แบ่งปัน

ชุดจับกุมเผยข้อกับสื่อผ่านมือถือแก๊งรัสเซียเปิดสอนคอร์ส สยิว ทำเป็นขบวนการ อีกยังมีการสืบสวนต่อ

กรณีพ.ต.ท.ดุลยพัฒน์ เตชพรชยาสินธ์ รอง ผกก.ฝกพ.บก.อก.บช.ส.ตำรวจศูนย์ปฏิบัติการป้องกันปราบปรามคนร้ายข้ามชาติและเข้าเมืองผิดกฎหมาย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดชลบุรี ตำรวจท่องเที่ยวเมืองพัทยา ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา และตำรวจศูนย์ป้องกันปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ ภ.จว.ชลบุรี ร่วมกันจับกุมชาย-หญิงชาวรัสเซียรวม 10 คน ที่มาเช่าโรงแรมแห่งหนึ่งในเมืองพัทยา เปิดคอร์สสอนการมีเพศสัมพันธ์ เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 26 ก.พ.ที่ผ่านมาตามที่รายงานไปแล้วนั้น

จนมีการสืบสวนจนทราบว่ามีชาวรัสเซียซึ่งตั้งเป็นสถานบันสอนเซ็กส์ศาสตร์ในประเทศไทย และเปิดสอนคอร์สสยิว ที่โรงแรมแห่งหนึ่งในเมืองพัทยาจริง โดยมี นาย อเล็กซานเดอร์ ไคร์ริลลอน (Mr.Alexsandr Kirillon) อายุ 38 ปี สัญชาติรัสเซีย เป็นผู้อำนวยการสถานบัน และเจ้าของหลักสูตร และมี น.ส.อนาสตาเซียย่า วาซูกิวิช (Miss.Anastasiya Vashukevich) อายุ 27 ปี แฟนสาวชาติเดียวกัน เป็นครูผู้ช่วย ส่วนอีก 8 คนจะเป็นทีมงานของสถาบัน จากการสอบถามนักศึกษาหญิงชาวรัสเซียคนหนึ่ง (ไม่ขอเผยชื่อ) ซึ่งเป็นคนที่ส่งข้อความไปร้องเรียนกับหน่วยงานรัฐของประเทศตัวเอง ทราบว่า การเรียนเซ็กส์ศาสตร์คอร์สนี้ใช้ระยะเวลาเรียนทั้งหมด 4 วัน โดยใช้เมืองพัทยาเป็นสถานที่เรียนวิชาอุบาศก์ และมีค่าใช้จ่ายในการเรียนคิดเป็นเงินไทยจำนวน 45,000 บาท ส่วนรายละเอียดเนื้อหาที่เรียนจะเป็นการสอนในเรื่องลีลาบนเตียง รวมถึงวิธีมัดใจชายและวิชาหาสามีเศรษฐีระดับโลกมาเป็นคู่ครอง ซึ่งแต่ละวิชาจะมีหนังสือหลักสูตรมาให้ผู้เรียนได้ศึกษาภาคทฤษฎี

พ.ต.ท.ดุลยพัฒน์ เผยข้อกับสื่อผ่านมือถือด้วยว่า เมื่อวันที่ 25 ก.พ.ที่ผ่านมา เป็นการเรียนวันสุดท้าย นาย อเล็กซานเดอร์ จึงพานักศึกษาหญิงประมาณ 40 ราย เดินทางไปที่เกาะล้านเพื่อท่องเที่ยวและศึกษาภาคปฏิบัติ โดยมีการไลฟ์สดผ่านโลกโซเชียลเผยแพร่ไปทั่วโลก จากนั้นในช่วงค่ำจึงเดินทางกลับมาที่ฝั่งพัทยา และดำเนินการสอนต่อให้จบคอร์ส ก่อนที่จะมีการมอบประกาศนียบัตรให้กับผู้ที่เรียนจบหลักสูตร เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงสนธิกำลังกันบุกเข้าจับกุมดังกล่าว

ส่วนกรณีที่มีคอลัมน์นิสของสื่อบางสำนักระบุว่า ขบวนการนี้มีลักษณะเป็นลัทธิหนึ่งในประเทศรัสเซียนั้น เรื่องนี้ตนเองก็เพิ่งจะทราบเหมือนกัน และยังอยู่ในระหว่างการสอบสวนหาข้อมูล อีกทั้งดำเนินการตั้งข้อหาข้างตน ดำเนินคดีในข้อหา  เป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาตให้ทำงาน  เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” หลังจากการดำเนินคดีเสร็จสิ้นแล้วก็จะดำเนินการผลักดันออกนอกประเทศ และขึ้นบัญชีดำ หรือ แบล็คลิสต์ ห้ามเข้าประเทศไทยอีกต่อไป.