวกปลาหมอ ปลานิน ปลาตะเพียน ที่อยู่ในอาการมึนลอยขึ้นมาเหนือน้ำมาหายใจหรือบางส่วนตายนั้น เจ้าหน้าที่เน้นย้ำอย่าจับนำไปกิน เกรงว่าจะเกิดอันตรายกับร่างกาย และขอให้ทางเจ้าหน้าที่ทำการตรวจให้แน่ชัดก่อน ที่จะจับและนำไปทำอาหารกินอีกด้วย
