แบ่งปัน

20160402_102154 20160402_092441 20160402_093112 20160402_102037

อัมพร / พัทยา

สรรพสามิตบูรณการกำลังร่วมฝ่ายปกครองบางละมุงบุกทลายชุมชนทุ่งคาใต้แหล่งตั้งต้นผลิตเหล้าเถื่อนส่งขายทั่วพัทยา

เมื่อเวลา 10.30น.( 2 เม.ย. 59 ) นายวีระ  กิติยานนต์  หัวหน้าฝ่ายปราบปราม สนง.สรรพสามิตพื้นที่ชลบุรี2 พร้อมด้วยนายประพันธ์ ประทุมชุมภู ปลัดอำเภอบาวละมุงหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง  ร.ท.ภรศิษฏ์ จิตรามวงศ์ ปลัดอำเภอบางละมุงฝ่ายป้องกัน นำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองกว่า 20 นาย เข้าทำการตรวจค้นเป้าหมายสำคัญจำนวน 3 จุด ในพื้นที่ชุมชนทุ่งคาใต้ ม.2 ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่าในพื้นที่ดังกล่าวมีการลักลอบตั้งโรงกลั่นสุราและจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต และส่งจำหน่ายตามร้านยาดองทั่งเมืองพัทยา

โดยจุดแรกที่เข้าทำการตรวจค้นเป็นบ้านเลขที่ 12 ม.2 ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี มีนายเสนาะ พรายแก้ว อายุ 42 ปี แสดงตัวเป็นเจ้าของบ้าน จากการตรวจสอบพบบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านเดี่ยวชั้นเดียวตั้งอยู่บนพื้นที่ 100 ตรว.ด้านหลังบ้านพบโอ่งน้ำลายมังกรขนาด150ลิตร ภายในบรรจุสุราดิบที่ยังไม่ผ่านกระบวนการกลั่นจำนวน  14 ใบ เตาต้มสุราอีก1เตาสอบสวนนายเสนาะให้การรับสารภาพว่าเป็นเจ้าของสุราดิบของกลางดังกล่าวจริง และได้แอบลักลอบต้มเหล้าเถื่อนมานานกว่า 3ปี เพื่อหารายได้เสริมเลี้ยงครอบครัวส่งลูกเรียนหนังสือ โดยสุราที่ผ่านกระบวนการกลั่นพร้อมบริโภคจะถูกส่งต่อไปขายให้กับร้านเหล้ายาดองในพื้นที่ ต.หนองปลาไหล ซึ่งแต่ละเดือนจะได้รับรายได้จากการขายสุราเถื่อนตกเดือนละหมื่นกว่าบาท สำหรับสูตรหมักเหล้านั้นได้รับมาจากบิดาซึ่งเสียชีวิตไปเมื่อ 3ปีก่อน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหา “ผลิตสุราโดยไม่ได้รับอนุญาตและมีพาหะเครื่องกลั่นสุราไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต”

จากนั้นเข้าตรวจค้นจุดที่ 2 ที่บ้านเลขที่63/3 ม.12 ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี มี น.ส.วีณา มะนาวหวาน อายุ 47 ปี แสดงตัวเป็นเจ้าของบ้าน ตรวจสอบพบบ้านหลังดัวกล่าวเป็นบ้านเดี่ยวชั้นเดียวตั้งอยู่บนพื้นที่ 300 ตรว.มีรั้วรอบขอบชิดทุกทิศทาง บริเวณด้านหลังบ้านพบโอ่งน้ำขนาด150ลิตร ภายในบรรจุสุราดิบจำนวน 6 ใบ และถังแกลลอนน้ำขนาด 6 ลิตร จำนวน 9 แกลลอน สอบถาม น.ส.วีณา รับสารภาพว่า ที่ต้องลักลอบต้มเหล้าเถื่อนขายก็เพื่อหาเงินส่งเสียบุตรสาวเรียนหนังสือโดยตั้งใจว่าหลังจากสรัางบ้านให้ลูกสาวคนโตเสร็จก็จะเลิกทำอาชีพดังกล่าว ทั้งนี้แต่ละเดือนตนจะมีรายได้จากการขายสุราเถื่อนให้กับชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงตกเดือนละหมื่นกว่าบาท เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหา “ผลิตสุราโดยไม่ได้รับอนุญาตและมีพาหะเครื่องกลั่นสุราไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและมีไว้เพื่อจำหน่ายสุราเถื่อนโดยไม่ได้รับอนุญาต”

และเข้าตรวจค้นจุดที่ 3 เป็นบ้านเลขที่ 10/6ม.2 ต.ห้วยใหญ่ เป็นบ้านเดี่ยวชั้นเดียวสีชมพู มีนายธนากร ห้วยใหญ่ อายุ 45 ปี แสดงตัวเป็นเจ้าของบ้าน ตรวจสอบภายในบ้านพบโอ่งน้ำน้ำขนาด 150 ลิตร บรรจุสุราดิบจำนวน 16 ใบ นอกจากนี้บริเวณเหล้าไก่ด้านหลังบ้านพบโอ่งน้ำขนาดเดียวกันกับในบ้านภายในบรรจุสุราดิบอีกจำนวน 22 ใบ ปีบสแตนเลสขนาดเล็กอีกหลายสิบใบ จึงยึดไว้ทำการอายัดไว้ สอบสวนนายธนากร ให้การรับสารภาพว่าสุราเถื่อนของกลางที่ตรวจพบทั้วหมดเป็นของตนจริง เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหา “ผลิตสุราโดยไม่ได้รับอนุญาตและมีพาหะเครื่องกลั่นสุราไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและมีไว้เพื่อจำหน่ายสุราเถื่อนโดยไม่ได้รับอนุญาต”

ด้านนายประพันธ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากฝ่ายปกครอง อ.บางละมุง ได้รับการประสานข้อมูลมาจากทางกรมสรรพสามิตว่าชาวบ้านในชุมชนดังกล่าวมีการแอบลักลอบผลิตและจำหน่ายสุราเถื่อนโดยไม่ได้อนุญาตเป็นจำนวนมาก พร้อมทั้งนำสุราเถื่อนที่ผลิตขึ้นส่งต่อไปขายยังพื้นที่เมืองพัทยาและพื้นที่ใกล้เคียง อย่างไรก็ตามถึงแม้ที่ผ่านมาจะมีการลงพื้นที่กวาดล้างอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังพบการกระทำผิดเกิดขึ้นอยู่จึงสนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่กรรมสรรพสามิตลงพื้นที่สุ่มตรวจในวันนี้อีกครั้ง อีกทั้งยังถือโอกาสลงพื้นที่ประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจให้กับประชาชนที่ไม่รู้ว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายสร้างความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศไทย เนื่องจากชาวบ้านส่วนใหญ่ในละแวกดังกล่าวมักจะนิยมต้มเหล้าเถื่อนขายเพื่อเป็นรายได้เสริมหาเลี้ยงครอบครัวเพราะความรู้เท่าไม่ถึงการนั่นเอง ทั้งนี้ในส่วนของผู้ต้องหาทั้งหมดจะส่งต่อให้กับพนักงานสอบสวน สภ.ห้วยใหญ่ ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป