แบ่งปัน

ภาพวงจรปิดจับภาพผู้ต้องสงสัยฆ่าปาดคอสาวคาราโอเกะคาห้องพัก รายนี้เมื่อเวลา 09.00 น.( 6 ก.ย.61 ) พ.ต.อ.ธนชัย อุสากิจ ผกก.พูลตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ชุดสืบสวนจังหวัด เจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน จ.ชลบุรี และกำลังเจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถานสัตหีบ ร่วมตรวจสอบผู้เสียชีวิตจากสาเหตุถูกฆ่าตาย เหตุเกิดภายในห้องเช่าเลขที่ 37/ 619 ม.1 ต.พูลตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี


ในที่เกิดเหตุเป็นห้องเช่าชั้นเดียว 1 ห้อง ตรวจสอบพบมีคราบเลือดกระเซนไปทั่วห้อง พบที่นอนพบศพทราบชื่อนางสาวลักษณารีย์ สุทธิธรรม อายุ 43 ปี เป็นพนักงานร้านอ้อมคาราโอเกะ ซึ่งตั้งติดกับห้องพักของผู้ตาย สภาพสวมชุดแซกสีน้ำเงินเข้ม ตรวจสอบสภาพบาดแผลพบถูกของมีคมปาดเข้าที่บริเวณลำคอเป็นแผลฉกรรจ์ ตามร่างกายแขนขามีร่องรอยถูกของมีคมบาดจำนวนหลายแห่ง
นอกจากนั้นบริเวณโต๊ะรับแขกภายในห้องพบขวดเบียร์หี่ห้อหนึ่งที่เปิดกินแล้วตั้งอยู่ ที่โซฟามีสร้อยคอมือของผู้ตายขาดตกอยู่ และพบรอยรองเท้าที่เป็นคราบเลือดซึ่งคาดว่าเป็นของคนร้ายอยู่ภายในห้อง เจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์พิสูจน์หลักฐาน จ.ชลบุรี จึงเก็บหลักฐานต่างๆเช่นลอยนิ้วมือแฝงเพื่อไปประกอบในการติดตามจับกุมคนร้าย ส่วนทรัพย์สินของผู้ตายไม่ว่าจะเป็นสร้อย รถยนต์เก๋งฮอนด้าซีวิค สีขาว ทะเบียน ฌค-5557 กทม. ยังอยู่ครบ มีเพียงโทรศัพท์มือถือยี่ห้อออปโป้ของผู้ตายหายไป


จากการสอบถามเจ้าของร้านและเพื่อนร่วมงานทราบว่าผู้ตายเป็นคนอัธยศัยดีเป็นที่รักของทุกคน และทำงานที่ร้านดังกล่าวมาประมาณ 5 ปี ปกติผู้ตายจะมีบ้านพักอยู่อีกที่หนึ่ง ส่วนที่พบศพนั้นผู้ตายเช่าไว้นอนพักเวลาเลิกงานแล้วเกิดอาการเมาไม่สามารถขับรถกลับได้ ซึ่งทุกคนยังตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจในเบื้องต้นจากการสอบสวนและตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่สามารถจับผู้ต้องสงสัยได้ โดยผู้ต้องสงสัยเข้ามานั่งดื่มกินกับผู้ตายที่ร้าน และเดินออกจากร้านหลังร้านปิดไปเวลาประมาณ 00.10 น.วันนี้ โดยเดินตามผู้ตายไปยังห้องพักที่พบศพและออกจากห้องพักนั้นไปประมาณเวลาตี 3 กว่าๆ โดยคนร้ายนั้นพูดจาด้วยภาษาไทยและหน้าตาคล้ายๆคนใต้ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจว่าคนร้ายเป็นคนไทยหรือแรงงานต่างด้าว ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังติดตามจับกุมตัวคนร้ายรายนี้ ส่วนสาเหตุนั้นคาดว่าเป็นเรื่องปัญหาส่วนตัว หฟรือความขัดแย้งส่วนตัว เพราะทรัพย์สินของผู้ตายอยู่ครบ หายไปเพียงโทรศัพท์มือถือของผู้ตาย