ร.ต.ท.ภิญญลักษณ์ สินวรวิวัฒน์ พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองชลบุรี ได้รับแจ้งจากนายจิโรจน์ บุญรอด อายุ 63 ปี ว่า ไก่ชนและกระต่ายที่เลี้ยงไว้ถูกสุนัขของคนข้างบ้านรุมกัดจนตายยกเล้า ภายในไร่มันสำปะหลังไม่มีเลขที่ หมู่ 8 ตำบลนาป่า อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี จึงรุดตรวจสอบ ที่เกิดเหตุเป็นไร่มันสำปะหลังเนื้อที่กว้างกว่า 18 ไร่ บริเวณท้ายไร่มันสร้างเป็นเล้าไก่ขนาดใหญ่ ลักษณะก่อด้วยอิฐบล๊อค สูงราว 30 เซนติเมตร และใช้เชือกอวนตาข่ายสีเขียว ล้อมรอบป้องกันอย่างแน่นหนา ตรวจสอบด้านหลังเล้าไก่ พบเชือกอวนขาดเป็นรูกว้าง ภายในเล้าไก่พบซากกระต่ายท้องแก่ รวม 4 ตัว และไก่ชน รวม 15 ตัว นอนตายกระจัดกระจายเต็มเล้า ตรวจสอบที่ซากไก่และกระต่ายพบรอยเขี้ยวสัตว์ขย้ำตามลำตัว และลำคอ เป็นรู
นายจิโรจน์ เล่าว่า ตนได้ยินเสียงไก่ร้องระงมเสียงดัง ในช่วงเวลา 03.00 น. จึงออกมาดู พบสุนัขพันธุ์ไทยรวม 6 ตัว ลักลอบกัดและตะกุยเชือกอวนด้านหลังเล้าจนขาด แล้วเข้าไปรุมกัดไก่และกระต่าย ตนจึงรีบมาวิ่งไล่ จนสุนัขทั้งหมดล่าถอยเข้าป่า จึงมาทำการสำรวจไก่ชนที่เลี้ยงไว้พบว่านอนตายอย่างน่าอนาถ บางตัวชักดิ้นชักงอด้วยความเจ็บปวดก่อนขาดใจตาย รวมมูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 5 แสนบาท นายจิโรจน์กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนจำได้ว่าสุนัขที่เข้ามากัดไก่เป็นสุนัขของเพื่อนบ้านที่เคยมีคดีความเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยในตอนนั้นสุนัขของเพื่อนบ้านมากัดไก่ชนของตน ตนจึงยิงสุนัขตาย เพื่อนบ้านจึงเข้าแจ้งความว่าตนทารุณกรรมสัตว์ ในครั้งนี้ด้วยความที่ตนไม่อยากให้เรื่องราวบานปลายเหมือนที่ผ่านมา จึงเลือกที่จะไม่ยิงแต่จะทำการให้เจ้าหน้าที่มาตรวจสอบที่เกิดเหตุไว้ก่อนเพื่อลงบันทึกประจำวัน จากนั้นจะไปทำการพูดคุยไกล่เกลี่ยกับเจ้าของสุนัขให้ชดใช้ค่าเสียหาย แต่หากเพื่อนบ้านไม่ยอมรับหรือเพิกเฉย ตนจะดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจสอบที่เกิดเหตุ และลงบันทึกประจำวัน เนื่องจากผู้เสียหายต้องการไกล่เกลี่ยเจรจากับคู่กรณีด้วยตนเอง แต่หากตกลงกันไม่ได้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการเรียกตัวคู่กรณีมาทำการสอบสวนหาข้อเท็จจริงเพื่อดำเนินคดีต่อไป
โดยทางพ.ต.อ.จิระวุฒิ ตัณฑศรี ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองชลบุรี ได้เปิดเผยเกี่ยวกับคดีนี้ว่า คดีนี้ถือเป็นคดีลหุโทษ ในมาตรา 377 ปล่อยสัตว์ดุร้ายโดยลำพัง ทำให้เกิดอันตรายต่อบุคคลและทรัพย์สิน มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับไม่เกิน 1 พันบาท ซึ่งทางตำรวจก็ได้เรียกคู่กรณีมาไกล่เกลี่ยตกลงค่าเสียหายแล้ว แต่ถ้าหากตกลงกันไม่ได้ก็ให้นำขึ้นฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายต่อศาลในคดีแพ่ง
อำนาจ / ศรีราชา