แบ่งปัน


เมื่อเวลา 09.00 น.( 9 ม.ค.62 )ง พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร ผกก.สภ.เมืองพัทยา พ.ต.ท.ปพนพัชร์ ใบยา รอง ผกก.สส.สภ.เมืองพัทยา พ.ต.ท.ปิยะพงษ์ เอนสาร สว.ส.ทท.4 กก.2 บก.ทท.1 พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม 2 คนร้ายวิ่งราวทรัพย์ประกอบด้วย นายนริศ หรือแบงค์ ขุนเณร อายุ 26 ปี และนายจรูญวิทยา หรือบอล สวัสดิ์กิจ อายุ 21 ปี พร้อมของกลางพระหลวงปู่ทวดเลี่ยมกรอบพลาสติกใส จำนวน 1 องค์และกรอบพระคล้ายทองคำ 1 อัน เงินสด (ธนบัตรชนิดต่างๆ) จำนวน 3,900 บาท และ รถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ สีดำ ทะเบียน 2 กย-3648 ชลบุรี ที่ใช้ในการก่อเหตุพร้อมชุดวันก่อเหตุ สามารถจับกุมได้ที่ หน้าร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ไม่มีชื่อ เลขที่ 358/26 ม.10 ต.หนองใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยมีน.ส.วิภาภรณ์ สอนสมนึก อายุ 27 ปี ผู้เสียหาย ยืนยันชี้ตัว


พฤติการณ์การจับกุม เมื่อวันที่ 5 ม.ค.62 เวลาประมาณ 00.30 น. ขณะที่ผู้เสียหายขับขี่รถจักรยานยนต์มาตามถนนเทพประสิทธิ์ มุ่งหน้าหาดจอมเทียน เมื่อมาถึงบริเวณ ข้างห้างเอาท์เล็ตมอลล์ ได้มีชายไม่ทราบชื่อ จำนวน 2 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น เวฟ สีดำ ทะเบียน 2กย 3648 (ไม่ทราบจังหวัด) มาบริเวณด้านขวาของผู้เสียหาย แล้วชายคนที่ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ดังกล่าวได้ใช้มือซ้ายกระชากเอาสร้อยคอทองคำ(มูลค่า 28,000 บาท) ที่ผู้เสียหายสวมใส่อยู่ที่คอ ติดมือไป จากนั้นได้ขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไป ผู้เสียหายจึงมาพบพนักงานสอบสวนเพื่อแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำผิดตามกฎหมายต่อไป ต่อมาเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ได้ทำการตรวจสอบสถานที่เกิด ไล่ดูกล้องวงจรปิดและสอบพยานใกล้เคียง จนทราบว่าผู้ต้องหาทั้ง 2 เป็นผู้ก่อเหตุ และได้นำข้อมูลและภาพถ่ายของผู้ต้องหาให้ ผู้เสียหายและพยานตรวจสอบ ชี้ยืนยัน พนักงานสอบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน ยื่นขอศาลจังหวัดพัทยา ออกหมายจับผู้ก่อเหตุทั้งสอง และชุดสืบสวน สามารถจับกุมผู้ต้องหาดังกล่าวได้ที่ ริมถนนหน้าร้านรับซ่อมรถจักรยานยนต์ เลขที่ 358/26 ม.10 ต.หนองใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี วันที่ 8 ม.ค.62 เวลา 12.00 น. ผู้ถูกจับทั้งสองให้การรับ นอกจากนั้น ตรวจสอบประวัติการต้องโทษผู้ต้องหาที่ 1นายนริศ หรือแบงค์ ขุนเณร อายุ 26 ปี เคยถูกจับกุมในท้องที่ สภ.เมืองพัทยา คดีข่มขืนนักท่องเที่ยวชาวจีน เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2561 และอยู่ในระหว่างประกันตัวต่อสู้คดี


หลังจากนั้นได้ทำแผนจำลองเหตุการณ์ในการก่อเหตุก่อนส่งทั้ง2ดำเนินคดีในข้อกล่าวหา ร่วมกันวิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุมในเวลากลางคืน ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.83,336,336ทวิ อัตราโทษจำคุกตั้งแต่ 7 ปีถึง 15 ปี ปรับตั้งแต่หนึ่งแสนสองหมื่นบาท ถึงสามแสนห้าหมื่นบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าหลังจากแถลงข่าวและทำแผน ทางผู้เสียหายน.ส.วิภาภรณ์ สอนสมนึก อายุ 27 ปี ได้กล่าวขอบคุณและชื่ชมการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สามารถติดตามจับกุมคนร้ายทั้ง2คนได้อย่างรวดเร็ว