แบ่งปัน

ร้องโครงการตำบลละ5ล้านนาเกลือไม่โปร่งใส

.               ( 27 มิ.ย.60 ) ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนเกี่ยวกับโครงการตามนโยบายของรัฐบาล มาตรฐานส่งเสริมความเป็นอยู่ระดับตำบล ( ตำบลละ5 ล้าน ) โดยโครงการดังกล่าวเป็นโครงการด้านเศรษฐกิจสังคม และส่งเสริมการพัฒนาชุมชนตามแนวทางเศรษฐกิจพอพียง โครงการปรับปรุงศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสพปัญหาทางสังคม เพื่อผลิตปุ๋ยอินทรีย์   ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งโครงการดังกล่าวได้เงินสนับสนุนจากรัฐบาลจำนวน 5 ล้านบาท นอกจากนั้นยังมีการระดมเงินทุนจากสมาชิกอีกกว่า 1 ล้านบาท โดยมีคณะกรรมการที่เข้ามาทำงานจำนวน 9 คน โดยคัดเลือกมาจาก 42 ชุมชนของเมืองพัทยา

โดยนายบุญมา ฝังรัก อายุ 66 ปี 1 ใน 9 คณะทำงาน โดยมีที่ปรึกษาของคณะทำงานเป็นข้าราชการระดับ ซี 7 ของเมืองพัทยา และเป็นคนริเริ่มจัดทำโครงการ ซึ่งตอนแรกการเริ่มโครงการดังกล่าวทางชุมชนเห็นว่าดีจึงจัดการระดมทุนเพื่อนำเงินเข้ามาใช้ในการรบริหาร โดยโครงการดังกล่าวเริ่มก่อสร้างปลายปี 2558 เสร็จต้นปี 2559 แล้วได้เริ่มโครงการโดยมีการจัดซื้ออุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องในโครงการปรับปรุงศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสพปัญหาทางสังคม เพื่อผลิตปุ๋ยอินทรีย์

จากนั้นก็เริ่มดำเนินการต่างๆเกี่ยวกับโครงการดังกล่าว แต่พอทางคณะทำงานทั้ง 9 คน เวลาประชุมมีการแย้งกับปรึกษาของคณะทำงานเป็นข้าราชการระดับ ซี 7 ของเมืองพัทยาในการประชุมแต่ละครั้ง แต่ทางคณะทำงานทั้ง 9 คน ไม่สามารถออกความคิดเห็นได้ ซึ่งทั้งหมดขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของปรึกษาของคณะทำงานเป็นข้าราชการระดับ ซี 7 ของเมืองพัทยา   ทางคณะทำงานทั้ง 9 คนจึงเห็นว่าโครงการดังกล่าวไม่โปร่งใส มีการเบิกจ่ายเงินและจัดทำโครงการอื่นขึ้นมาทั้งที่ไม่สามารถดำเนินการเป็นรูปธรรมได้ รวมทั้งโครงการปรับปรุงศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสพปัญหาทางสังคม เพื่อผลิตปุ๋ยอินทรีย์ ไม่เป็นไปอย่างที่โครงการชี้แจงต่อสมาชิกของชุมชน

นอกจากนั้นเมื่อตรวจสอบหลักฐานต่างๆ ทั้งหนังสือสัญญาจัดทำโครงการปรับปรุงศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสพปัญหาทางสังคม เพื่อผลิตปุ๋ยอินทรีย์   รวมทั้งหนังสือสัญญาการขายซึ่งเป็นคนระบริษัทแต่ชื่อที่ทำสัญญาเป็นคนคนเดียวกันโดยเป็นแบบลายเซ็น กับ การเขียนชื่อธรรมดา   นอกจากนั้นอุปกรณ์ที่จัดซื้อมาราคาแพงกว่าราคากลางสูงพอสมควร และอุปกรณ์ที่ซื้อมานั้นไม่ได้คุณภาพและการใช้งานไม่เท่าที่ในสัญญาจัดซื้อมา   ร่วมทั้งเครื่องปั่นไฟที่ซื้อมาแล้วไม่ได้ใช้งานให้เกิดประมาณและราคากว่า 4 แสนบาท   นอกจากนั้นเกี่ยวกับตัวโครงสร้างโครงการนั้นก่อสร้างขึ้นมาใหม่ไม่ได้เป็นการปรับปรุงตามหนังสือโครงการ เวลาฝนตกน้ำก็ไหลเข้ามาท่วมไม่สามารถทำงานได้   และหลังจากโครงการดังกล่าวเกิดขึ้นได้มีการผลิตปุ๋ยอินทรีย์ได้จริง แต่ได้รายได้จากการผลิตเดือนละประมาณ 20,000 บาท แต่ค่าใช้จ่ายของพนักงานเดือนละประมาณ 80,000 บาท แถมโครงการดังกล่าวไม่มีการขอไฟฟ้าอย่างถูกต้องซึ่งได้ไปแอบลักขโมยใช้ไฟฟ้าที่อื่นมา ซึ่งตนได้ไปขออย่างถูกต้องหลังจากทราบเรื่อง   ก่อนหน้านี้ได้ยื่นเรื่องดังกล่าวไปยัง ปปท.ภาคที่ อ.ศรีราชา เพื่อให้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าวแต่เรื่องยังไม่คืบหน้าไปไหนเลย ซึ่งทางชาวบ้านต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบการทุจริตโครงการดังกล่าวด้วย เพื่อหาคนทุจริตในโครงการมาดำเนินคดีตามกฎหมาย