แบ่งปัน

เมืองพัทยา การรถไฟแห่งประเทศไทย จับมือ ส่งเสริมการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ในภูมิภาคตะวันออกโดยรถไฟในราคาประหยัด ซึ่งจะใช้เวลาเดินจากกทม. ถึงพัทยาเพียง 2 ชั่วโมงครึ่ง เพื่อกระตุ้นนักท่องเที่ยวชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติที่นิยมเที่ยวแบบราคาประหยัด

ที่ศาลาว่าการเมืองพัทยาพลตำรวจตรีพินิต มณีรัตน์ โฆษกเมืองพัทยา เป็นประธานในการประชุมส่งเสริมการท่องเที่ยวชายฝั่งภาคตะวันออกโดยรถไฟพร้อมด้วยนายเอกสิทธิ์ งามพิเชษฐ์ นายกสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา ตัวแทนจากสถานท่องเที่ยวในจังหวัดชลบุรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมโดยพร้อมเพรียง

ด้วยเมืองพัทยาและการรถไฟแห่งประเทศไทยจะดำเนินโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวชายฝั่งภาคตะวันออกแบบใหม่ในจังหวัดชลบุรีโดยรถไฟ โดยจัดขบวนรถไฟปรับอากาศจำนวน 3 โบกี้และให้มีการทองลองเดินรถเป็นเวลา 6 เดือน ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2561 เฉพาะวันเสาร์และวันอาทิตย์ ออกเดินทางจากกรุงเทพเวลา 06.30 ถึงพัทยา 09.00 น. และเวลากลับกทม. 15.50น.ถึงกรุงเทพ 18.50 น. ทั้งนี้รถไฟขบวนนี้จะจอดเฉพาะแหล่งท่องเที่ยว 6 จุดสำคัญคือ ศรีราชา พัทยาเหนือ ตลาดน้ำสี่ภาค สวนนงนุช วัดญาณสังวราราม และพลูตาหลวง เป็นการเพิ่มทางเลือกการเดินทางให้แก่นักท่องเที่ยว ทั้งยังกระตุ้นเศรษฐกิจ และสร้างภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวให้แก่เมืองพัทยาและประเทศไทยในภาพรวมด้วย

สำหรับโครงการนี้มุ่งหวังเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวกลุ่มคนไทยเป็นหลักและกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติแบบแบ๊คแพ๊ค ซึ่งภายในระยะเวลา 6 เดือนจะเป็นการทดลองวิ่งก่อนเพื่อสำรวจความต้องการของนักท่องเที่ยวว่ามีมากน้อยเพียงใด ทั้งนี้ทางที่ประชุมได้มีการระดมสมองในการกำหนดเส้นทางรถไฟ

โดยในเบื้องต้นตามจุดสำคัญที่รถไฟจอด จะมีสถานประกอบการรับเป็นเจ้าภาพหลักในการจัดทริปเที่ยว คือจุดจอดบริเวณ ศรีราชา เจ้าภาพหลักคือสวนเสือศรีราชา, พัทยาเหนือ สมาคมแหล่งท่องเที่ยวชลบุรีและประสาทสัจธรรม, ตลาดน้ำ 4 ภาค เจ้าภาพหลักคือตลาดน้ำ 4 ภาค, วัดญาณสังวราราม รามายณะ, สวนนงนุช สวนนงนุชและจุดจอดสุดท้ายพลูตาหลวง นายกอบต.พลูตาหลวง นอกจากนี้ยังร่วมหารือในเรื่องของการรับส่งนักท่องเที่ยวโดยรถสาธารณะ การบริหารจัดการการจองตั๋วรวมถึงราคาแพ๊คแก๊จท่องเที่ยวควรจะมีราคาที่ถูกและดีเพื่อเป็นการดึงดูดนักท่องเที่ยวในช่วงโปรโมชั่น 6 เดือน ซึ่งหลังจากนี้ทางที่ประชุมจะนำรายละเอียดที่หารือในครั้งนี้ไปร่วมประชุมกับการรถไฟแห่งประเทศไทยอีกครั้งหนึ่งในวันพุธที่ 7 กุมภาพันธ์ 2561 อีกครั้งเพื่อหาข้อสรุปร่วมกัน