หน้าวอล์คกิ้งสตรีทการจราจรเริ่มคล่องตัว หลังทหารจัดระเบียบรถสองแถว-แท็กซี่ เมืองพัทยา

    ภาพ/ข่าว อัมพร หน้าวอล์คกิ้งสตรีทการจราจรเริ่มคล่องตัว หลังทหารจัดระเบียบรถสองแถว-แท็กซี่ เมืองพัทยา หลังจากที่ทาง ร.ท.สันนิบาล แสนดี หัวหน้าชุดรักษาความสงบพื้นที่อำเภอบางละมุง ได้ลงพื้นที่จัดระเบียบบริเวณทางโค้งหน้าวอล์กกิ้งสตรีท พัทยาใต้ มีรถสองแถว-แท็กซี่จอดรอรับลูกค้ากีดขวางการจราจรทำให้รถชาวบ้านที่สัญจรผ่านไปมาได้รับความเดือดร้อน และมีการเกิดการทะเราะวิวาทระหว่างคิวสหกรณ์สองแถวและคิวสหกรณ์แท็กซี่ ล่าสุดเมื่อเวลา 23.00 น.วันที่ 23 พฤศจิกายน 2559 ร.ต.สุวิทย์ ลากลาง รองหัวหน้าชุดรักษาความสงบพื้นที่อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี นำกำลังเจ้าหน้าที่ทหารสังกัดกองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ฯ ได้ลงตรวจสอบบริเวณทางโค้งหน้าวอล์กกิ้งสตรีท พัทยาใต้ อีกครั้งหลังได้จากมีการจัดระเบียบการจอดในบริเวณที่ห้ามจอดในแนวเส้นขาวแดงไปแล้วนั้น  พบว่าบริเวณดังกล่าวมีปริมาณรถติดน้อยลง ทำให้สามารถสัญจรไปมาได้อย่างสะดวกผิดหูผิดตาไปจากทุกวันที่ผ่านมา โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำกรวยยางและป้ายห้ามจอดตลอดแนว 19.00 น. -03.00 น. เฉพาะรับส่งชั่วคราวแท็กซี่สองแถว 19.00 น.-03.00 น. สร้างความพอใจให้กับประชาชนที่สัญจรไปมาเป็นอย่างมาก ทางด้านรถสหกรณ์สองแถวก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี หลังจากจอดรับ-ส่งผู้โดยสารเสร็จสิ้นแล้วก็จะเคลื่อนตัวออกไป ส่วนฝั่งตรงกันข้ามก็ไร้เงาคิวรถแท็กซี่ที่อ้างว่าได้รับอนุญาตให้มาตั้งคิวจอดรับผู้โดยสารบริเวณดังกล่าว แต่อย่างไรก็ตามจะมีการปรึกษาหารืออีกครั้ง เพื่อแก้ปัญหาจราจรติดขัดที่มีเรื้อรังมานาน ทั้งในจุดดังกล่าวรวมถึงจุดอื่นๆที่มีปัญหาเช่นเดียวกันอีกด้วย...

เริ่มทุบแล้วสระว่ายน้ำเจ้าปัญหาพร้อมเปิดใจยอมรับสภาพเร่งแก้ไขตามคำสั่ง

    เริ่มทุบแล้วสระว่ายน้ำเจ้าปัญหาพร้อมเปิดใจยอมรับสภาพเร่งแก้ไขตามคำสั่ง เมื่อเวลา 13.30 น.( 22 พ.ย.59 ) นายวรรธนันท์ ยิ้มละม้าย อายุ 64 ปี ตัวแทนโรงแรมโกลเด้นคลิฟเฮ้าท์ เริ่มทุบสระว่ายน้ำเจ้าปัญหาหลังทางเมืองมีหนังสือคำสั่งห้ามใช้และให้รื้อถอนสระว่ายน้ำภายใน 15 วัน ซึ่งทางนายวรรธนันท์ได้ให้พนักงานโรงแรมใช้ฆ้อนปอนด์เริ่มทุบสระว่ายน้ำเท่าที่พอจะทำได้ เพื่อให้ทางเมืองพัทยา และสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 6 สาขาพัทยา รับทราบว่าทางโรงแรมโกลเด้นคลิฟเฮ้าท์เริ่มทำตามคำสั่งทางราชการ ก่อนจะหู้รับเหมานำเครื่องกลหนักเข้ามาทุบทำลายสระว่ายน้ำต่อในวันพฤหัสบดีที่จะถึง( 24 พ.ย.59 ) ซึ่งคาดว่าค่าจ้างกว่า 1 ล้านบาท  โดยนายวรรธนันท์ ยิ้มละม้ายในฐานะตัวแทนโรงแรมเปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า แต่ก่อนที่นี้เป็นบ้านพัก ก่อนเจ้าของจะสร้างอพาร์ทเม้นขึ้นมาประมาณปี 2538 หรือ 2539 พร้อมกับสระว่ายน้ำ จนมาปี 2550 เริ่มเช้ามาประกอบธุรกิจ และปี 2522 เริ่มมีกฎหมายเกี่ยวกับโรงแรมให้ขออนุญาตซึ่งทางผู้บริหารเก่าอาจละเลยในการยืนขออนุญาตประกอบธุรกิจประเภทโรงแรม ส่วนทางกระผมนั้นเข้ามาทำเองเต็มตัวประมาณปี 2551 โดยไม่ทราบว่าสระว่ายน้ำดังกล่าวสร้างรุกล้ำ ส่วนห้องเช่ายังเป็นการให้บริการแบบรายเดือน แต่ตอนที่ผมเข้ามาทำนั้นได้พยายามยืนขอประกอบธุรกิจประเภทโรงแรมโดยทางฝ่าบัญชีและการเงินเป็นฝ่ายดำเนินการเดินเรื่อง แต่ไม่สามารถดำเนินการขออนุญาประกอบธุรกิจประเภทโรงแรมได้โดยไม่ทราบสาเหตุจากนั้นจึงหยุดระงับเรื่องดังกล่าว จนปัจจุบันทางโรงแรมถูกดำเนินคดีตามกฏหมาย โดยทางผมนั้นยอมรับสภาพทุกอย่างทั้งเรื่องการทุบสระว่ายน้ำ เรื่องการห้ามใช้อาคารของ พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 ของเมืองพัทยา โดยผู้รับเหมาที่ว่าจ้างมารื้อถอนสระว่ายน้ำจะเข้าดำเนินการวันพฤหัสนี้ ( 24 พ.ย.59 ) ส่วนการรื้อสระว่ายน้ำจะได้สภาพเดิมนั้นหรือไม่ก็ต้องดูทางเมืองพัทยาจะให้เรารื้อขนาดไหน...

ท่าเรือแหลมฉบัง จัดกิจกรรมกล่าวคำปฏิญาณ “รวมพลังแห่งความภักดี เพื่อน้อมถวาย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9”

ภาพ/ข่าว อัมพร ท่าเรือแหลมฉบัง จัดกิจกรรมกล่าวคำปฏิญาณ “รวมพลังแห่งความภักดี เพื่อน้อมถวาย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9” พร้อมหน่วยงานอื่นๆ ทั่วประเทศ ขณะเดียวกันยังมีการแปรขบวนเป็นเลข ๙ ในวงกลมสีดำ เพื่อน้อมถวาย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 เมื่อเวลา 08.00 น. วันนี้ ( 22 พฤศจิกายน ) เรือโท ภูมิ แสงคำ รองผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง ได้เป็นประธานในการนำคณะผู้บริหารและพนักงานท่าเรือแหลมฉบัง ผู้ประกอบการ ผู้แทนชุมชนและประชาชนทั่วไปเกือบ 400 คน ร่วมกล่าวคำปฏิญาณ ในกิจกรรม “รวมพลังแห่งความภักดี เพื่อน้อมถวาย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9” ที่บริเวณเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ หน้าอาคารที่ทำการท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี กิจกรรมดังกล่าวเริ่มตั้งแต่การเคารพธงชาติ ในเวลา 08.00 น.ภายในกิจกรรมนอกจากจะมีการกล่าวคำปฏิญาณตนแล้ว ยังร่วมกันสำรวมจิตภาวนา (ยืนสงบนิ่ง) เป็นเวลา 89 วินาที และผู้ร่วมกันยังพร้อมใจกันแปรขบวนเป็นเลข ๙ ในวงกลมสีดำ ขณะที่วงดุริยางค์จากโรงเรียนเทศบาลบ้านศรีมหาราชา ร่วมบรรเลงเพลงในหลวงของแผ่นดิน เพลงของขวัญจากก่อนดิน เพลงต้นไม้ของพ่อ รวมทั้งเพลงพระราชนิพนธ์...

เมืองพัทยาร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบลพลูตาหลวง และศูนย์รับเลี้ยงสุนัขจรจัดพลูตาหลวง ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการแก้ไขเหตุเดือดร้อนรำคาญจากสุนัขจรจัด

  ภาพ/ข่าว ทีมข่าว เมืองพัทยาร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบลพลูตาหลวง และศูนย์รับเลี้ยงสุนัขจรจัดพลูตาหลวง ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการแก้ไขเหตุเดือดร้อนรำคาญจากสุนัขจรจัด เมื่อช่วงเช้าของวันที่23พฤศจิกายน2559 นายชนัฐพงศ์ ศรีวิเศษ ปลัดเมืองพัทยา ปฏิบัติหน้าที่นายกเมืองพัทยา พร้อมด้วยพ.จ.อ.วิษณุ โตสมบัติ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลพลูตาหลวง และนายสุรพล สงวนชาติศรไกร ศูนย์รับเลี้ยงสุนัขจรจัดพลูตาหลวง ได้ร่วมลงนามลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการแก้ไขเหตุเดือดร้อนรำคาญจากสุนัขจรจัด ณ ห้องประชุม 132 ศาลาว่าเมืองพัทยา

เทศบาลหนองปลาไหลแจง กรณีชาวบ้านหมู่ 4 หนองปลาไหล ชุมชนเอสอาร์บ้านล่าง ช่วยกันทำถนน แจงไม่ได้ทอดทิ้งประชาชน

        จากที่มีการนำเสนอ สกู๊ปข่าว ชุมชนที่ถูกลืม ซึ่งเป็นเสียงชาวบ้านได้กล่าวกับทางผู้สื่อข่าว และช่วยกันทำถนนกันเองในหมู่บ้าน ชุมชน เอสอาร์-บ้านล่าง หมู่ที่ 4 หนองปลาไหล นั้น ในเรื่องนี้ทางเทศบาลตำบลหนองปลาไหล ได้ทำหนังสือออกมาชี้แจงเมื่อวันที่ 21 พ.ย. 2559 เพื่อให้ประชาชน ทราบว่า ทางเทศบาลตำบลหนองปลาไหล ขอชี้แจงว่า ได้ดำเนินการปรับปรุงซ่อมแซมถนนในชุมชนมาโดยตลอด แต่เนื่องจากชุมชนเอสอาร์-บ้านล่าง เป็นพื้นที่หมู่บ้านเกิดจากการจัดสรรที่ดินเปล่าของเอกชน เพื่อขายให้กับประชาชนโดยมิได้ดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมายว่า การจัดสรรมานานกว่า 10 ปีแล้ว และไม่ดำเนินการให้ระบบสาธารณูปโภค ทั้งถนน ไฟฟ้า ประปา ระบบระบายนำแต่อย่างใด ทำให้มีผู้ซื้อที่ดินว่างเปล่าปลุกบ้านเพื่อพักอาศัยเดือดร้อน ไม่มีถนนที่ดี ไม่มีบริการไฟฟ้า น้ำประปา ตามกฎหมายว่าด้วยการจัดสรรฯ แต่อย่างไรก็ดี เทศบาลตำบลหนองปลาไหล มิได้นิ่งนอนใจปล่อยทิ้งประชาชน หรือให้ประชาชนดิ้นรนแก้ปัญหาโดยลำพัง โดยได้ดำเนินการขยายเขตไฟฟ้าในชุมชนแล้วบางส่วน ก่อสร้างถนนเข้าชุมชนแล้ว 2 โครงการและปรับปรุงซ่อมแซมถนนลูกรังเป็นประจำทุกปี พร้อมทั้งประสานงานจัดหางบประมาณ มาดำเนินการแก้ไขปัญหาสาธารณูปโภค ซึ่งขณะนี้รอการจัดสรรงบประมาณจากส่วนกลาง จึงเรียนมาให้ทราบ นายพะเยาว์ ช่างไม้ รองนายกเทศมนตรี ปฎิบัติราชการแทน นายกเทศมนตรีตำบลหนองปลาไหล  

มูลนิธิคุณพ่อเรย์ร่วมกับผู้สนับสนุน แถลงข่าวโครงการรณรงค์รับบริจาคข้าวเพื่อเลี้ยงดูผู้ถูกทอดทิ้งปีละครั้งหรือ S.O.S. Rice

    ภาพ/ข่าว วสุพล มูลนิธิคุณพ่อเรย์ร่วมกับผู้สนับสนุน แถลงข่าวโครงการรณรงค์รับบริจาคข้าวเพื่อเลี้ยงดูผู้ถูกทอดทิ้งปีละครั้งหรือ S.O.S. Rice ที่อาคาร ล๊อบบี้ ศูนย์คณะพระมหาไถ่ พัทยา ได้แถลงข่าวโครงการรณรงค์รับบริจาคข้าวเพื่อเลี้ยงดูผู้ถูกทอดทิ้งปีละครั้งหรือ S.O.S. Rice (กองทุนข้าว) โดยมีคณะผู้จัดกองทุนและตัวแทนผู้สนับสนุนโครงการได้เข้าร่วมการแถลงข่าว อาทิ นาย สุรัตน์ เมฆะวรากุล ประธานโครงการฯ , นาย รัตนชัย สุทธิเดชานัย อดีตสมาชิกสภาเมืองพัทยา , บาทหลวง ดร.พิชาญ ใจเสรี รองประธานมูลนิธิคุณพ่อเรย์ โดย ในปีนี้ โครงการ S.O.S. Rice หรือ กองทุนข้าว 2016 จะรับบริจาคเริ่มตั้งแต่ วันที่ 2-5 ธันวาคม 2559 ซึ่งจะมีการตั้งจุดรับบริจาคตามสถานที่ต่างๆในเมืองพัทยา อาทิเช่น ห้างสรรพสินค้าเทสโกโลตัส , บิ๊กซี , แมคโค, เฟรนชิฟ, ท๊อป, วิลล่ามาร์เก็ต, ฟู๊ดแลนด์, เซ็นทรัล, เซเว่นอีเลเว่น และตลาดนัด รวมทั้งที่สำนักงานต้อนรับและรับบริจาคของมูลนิธิคุณพ่อเรย์ และท่านที่สนใจโครงการสามารถติดต่อสอบถามได้ที่มูลนิธิคุณพ่อเรย์หรือที่เบอร์โทร...

ทหารลุยจัดระเบียบสองแถว-แท็กซี่จอดกีดขวางจราจรหน้าวอล์กกิ้งสตรีท หลังเกิดเหตุทะเลาะวิวาทกัน

    ภาพ/ข่าว อัมพร ทหารลุยจัดระเบียบสองแถว-แท็กซี่จอดกีดขวางจราจรหน้าวอล์กกิ้งสตรีท หลังเกิดเหตุทะเลาะวิวาทกัน เมื่อเวลา 23.30 น. วันที่ 23 พ.ย.59 ร.ท.สันนิบาล แสนดี ผบ.หมวด รักษาความสงบ อ.บางละมุง สังกัดกองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ฯ ได้รับการร้องเรียนว่าที่ถนนเลียบชายหาดเมืองพัทยา บริเวณทางโค้งหน้าวอล์กกิ้งสตรีท พัทยาใต้ มีรถสองแถว-แท็กซี่จอดรอรับลูกค้ากีดขวางการจราจรทำให้รถชาวบ้านที่สัญจรผ่านไปมาได้รับความเดือดร้อน โดยไม่มีหน่วยงานเกี่ยวข้องเอามาจัดระเบียบอย่างจริงจัง จากการเดินทางไปตรวจสอบพบว่าถนนเลนช่องซ้ายมีรถสองแถวจอดเรียงรายจำนวนหลายคันกีดขวางจราจรจริง เจ้าหน้าที่ทหารจึงทำการไล่รถสองแถวเพื่อระบายการจราจรเพื่อประชาชนได้รับความสะดวก พร้อมกับนำกรวยยางที่ตั้งอยู่กลางถนนไว้กั้นเลนให้สำหรับจอดรถสองแถวออก ซึ่งไร้เงาเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรที่คอยดูแลรับผิดชอบงานจราจรโดยตรงเข้ามาดูแล ต่อมาได้ประสานเจ้าหน้าที่ สภ.เมืองพัทยา มาร่วมจัดระเบียบด้วย นอกจากนี้ยังพบป้ายห้ามจอดระบุเวลาตั้งแต่ 19.00 น. - 03.00 น. โดยมีแผงเหล็กฆ้องโซ่ล็อกไว้อย่างแน่หนาติดป้ายระไวนิลเขียนข้อความเฉพาะรถแท็กซี่จอดส่งลูกค้าชั่วคราว จากการสอบถามชาวบ้านละแวกดังกล่าว ทราบว่าบริเวณดังกล่าวมักจะมีรถแท็กซี่จอดอยู่เป็นประจำสร้างความงุนงงเป็นอย่างมาก ว่ากลุ่มรถแท็กซี่ที่มาจอดรับส่งลูกค้าได้รับอนุญาตจาก สภ.เมืองพัทยาจริงหรือไม่ จึงได้มาจอดอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมายและนำป้ายมาตั้งทั้งที่มีการตีเส้นขาวแดง และป้ายห้ามจอดอย่างชัดเจน โดยชาวบ้านและนักท่องเที่ยวที่ขับรถผ่านบริเวณดังกล่าวไม่ได้รับความสะดวก อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ทหารจะต้องเรียกหน่วยงานเกี่ยวข้องโดยตรงมาร่วมประชุมปรึกษาหารืออีกครั้ง ร.ท.สันนิบาล กล่าวว่า หลังจากที่มีข่าวว่ากลุ่มคุมรถสหกรณ์สองแถวพัทยา และกลุ่มคิวรถสหกรณ์แท็กซี่พัฒนาบ่อทอง ได้มีปัญหาวิวาทกัน และอาจจะทำให้เกิดการเรื้อรัง จึงได้มาทำการตรวจสอบพร้อมกับการจัดระเบียบเพื่อจัดระเบียบจุดจอดรถและรับส่งนักท่องเที่ยวให้เป็นระเบียบเรียบเรียบร้อยให้สมฐานะเมืองท่องเที่ยวระดับอย่างเมืองพัทยา

สืบภาค 2 บุกจับหวยยี่กีหลังรับแจ้งมีเปิดเกลื่อนเมืองพัทยา ขณะจับกุมพยายามติดสินบนเจ้าหน้าที่เพื่อปล่อยตัว

ภาพ/ข่าว อัมพร สืบภาค 2 บุกจับหวยยี่กีหลังรับแจ้งมีเปิดเกลื่อนเมืองพัทยา ขณะจับกุมพยายามติดสินบนเจ้าหน้าที่เพื่อปล่อยตัว เมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 23 พ.ย. 59 พ.ต.อ.ชาตรี สุขศิริ ผกก.สืบสวน1 บก.สส.ภ.2 .พ.ต.ท.เฉลิมศักดิ์ เถียรทองศรี รอง ผกก.ฯ พ.ต.ท.นราวุธ การามหิโต สว.ฯ ร.ต.อ.ชนกานต์ ณ นคร สว.ฯ ร.ต.อ.จตุภูมิ ลิ้มสิริวัฒนกุล รอง สว.ฯ พร้อมกำลัง ร่วมกันจับกุมนายวีระพงษ์ กันทะพงษ์ อายุ 40 ปี น.ส.วลัย ยันครุ อายุ27 ปี นายกรกช ทองธัญญะ อายุ19 ปี และนานอเล็กซ์ ยูรีช อายุ 24 ปี ที่บ้านเลขที่ 333/243 ม.10 ต.หนองปรือ อ.บางบะมุง จ. ชลบุรี พร้อมด้วยของกลาง เงินสดจำนวน 2,870...

หนุ่มใหญ่เมืองผู้ดีถูกเจ้าของบาร์เบียร์ชกหน้าแตกเหตุขอให้เพิ่มเสียงดนตรีในบาร์

  หนุ่มใหญ่เมืองผู้ดีถูกเจ้าของบาร์เบียร์ชกหน้าแตกเหตุขอให้เพิ่มเสียงดนตรีในบาร์ เมื่อช่วงดึกวันที่ 23 พ.ย.59 เจ้าหน้าที่กิจการพิเศษเมืองพัทยา รับแจ้งเหตุนักท่องเที่ยวถูกทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดภายในมิสเตอร์บีบาร์เบียร์ ถนนเลียบชายหาดพัทยา ม.10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงประสานเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยารุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุภายในบาร์เกิดเหตุพบนายนิโครัส พอลทัล อายุ 55 ปี สัญชาติอังกฤษ ได้รับบาดเจ็บที่บนใบหน้า ใต้ตาขวา ได้รับบาดเจ็บมีเลือดไหล โดยมีน.ส.พิมพ์ประภา บรรณเทาทึก อายุ 36 ปี แฟนสาวชาวไทยยืนประคองดวงความห่วงใย เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯจึงทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนนักท่องเที่ยวจะเดินทางไปโรงพยาบาลเอง และจะเข้าแจ้งความร้องทุกข์ในภายหลัง สอบถามน.ส.พิมพ์ประภา (แฟนสาว) ทราบว่าสาเหตุที่นายนิโครัส ถูกทำร้ายเนื่องจากนายนิโครัส ขอให้ทางร้านเพิ่มเสียงเพลงให้ดังขึ้นแต่ทางเจ้าของร้านไม่อนุญาต ทำให้นายนิโครัส ไม่พอใจจึงโวยวายขึ้น จนทำให้เจ้าของร้านไม่พอใจจึงเกิดการโต้เถียงก่อนจะเข้ามาชกจนได้รับบาดเจ็บ ด้านทางเจ้าของร้านให้การว่าผู้บาดเจ็บขอให้ทางร้านเพิ่มเสียงเพลงจริงแต่ทางร้านไม่ได้เปิดให้ ผู้บาดเจ็บจึงโวยวายขึ้น ซึ่งในขณะนั้นมีลูกค้าใช้บริการเป็นจำนวนมาก ตนเองจึงเกิดความไม่พอใจจึงต่อว่าแต่ผู้บาดเจ็บได้ปรี่เข้ามาหาตนเอง ตนเองจึงต่อยเข้าที่ใบหน้าจนได้รับบาดเจ็บดังกล่าว..

โรงเรียนเมืองพัทยา 7 บ้านหนองพังแค จัดกิจกรรมอบรมนักพูดนักเขียนน้อยร้อยเรียงสำเนียงเสนาะ

    ภาพ/ข่าว วสุพล โรงเรียนเมืองพัทยา 7 บ้านหนองพังแค จัดกิจกรรมอบรมนักพูดนักเขียนน้อยร้อยเรียงสำเนียงเสนาะ  ที่ห้องจามจุรี โรงเรียนเมืองพัทยา 7 บ้านหนองพังแค นางสาว ไพชิต เจตะภัย ประธานกรรมการสมาคม Y.W.C.A กรุงเทพฯ-ศูนย์พัทยา เป็นประธานกล่าวเปิดกิจกรรมอบรมนักพูดและนักเขียนน้อยร้อยเรียงสำเนียงเสนาะ ตามโครงการ พัฒนากลุ่มสาระการเรียนรู้ และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนของโรงเรียนเมืองพัทยา 7 บ้านหนองพังแค ซึ่งมีผู้บริหารคณะครูนำโดยนางผกาพันธ์ วีระสิงห์ รองผู้อำนวยการสถานศึกษา รักษาการแทนผู้อำนวยการสถานศึกษาโรงเรียนเมืองพัทยา 7 บ้านหนองพังแค พร้อมด้วยเด็กนักเรียนในระดับประถมศึกษาปีที่ 5 ถึงมัธยมศึกษามัธยมศึกษาปีที่ 3 เข้าร่วมการอบรมกว่า 30 คน  โดยการจัดอบรมในครั้งนี้เป็นการเพิ่มพูนประสิทธิภาพในการใช้ภาษาไทยของผู้เรียนรู้รวมทั้งยกระดับมาตรฐานการเรียนรู้ภาษาไทยในสถานศึกษาให้มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น พร้อมยังเป็นการส่งเสริมให้ผู้เรียนไห้มีการพัฒนาด้านทักษะการพูดและการเขียน การแสดงออกอย่างสร้างสรรค์ กระตุ้นการปลูกจิตสำนึกของนักเรียนให้ตระหนักถึงความสำคัญของภาษาไทย และส่งเสริมให้ผู้เรียนได้คิดวิเคราะห์สู่เด็กไทย 4.0