2 ตายยายวอนตำรวจเร่งติดตามแก๊งค์ต้มตุ๋นหลอกจำนำที่สูญเงินกว่าแสนบาท
2 ตายายบ้านห้วยใหญ่ถูกแก๊ง 18 มงกุฎร่วมหัวเล่นละครตบตาเป็นนายทุนหาซื้อที่ดิน ก่อนออกอุบายหลอกให้เอาที่ดินไปจำนำเอาเงิน 1แสนร่วมลงทุนซื้อที่จะปันผลกำไรให้ สุดท้ายเชิดเงินหนีทิ้งสองตายายข้างทาง มิหนำซ้ำยังหลอกเอาสร้อยคอทองคำ 2 บาท พร้อมพระเหลี่ยมทองไปอีกด้วย
ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียน จาก นาย ชิต สุดพุ่ม อายุ 65 ปี และ นาง นิยม สุดพุ่ม อายุ 65 ปี ว่าถูกกลุ่มแก๊งค์ต้มตุ๋นหลอกให้เอาที่ดินไปจำนำแล้วหลอกให้นำเงินเข้าร่วมลงทุนซื้อที่ และยังหลอกเอาสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาทพร้อมพระเหลี่ยมทองไป แล้วทิ้งสองตายายไว้ข้างทาง ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม ที่ผ่านมา และได้แจ้งความไว้กับ ร.ต.อ.บุญหลาย อินเอี่ยม ร้อยเวรสอบสวน สภ.ห้วยใหญ่ จ.ชลบุรี วอนเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามจับแก๊งค์คนร้ายหวั่นไปหลอกลวงชาวบ้านอีก
นายชิต และนางนิยม สุดพุ่ม เล่าว่า ก่อนวันเกิดเหตุได้มีผู้หญิงอายุประมาณ 35-40 ปี แต่งตัวดีเข้ามาที่บ้านมาสอบถามหาซื้อที่ดิน และเจรจาอยากจะซื้อที่ดินของตนเอง แต่ตนทั้งสองบอกไม่ขาย และไม่ได้พูดคุยต่อเพราะกลัวว่าจะเป็นมิจฉาชีพ หลังจากนั้นผู้หญิงคนดังกล่าวก็เดินทางออกจากที่บ้านตนไป
ผ่านไปอีก 1-2 วันผู้หญิงคนเดิมก็กลับมาอีกครั้งโดยอ้างว่าจะมาหาซื้อที่ให้นายทุน และมาให้นายชิตพาไปที่ที่ดินที่แก๊งค์ต้มตุ๋นวางแผนไว้ว่ามีที่ดินเขาจะขายนายชิตน่าจะรู้จัก นายชิตและนางนิยมจึงเดินทางไปที่ที่ดินกับแก๊งค์ต้มตุ๋น จนไปถึงที่ดินแปลงดังกล่าวก็ได้โทรนัดให้เจ้าของที่ดินมาพบ พร้อมโทรหานายทุนที่จะซื้อที่ดินให้มาพร้อมกัน ซึ่งนายทุนและเจ้าของที่ดินก็เป็นหนึ่งในแก๊งค์ต้มตุ๋นด้วย
เมื่อมาพร้อมกันเจ้าของที่ดินเก๊ก็บอกขายที่ดินแปลงดังกล่าวในราคา 3,500,000 บาท แต่ขอเงินวางมัดจำก่อน 500,000 บาท นายทุนก็ไม่รอช้ารีบนำเงิน 5 แสนบาทมาวางมัดจำทันที และขอดูโฉนดที่ดิน ตัวเจ้าของที่จึงตอบกลับมาว่าได้ไปจำนองไว้ที่ร้านทองแถวนาเกลือ และต้องนำเงินไปไถ่ถอนมาก่อน
จากนั้นกลุ่มมิจฉาชีพเริมออกอุบายให้นายชิตและนางนิยมมาร่วมซื้อที่โดยเสนอผลกำไรให้เท่าตัว นายชิตได้ตอบปฏิเสธไปว่าไม่มีเงินและขอให้ไปส่งบ้าน กลุ่มมิจฉาชีพก็เดินทางไปส่งที่บ้านตามคำขอของนายชิต แต่ในระหว่างทางช่วยกันพูดจาหว่าล้อมจนนายชิตและนางนิยมคล้อยตาม กลับไปเอาโฉนดที่ดินไปเข้าจำนอง เพื่อหาเงินมาให้แก๊งค์ดังกล่าวเป็นเงิน 1 แสนบาท
พอทางนายชิตและนางนิยมหาเงินได้แล้วทางแก๊งค์ต้มตุ๋นก็ได้พาทั้ง 2 ไปร้านทองที่เจ้าของที่ดินกล่าวอ้างไว้ โดยทางแก๊งค์ต้มตุ๋นยังหลอกเอาสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท พร้อมพระเหลี่ยมทองจากนางนิยมไป โดยอ้างว่าเงินที่ไปถ่ายถอนที่ดินไม่พอ ซึ่งเมื่อถึงร้านทองย่านนาเกลือแก๊งค์ต้มตุ๋นได้บอกให้นายชิตกับนางนิยมให้เข้าไปดูในร้านทอง โดยบอกว่าไม่ลงไปดู เพื่อจะได้รู้ว่าขายถอนที่ดินเท่าไร หลังจากนายชิตและนางนิยมลงไปดูที่ร้านไม่พบทั้งเจ้าของที่ดินและนายทุน ก็เอะใจเดินกลับมาที่รถก็ไม่พบรถยนต์ที่พามาจึงมั่นใจว่าถูกแก๊งค์ต้มตุ๋นหลอกเอาเงินและสร้อยคอไปแล้ว
ซึ่งทั้งนายชิต และนางนิยมฝากเตือนชาวบ้านประชาชนอย่าลงเชื่อคนแปลกหน้า ขนาดตนเองทั้ง 2 คนระมัดระวังแล้วยังโดนหลอกเลย นอกจากนั้นยังฝากเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตาม แก๊งค์ต้มตุ๋นดังกล่าวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย เพราะตนเองต้องหาเงินใช้หนี้ที่เอาที่ดินไปจำนองกับคนอื่น 100,000 บาท และเกรงกลัวจะไปหลอกคนอื่นแบบนี้อีก
