กอ.รมน.ชลบุรี ประชุมเตรียมความพร้อมการจัดทำโครงการ พัฒนาเครือข่ายมวลชนเฝ้าระวัง การก่อการร้ายและอาชญากรรมข้ามชาติ

ภาพ สุพรรณี  ข่าว วาสนา กอ.รมน.ชลบุรี ประชุมเตรียมความพร้อมการจัดทำโครงการ พัฒนาเครือข่ายมวลชนเฝ้าระวัง การก่อการร้ายและอาชญากรรมข้ามชาติ  ที่ห้องประชุม 242 ศาลาว่าการเมืองพัทยา พลโท องอาจ ชวาลวิวัฒน์ รองผอ.ศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 3 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ( กอ.รมน.) เป็นประธานในการประชุมเพื่อเตรียมความพร้อมการจัดทำโครงการสร้างการเรียนรู้ พัฒนาเครือข่ายมวลชนเฝ้าระวัง ติดตาม ตรวจสอบสถานการณ์ด้านการก่อการร้ายและอาชญากรรมข้ามชาติ โดยมี ผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง ตำรวจ ทหาร ข้าราชการพล เรือน และตัวแทนจากเมืองพัทยา เข้าร่วม ประชุม  สำรับการประชุมในครั้งนี้ก็เพื่อเตรียมความพร้อมทั้งในส่วนของการมอบหมายภารกิจหน้าที่รับผิดชอบในการดำเนินการให้กับส่วนที่เกี่ยวข้องได้เข้าใจรายละเอียดขั้นตอนการดำเนินการตลอดทั้งการจัดเตรียมสถานที่ซึ่งกำหนดใช้สถานที่จัดการอบรมที่ศาลาว่าการเมืองพัทยา ซึ่งทาง กอ.รมน.มอบหมายภารกิจในส่วนนี้ให้เมืองพัทยาดำเนินการ ขณะที่ในส่วนของการเชิญผู้เข้าร่วมอบรมซึ่งประกอบด้วย ประชาชน ผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมที่พักและแหล่งท่องเที่ยว ส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ ในพื้นที่ คณะทำงานได้ดำเนินการการทำหนังสือเชิญแล้วนอกจากในนั้นในการอบรมครั้งยังมี คณะผู้สังเกตการณ์จาก กอ.รมน.ภาค 1-4 เข้าร่วมด้วย  สำหรับกิจกรรมในโครงการนี้ จะประกอบด้วย ภาคเช้าการรับฟังการบรรยาย เรื่องการก่อการร้ายและอาชญากรรมข้ามชาติในประเทศไทย รวมถึงการก่อการร้ายและอาชญากรรมข้ามชาติในพื้นที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ส่วนภาคบ่ายจะเป็นบรรยายเรื่องกฎหมายที่ควรทราบเกี่ยวกับการจัดที่พักโรงแรมและอาคารชุด ก่อนจะมีการเปิดเวทีเสวนาการป้องกันการการก่อการร้ายและอาชญากรรมข้ามชาติ โดยคณะวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิทั้งจากฝ่ายทหาร ตำรวจ หัวหน้าส่วนราชการ ผู้ประกอบการที่จะมาถ่ายทอดความรู้ให้กับผู้เข้ารับการอบรม ได้มีความรู้ความเข้าใจรู้เท่าทันเกี่ยวกับสถานการณ์การก่อเหตุการณ์ก่ออาชญากรรมข้ามชาติ เพื่อให้ประชาชน และผู้ประกอบการสามารถเป็นหูเป็นตาช่วยดุแลสังเกตการณ์สิ่งผิดปกติต่างๆเพื่อแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทหารตำรวจเข้ามาตรวจสอบทันที ซึ่งถือเป็นการบูรณาการร่วมเมืองกันในการป้องกันปัญหาร่วมกันโดยมี...

ทุกหน่วยงานเห็นชอบตรงกันที่ให้ทางเมืองพัทยายึดหลักจับปรับจริงกรณีหาบเร่แผงลอยในอัตราสูงสุด 2,000 บาท เพื่อผลประโยชน์ของส่วนรวม มากกว่าคำนึงถึงผลประโยชน์ส่วนตน

   ภาพ/ข่าว สุพรรณี ทุกหน่วยงานเห็นชอบตรงกันที่ให้ทางเมืองพัทยายึดหลักจับปรับจริงกรณีหาบเร่แผงลอยในอัตราสูงสุด 2,000 บาท เพื่อผลประโยชน์ของส่วนรวม มากกว่าคำนึงถึงผลประโยชน์ส่วนตน ที่ศาลาว่าการเมืองพัทยา นาย ชนัฐพงศ์ ศรีวิเศษ ปลัดเมืองพัทยาปฏิบัติหน้าที่นายกเมืองพัทยาเป็นประธานประชุมคณะกรรมการกำกับดูแลความเป็นระเบียบเรียบร้อยของชายหาดเมืองพัทยา ครั้งที่ 4 พร้อมด้วย นาย ชาคร กัญจนวัตตะ นายอำเภอบางละมุงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียงเกี่ยวกับการพิจารณาข้อเสนอ ผู้ชุมนุมที่กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม ที่ผ่านมา ได้มีกลุ่มพ่อค้าแม่ค้ากลุ่มที่เคยได้ยื่นข้อเรียกร้องเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม ให้ทางเจ้าหน้าที่ช่วยผ่อนปรนการจับกุมและเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการให้ความช่วยเหลือตามข้อเรียกร้องต่างๆแต่ทางที่ประชุมคณะกรรมการกำกับดูแลความเป็นระเบียบเรียบร้อยของชายหาดเมืองพัทยาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีข้อสรุปร่วมกันแล้วว่าทุกข้อที่ทางกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าเรียกร้องมานั้นขัดแย้งกับข้อกฎหมายต่างๆจึงเห็นควรให้ยึดระเบียบปฏิบัติตามกฎหมายหรือข้อบังคับที่ได้มีการกำหนดไปแล้วก่อนหน้านี้ต่อไป ซึ่งจากประเด็นดังกล่าวจึงสร้างความไม่พอใจให้กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าจึงได้มารวมกันอีกครั้งประมาณ 200 คน โดยมีการปิดถนนและกดดันในการติดตามทวงถามคำตอบจากเมืองพัทยาอีกครั้ง โดยมีการเรียกร้องสิทธิไว้ 10 ข้อ คือ ขอให้ขายเป็นเวลาได้ ขอให้มีการจัดขายโดยมีวันหยุด ขอให้จำกัดจำนวนรถที่มาขาย ขอให้จำกัดจำนวนรถที่มาขาย ขอให้มีการจับกุมชาวต่างชาติ ขอให้มีการปรับจำนวน 300 บาท ขอให้มีการขึ้นทะเบียนถูกกฎหมาย การจับกุม 1 ครั้งให้ขายได้ 1 เดือน หากรถเคลื่อนที่ต้องไม่จับกุม และ10. เมื่อมีการหลบหนีอย่าปิดซอยจับ ทั้งนี้จากการประชุมพิจารณาร่วมกันในครั้งนี้เกี่ยวกับข้อเรียกร้องทั้ง 10 ข้อ ของผู้ชุมนุม ทางนายชนัฐพงศ์ ปลัดเมืองพัทยาปฏิบัติหน้าที่นายกเมืองพัทยา กล่าวว่า เมืองพัทยาต้องเป็นเมืองที่มีกฎระเบียบและมีความเรียบร้อยไว้ยึดปฏิบัติ รวมทั้งต้องมองถึงภาพลักษณ์การท่องเที่ยวเป็นสิ่งสำคัญ ทุกอย่างควรต้องทำอย่างมีรูปธรรมและทำตามข้อตกลงที่ถูกต้องของเสียงส่วนใหญ่ซึ่งเสียงส่วนใหญ่ในที่ประชุมยังยืนไม่เห็นชอบทุกกรณีตามข้อเรียกร้องทั้ง 10 ข้อที่ทางกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าได้เรียกร้องมาเพราะถือว่าทุกข้อเป็นการเห็นต่อประโยชน์ส่วนตัวมากกว่าประโยชน์ส่วนรวมและที่สำคัญผิดกฎหมายตาม พรบ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง ส่วน นายชาคร นายอำเภอบางละมุง กล่าวถึง การเตรียมความพร้อมในวันที่ 19...

ชุมชนบ้านเอื้ออาทร ร่วมกับเทศบาลเมืองหนองปรือจัดประชาคมพิจารณาการก่อสร้างร้านสะดวกซื้อภายในบริเวณโครงการบ้านเอื้ออาทร นาเกลือ

    ชุมชนบ้านเอื้ออาทร ร่วมกับเทศบาลเมืองหนองปรือจัดประชาคมพิจารณาการก่อสร้างร้านสะดวกซื้อภายในบริเวณโครงการบ้านเอื้ออาทร นาเกลือ  เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 15 สิงหาคม 2559 ที่ลานกิจกรรมชุมชนบ้านเอื้ออาทร นาเกลือ ทาง นาย นิยม เที่ยงธรรม รองนายกเทศมนตรีเมืองหนองปรือ เป็นประธานเปิดการประชาคมพิจารณาเรื่องการก่อสร้างร้านสะดวกซื้อภายในโครงการบ้านเอื้ออาทร ของการเคหะแห่งชาติ ซึ่งมีผู้นำท้องถิ่น คณะสมาชิกสภาเทศบาลเมืองหนองปรือเขต 1 นิติบุคคลโครงการบ้านเอื้ออาทร ทหาร ผู้นำชุมชน และลูกบ้านกว่า 200 คนเข้าร่วมฟังการประชาคม อาทิ นาย สมชาย ฉิมวิเศษ รองประธานสภาเทศบาลเมืองหนองปรือ นายจักรกริช พิจารวัต ประธานนิติบุคคลอาคารชุดบ้านเอื้ออาทร นาเกลือ จ่าสิบเอกจรัญ ขุนพลพิทักษ์ ชุด ชบ.ร.21 พัน 2 รอ.  การประชาคมครั้งนี้สืบเนื่องจากที่ทางการเคหะแห่งชาติ มีโครงการที่จะให้พื้นในการเช่าและก่อสร้างร้านสะดวกซื้อรายใหญ่ รายหนึ่ง เพื่อจะเป็นรายได้ของการเคหะแห่งชาติ และจรายได้ในส่วนนี้นำไปพัฒนาโครงการต่างๆต่อไป โดยจะใช้ในส่วนของพื้นที่โดมลานกิจกรรมของทางชุมชนบ้านเอื้ออาทร นาเกลือ เป็นสถานที่ก่อสร้าง ซึ่งทางชุมชนและลูกบ้านของทางบ้านเอื้ออาทร เกรงว่าการก่อสร้างร้านสะดวกซื้อ เมื่อแล้วเสร็จจะมีปัญหามากกว่าเป็นประโยชน์ต่อผู้อยู่อาศัยในโครงการบ้านเอื้ออาทรมากกว่า จึงมีการจัดการประชาคมขึ้น เพื่อแสดงความคิดเห็นในผลกระทบทั้งในด้านความเจริญและผลกระทบในด้านการเกิดปัญหาต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นภายในโครงการฯ อาทิ การเกิดปัญหารถติดเพิ่มมากขึ้น ปัจจุบันทางโครงการก็มีปัญหานี้อยู่แล้ว ปัญหาเรื่องมลภาวะต่างๆที่จะเกิดขึ้นในระหว่างก่อสร้าง...

เทศบาลเมืองหนองปรือจัดอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับระเบียบ กฎหมายเทศบาลให้กับพนักงานและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเพื่อพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพในการงานให้ดียิ่งขึ้น

    ภาพ/ข่าว วสุพล เทศบาลเมืองหนองปรือจัดอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับระเบียบ กฎหมายเทศบาลให้กับพนักงานและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเพื่อพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพในการงานให้ดียิ่งขึ้น ที่ห้องบรรยายสรุป ชั้น 5 สำนักงานเทศบาลเมืองหนองปรือ นาง อัญมณี คำจันทร์ รองปลัดเทศบาลเมืองหนองปรือ กล่าวรายงานและวัตถุประสงค์การจัดโครงการอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับระเบียบ กฎหมายของเทศบาล โดยได้รับเกียรติจาก นาย นิยม เที่ยงธรรม รองนายกเทศมนตรีเมืองหนองปรือ เป็นประธานเปิดโครงการ ซึ่งมีคณะผู้บริหาร หัวหน้าหน่วยงาน พนักงานและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าอบรมกว่า 70 คน  สำหรับการอบรมครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อให้ผู้เข้าร่วมการอบรมสามารถปฏิบัติงานด้านสารบรรณได้อย่างถูกต้อง และสามารถนำความรู้ที่ได้รับไปใช้ได้อย่างถูกต้องเหมาะสมเพื่อพัฒนาทักษะในงานสารบรรณ และเข้าใจในระเบียบข้อกฎหมายของเทศบาล ซึ่งจะถือว่าเป็นประโยชน์ต่อการทำงานของเทศบาลต่อไป โดยได้รับเกียรติจาก อาจารย์ลิขิต ลิ้มรสรวย ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมภูมิปัญญาเพื่อสังคม และ อาจารย์ ณริศ ศรศรีวิวัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมายสถาบันส่งเสริมภูมิปัญญาเพื่อสังคม และทนายอิสระ มาเป็นวิทยากรให้ความรู้แก่ผู้เข้าร่วมอบรมครั้งนี้

ตร.ทางหลวงร่วม ตร.ท่องเที่ยวตั้งด่านตรวจ เพิ่มความมั่นใจให้ประชาวชน

    ภาพ/ข่าว อัมพร ตร.ทางหลวงร่วม ตร.ท่องเที่ยวตั้งด่านตรวจ เพิ่มความมั่นใจให้ประชาวชน ช่วงค่ำคืนวันที่ 15 สิงหาคม 2559 พ.ต.อ.ลือชัย นนท์ปฏิมากุล ผกก.บก.3.ทล ภจว.ชลบุรี ร่วมกับ พ.ต.ต.ปิยะพงษ์ เอนสาร สว.ส.ทท.4 กก.2 บก.ทท. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงชลบุรี ระยอง และเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว และเจ้าหน้าที่อาสาทางหลวง สนธิกำลังกว่า 100 นาย ปล่อยแถวตั้งด่านตรวจค้นป้องกันปราบปราม บนถนนสายหลักทั้งขาเข้าและขาออกเมืองพัทยา ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แบ่งกำลังเป็นสองชุด ตั้งด่านทั้งขาเข้าและขาออกเมืองพัทยา จุดแรกบริเวณหน้าตลาดน้ำสี่ภาค และจุดที่สองหน้าวัดจิตภาวัน ซึ่งจะทำการตรวจค้นรถยนต์และรถจักรยานยนต์ เพื่อป้องกันการลักลอบค้นอาวุธ ยาเสพติด และวัตถุตั้งต้นที่สามารถนำมาผลิตวัตถุระเบิดได้ ร่วมทั่งตรวจสอบประวัติบุคคลกลุ่มเสี่ยงผ่านแอพพลิเคชั่นตรวจสอบหมายจับจากฐานข้อมูล ccoc ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ทันสมัย รวดเร็ว และง่ายต่อการตรวจสอบบุคคลกลุ่มเสียงต้องสงสัย หากผู้ใดเคยกระทำผิดและมีหมายจับจะแสดงผลผ่านหน้าจอโทรศัพท์เคลื่อนที่ทันที ทางเจ้าหน้าที่ก็ควบคุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป พ.ต.อ.ลือชัยนนท์ กล่าวว่า ในการตั้งด่านครั้งนี้เนื่องจากมีเหตุการณ์ไม่สงบ มีเหตุระเบิดเกิดขึ้นหลายพื้นที่ จึงได้สนธิกำลังจากหลายหน่วยงานและหลายท้องที่ร่วมกันป้องกันเหตุการณ์ไม่สงบจะลุกลามมายังเมืองท่องเที่ยวหลักของจังหวัดชลบุรี รวมทั้งยังเป็นการป้องปรามกวาดล้างอาชญากรรมทุกรูปแบบ และเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวที่อยู่ในพื้นที่เมืองพัทยาอีกด้วย

ปกครองลุยตรวจร้านคาราโอเกะพัทยา เจอสาวมีปัสสาสะสีม่วง 10 ราย

ภาพ/ข่าว อัมพร ปกครองลุยตรวจร้านคาราโอเกะพัทยา เจอสาวมีปัสสาสะสีม่วง 10 ราย  เมื่อเวลา 03.00 น.วันที่ 16 ส.ค.59 นายชาคร กัญจนวัตตะ นายอำเภอบางละมุง จ.ชลบุรี พร้อมด้วย เรืออากาศโท ภรศิษฐ์ จิตรามวงศ์ ปลัดอำเภอฝ่ายป้องกันปราบปราม นำกำลังฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ทหารจากพัน 21 ร.2.รอ. และ ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ได้ร่วมกันเข้าตรวจสอบคาราโอเกะจำนวน 2 ร้าน ตั้งอยู่ภายในซอยเทพสิทธิ์ 8 ม.10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังได้รับการร้องเรียนว่ามีการลักลอบค้าประเวณีและมั่วสุมยาเสพติด จากการตรวจสอบร้านรู้ใจ คาราโอเกะ สามารถควบคุมตัวสาวพนักงานร้านไว้ได้ 9 คน และพนักงานชาย 1 คน รวมทั้งสิ้น 10 คน ส่วนร้านลั้ลลา คาราโอเกะ ซึ่งเปิดติดเยื้องกับร้านแรก พบสาวพนักงานร้านจำนวน 7 คน เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจปัสสาวะ พบสาวพนักงานร้านมีสารเสพติดในร่างกายจำนวน 10 คน นอกจากนี้ยังได้ตรวจค้นห้องพักพนักงานพบอุปกรณ์การเสพยาไอซ์จำนวนมาก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน  ทั้งนี้ ระหว่างเจ้าหน้าที่ปูพรมตรวจค้นห้องพัก ปรากฏว่าไฟดับทั้งตึก...

รถพ่วงบริษัท SCG เสยท้าย 18 ล้อขนเกลือ ไฟลุกคอกดับคาซาก

    ภาพ/ข่าว  อัมพร รถพ่วงบริษัท SCG เสยท้าย 18 ล้อขนเกลือ ไฟลุกคอกดับคาซาก เมื่อเวลา 04.30 น.วันที่ 16 ส.ค.59 พ.ต.ท.วินัย โห้เหรียญ สว.(สอบสวน) สภ.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุรถพ่วง 18 ล้อชนท้ายรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ เกิดเพลิงลุกไหม้ มีผู้ติดอยู่ภายใน เหตุเกิดบนถนนหลวงหมายเลข 36 ฝั่งขาเข้าระยอง ม.6 ต.โป่ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงนำกำลังเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยาและเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลหนองปรือและเทศบาลโป่งรีบรุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุพบรถพ่วงบริษัทเอสซีจี หมายเลขทะเบียนสวนหัว71-8870 ชลบุรี หมายเลขส่วนหาง 71-3738 ชลบุรี ชนเข้าที่ด้านท้ายรถพ่วงบรรทุก 18 ล้อบรรทุกเกลือ หมายเลขส่วนหัว 85-41180 ชลบุรี หมายเลขส่วนหาง 85-6400 ชลบุรี ได้รับความเสียหายยับเยิน จอดขวางถนนทั้ง 3 เลน จนไม่สามารถสัญจรไปมาได้ ทำให้รถติดยาวกว่า 3 กิโลเมตร จนเกิดเพลิงลุกไหม้อย่างรุนแรง เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯใช้รถน้ำ 3...

กลิ่นหอม ละมุน เสน่ห์ของ Cream Café ที่คุณต้องมาลิ้มลอง

      กลิ่นหอม ละมุน เสน่ห์ของ Cream Café  ที่คุณต้องมาลิ้มลอง กลิ่นหอมหวานของเนย ได้ตลบอบอวนไปทั่ว Cream Café  โซนเปิดใหม่ของทางโรงแรม เอวันเดอะ รอยัล คลูซ พัทยา ที่พร้อมให้สาวกคาเฟ่มาสัมผัสความอร่อยของเบเกอรี่ที่นี้ ด้วยความเป็นต้นตำรับเบเกอรี่ของฝรั่งเศส เกรดระดับพรีเมี่ยม แต่ราคาสามารถเข้าถึง ไม่แพง และไม่ต้องบินไปชิมไกลถึงฝรั่งเศส แค่ขับรถชิวๆไปนั่งดื่มชิม ที่ Cream Café  ก็ต้องร้องเป็นภาษาฝรั่งเศสว่า  délicieux แปลว่า อร่อย ความลงตัวและเสน่ห์ของเบเกอรี่ของที่นี้คือ ความเป็นต้นตำรับของฝรั่งเศส ประเทศที่ขึ้นชื่อในเรื่องของเบเกอรี่และนานาขนมหวาน ที่ได้เซฟมากประสบการณ์อย่าง เซฟต้น หรือ คุณ อภิพงษ์ แย้มประยูร  มาเป็นเซฟที่จะรังสรรค์เมนูขนมนานาชนิดให้กับ Cream Café คุณ มานะชาติ ไพรอนันต์ ฝ่ายประชาสัมพันธ์โรงแรม เอวันเดอะ รอยัล คลูซ พัทยา เผยกับทีมงาน 100 ร้านจานเด็ดว่า Cream Café  แห่งนี้เกิดขึ้นจากความตั้งใจของผู้บริหารทางโรงแรมที่ต้องหารเปิดเอาใจสาวกคาเฟ่ ที่จะได้รับประทานขนมเบเกอรี่ที่อร่อยและไม่แพง อีกทั้งด้วยความชื่นชอบการทำขนมของทางผู้บริหารแล้ว จึงทำให้เข้าใจว่านักชิมต้องการเบอเกอรี่แบบไหน...

ดาบตำรวจ สภ.เสม็ดปฏิบัติหน้าที่ดับคาเครื่องวิทยุ หลังควงเวรแทนเพื่อนที่ออกไปป้องกันเหตุที่พัทยา เป็นไอดอลของตำรวจวิทยุสามารถประสานงานจับกุมคนร้ายได้มากมาย

    ดาบตำรวจ สภ.เสม็ดปฏิบัติหน้าที่ดับคาเครื่องวิทยุ หลังควงเวรแทนเพื่อนที่ออกไปป้องกันเหตุที่พัทยา เป็นไอดอลของตำรวจวิทยุสามารถประสานงานจับกุมคนร้ายได้มากมาย เมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 14 สิงหาคม ขณะที่ ดาบตำรวจเรวัฒน์ มีเจริญ สังกัด สภ.เสม็ด ได้พยายามประสานงานกับทางวิทยุกับดาบตำรวจ ประคอง ใหม่พรหมมา อายุ 51 ปี ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปราม สภ.เสม็ด และหัวหน้าศูนย์วิทยุหลายครั้งแต่ไม่มีเสียงตอบรับ จึงนึกเอะใจและเข้าไปตรวจสอบที่ห้องวิทยุของ สภ.เสม็ดพบว่า ดาบตำรวจประคองนั่งหมดสติบนเก้าอี้หน้าศูนย์วิทยุ และร่างกายมีอาการเกร็ง เรียกก็ไม่มีเสียงตอบรับ จึงได้ประสานงานกับหน่วยกู้ชีพของมูลนิธิธรรมรัศมีมณีรัตน์มาช่วยเหลือ โดยการช่วยกันปั๊มหัวใจหลายครั้ง แต่ไม่สามารถยื้อชีวิตของดาบตำรวจประคองได้ และเสียชีวิตในที่สุด ดาบตำรวจเรวัฒน์ มีเจริญ กล่าวว่า ดาบตำรวจประคองได้ปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าศูนย์วิทยุมาตั้งแต่ก่อตั้ง สภ.เสม็ดเมื่อปี 2552 และถือว่าเป็นไอดอลของตำรวจวิทยุ เนื่องจากได้มีการประสานงานในการช่วยจับคนร้ายที่มาก่อเหตุในพื้นที่ สภ.เสม็ดได้หลายครั้ง รวมทั้งต้อนรับขบวนเสด็จของราชวงศ์ก็ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด ทำให้ผู้บังคับบัญชารวมทั้งผู้ใต้บังคับบัญชารักใคร่ ก่อนที่จะเสียชีวิตได้ควงเวรวิทยุมาตั้งแต่เย็นเมื่อวันที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา และนั่งประสานงานจนกระทั่งเสียชีวิต เนื่องจากกำลังพลไม่พอ เพราะต้องนำกำลังตำรวจส่วนหนึ่งไปป้องกันการวางระเบิดที่เมืองพัทยา สำหรับดาบตำรวจประคองมีโรคประจำตัวคือเบาหวาน อาจจะทำให้หนักทำให้ร่างกายขาดน้ำตาล และเกิดอาการช็อคจนเสียชีวิตได้ ทางด้านภรรยาของดาบตำรวจประคองกล่าวทั้งน้ำตาว่า เสียใจอยู่ด้วยกันมานานไม่คิดว่าจะมาเสียชีวิตเร็วอย่างนี้ สำหรับดาบตำรวจประคองนั้น ได้พยายามสอบตำรวจชั้นสัญญาบัตรมาแล้วหลายครั้ง สอบข้อเขียนได้ทุกครั้ง แต่ติดในเรื่องของการตรวจสมรรถภาพทางร่างกาย วิ่งไม่ผ่านมา...

สาวชาวลาวนั่งเล่นโทรศัพท์ถ่ายเซลฟี่อยู่กับเพื่อนไม่ทันระวังถูกคนร้ายเข้ามาด้านหลังชิงโทรศัพท์ขณะถ่ายเซลฟี่กับเพื่อนวิ่งตามแย่งโทรศัพท์แต่สู้แรงคนก่อเหตุไม่ไหวขับขี่รถจักรยานยนต์หนีไปได้

    อัมพร/พัทยา สาวชาวลาวนั่งเล่นโทรศัพท์ถ่ายเซลฟี่อยู่กับเพื่อนไม่ทันระวังถูกคนร้ายเข้ามาด้านหลังชิงโทรศัพท์ขณะถ่ายเซลฟี่กับเพื่อนวิ่งตามแย่งโทรศัพท์แต่สู้แรงคนก่อเหตุไม่ไหวขับขี่รถจักรยานยนต์หนีไปได้                           เมื่อเวลา 13.00  น.  วันที่  14  ส.ค. 59    เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สถานีตำรวจภูธรเมืองชลบุรี ได้รับแจ้งจาก น.ส.จันสจร ไพรวัน อายุ 22 ปี สาวชาวลาว ว่าถูกคนร้ายชิงโทรศัพท์มือถือไปที่เกิดเหตุภายในซอยชมสำราญ ตำบลบ้านโขด อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี จึงรุดไปที่เกิดเหตุบริเวณกลางซอยชมสำราญ   พบ น.ส.จันสจร   สาวลาวยืนรอเจ้าหน้าที่อยู่ด้วยสีหน้าซีดเซียว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงทำการสอบถามข้อมูล รายละเอียด ของผู้มาก่อเหตุ                   โดย น.ส.จันสจร เล่าว่า   ก่อนเกิดเหตุตนเองได้ไปหาหมอมาเนื่องจากเจ็บแขนขวา หลังกลับมาแล้วได้นั่งคุยกับเพื่อนบริเวณโต๊ะหินอ่อนหน้าบ้านที่ตนเองทำงานอยู่ด้วย    ระหว่างที่กำลังนั่งคุยกันอยู่ตนเองได้หยิบโทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุงออกมาเพื่อจะทำการถ่ายรูปคู่กับเพื่อนและจะส่งให้เพื่อนที่รู้จักกันดูว่าตนเองไปหาหมอมาแล้ว     แต่ยังไม่ทันได้ถ่ายรูป ระหว่างนั้นไม่ทันระวังมีคนร้ายเข้ามาที่ด้านหลังคว้าโทรศัพท์มือถือของตนเองไป  ก่อนที่จะวิ่งหนีตนเองตกใจรีบวิ่งตามคนร้ายจนทันก่อนที่จะพยายามแย่งโทรศัพท์คืนมา   แต่เนื่องจากตนเองแขนเจ็บไม่มีแรงสู้คนร้ายจึงได้โทรศัพท์ไปพร้อมกับขี่รถจักรยานยนต์ที่จอดแอบไว้หลบหนีไป    คาดว่าคนร้ายที่มาก่อเหตุเห็นน.ส.จันสจร นั่งเล่นโทรศัพท์  จึงจอดรถแอบก่อนย่องเข้ามาด้านหลังและก่อเหตุในครั้งนี้