แบ่งปัน

จากกรณีนายแพทย์กิตติ ปรมัตผล ผอ.รพ.เมืองพัทยาได้โพสข้อความลงในโลกโซเซียลหลังจากมีบุคคลโพสในโลกโซเซียลและมีคนเข้าไปคอมเม้นต่อว่า รพ.แบบที่ไม่เข้าใจและต่อว่าแบบรุนแรง จนทำให้เกิดความรู้สึกและที่พูดสาเหตุที่โพสลงเพื่อให้ประชาชนและชาวบ้านเข้าใจ


ล่าสุดเมื่อเวลา 11.00 น.( 22 ต.ค.61 ) นายแพทย์กิตติ ปรมัตผล ผอ.รพ.เมืองพัทยา พร้อมด้วยคณะบริหาร รพ.เมืองพัทยาเดินทางเข้าพบกับนายปรเมศร์ งามพิเชษฐ์ รองนายกเมืองพัทยาที่รับผิดชอบ รพ.เมืองพัทยา เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว และความเป็นมาของเหตุการณ์ โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชม.ในการพูดคุยถึงเหตุการณ์และปัญหาดังกล่าว ก่อนนายแพทย์กิตติ ปรมัตผล ผอ.รพ.เมืองพัทยา พร้อมด้วยคณะบริหาร รพ.เมืองพัทยาเดินทางกลับ


โดยนายปรเมศร์ งามพิเชษฐ์ รองนายกเมืองพัทยา เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าวทางเมืองพัทยาหรือผู้บริหารไม่ได้นิ่งนอนฝจได้เชิญผู้บริหาร รพ.มาสอบถามและพูดคุยถึงเหตุการณ์ต่างๆ และต้องยอมรับว่าห้องฉุกเฉินในช่วงเวลาดังกล่าวนั้นต้องยอมรับว่ามีจำนวนมาก และในช่วงเวลาดังกล่าวมีเคสฉุกเฉินเข้ามารักษาจำนวน 8 ราย และพอดีเคสของน้องที่เข้ามารักษาที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร เมื่อเข้ามาทางพยาบาลก็จะคัดกรองว่ามีอาการอย่างไรและเร่งด่วนไหม พอตรวจอาการเสร็จทางพยาบาลก็เลยบอกว่าให้อีก 1 ชม.หมอจะมาตรวจเพราะติดเคสอื่นอยู่ จึงอาจทำให้ญาติคนไข้เกิดความไม่พอใจ ซึ่งทางเราก็ยอมรับผิดในการใช้วาจาที่พูดไปแล้วเกิดความไม่พอใจขอญาติคนไข้ หลังจากนั้นทางญาติก็นำคนไข้ออกไปรักษาที่อื่น ซึ่งทางผู้บริหาร รพ.ก็เดินทางไปพูดคุยกับครอบครัวซึ่งอาจเกิดจากความเข้าใจผิดกัน


ส่วนกรณีที่นายแพทย์กิตติโพสทางนายปรเมศร์ งามพิเชษฐ์ รองนายกเมืองพัทยา บอกว่าได้พูดคุยกับนายแพทย์กิตติแล้วอาจเกิดจากการที่ญาติคนไข้ไม่เข้าใจการทำงานของทีมแพทย์ ซึ่งในปัจจุบันมีคนไข้เข้ามารักษาในวันราชการประมาณ 1,150 คน ซึ่งถือว่ามากที่เดียว ซึ่งนายแพทย์กิตติมีความจริงจังในการทำงานและเกิดการท้อบ้างที่ญาติคนไข้ไม่เข้าใจ จึงได้โพสเพื่อให้ประชาชนเข้าใจหลังมีคอมเม้นต่อว่า รพ.ต่างๆนาๆ
นอกจากนั้นนายปรเมศร์ งามพิเชษฐ์ รองนายกเมืองพัทยา ได้พูดคุยและทำความเข้าใจกับคณะผู้บริหารเรื่องเกี่ยวกับการพูดคุยและอธิบายให้ญาติหรือคนไข้ให้เข้าใจ เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดอีก